ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจที่น่าสนใจ ดังนี้
1. ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม เพิ่มติดต่อกัน 7 เดือนแล้ว
2. ยอดการส่งออกเดือน ก.ย.ลดลงร้อยละ 30.7
3. รัฐบาลญี่ปุ่นเข้าควบคุม JAL
4. แผนการทบทวนการแปรรูปกิจการไปรษณีย์
-----------------------------------
กระทรวงเศรษฐกิจการค้าและอุตสาหกรรมรายงานว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (Industrial Output) เดือน ก.ย.เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 1.6 เทียบกับเดือน ส.ค.ที่ร้อยละ 1.4 เพิ่มติดต่อกัน 7 เดือนแล้วและเป็นการเพิ่มติดต่อกันยาวนานที่สุดในรอบ 12 ปี นอกจากนี้ Cabinet Office รายงานว่า ปริมาณการขนส่งสินค้าทางเรือเดือน ก.ย.ได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.4 เทียบกับเดือน ส.ค. เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของการส่งออกสินค้าไปจีนเพิ่มขึ้น แสดงถึงแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่สดใสของญี่ปุ่น
กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยว่า การเกินดุลการค้าเดือน ก.ย.52 อยู่ที่ 520.6 พันล้านเยน ลดลงเทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อนหน้า แต่เป็นตัวเลขเกินดุลสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้
อย่างไรก็ตาม ยอดการส่งออกลดลงร้อยละ 30.7 จำนวน 5.10 ล้านล้านเยน เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อนหน้า โดยการส่งออกรถยนต์ไปยังรัสเซียและเหล็กกล้าไปยังเกาหลีใต้ลดลงอย่างมากนอกจากนี้ การส่งออกไปยังสหรัฐฯ สหภาพยุโรปและเอเชีย ก็ลดลงร้อยละ 34.1, 38.6 และ 22.2ตามลำดับ ในขณะเดียวกันยอดการนำเข้าก็ลดลงร้อยละ 36.9 อยู่ที่ 4.58 ล้านล้านเยน เนื่องจากราคาสินค้านำเข้าในหมวดพลังงานลดลง
ดุลการค้าประจำเดือนกันยายน 2552
หน่วย: พันล้านเยน
ยอดการส่งออก (ร้อยละ) ยอดการนำเข้า (ร้อยละ) ดุลการค้า (ร้อยละ)
สหรัฐฯ 833.3 (-34.1) 462.1 (-34.3) 371.3 (-33.8)
สหภาพยุโรป 601.7 (-38.6) 469.4 (-22.9) 132.3 (-64.3)
เอเชีย(รวมจีน) 2,803.9 (-22.2) 2,080.9 (-29.1) 723.0 (8.0)
สาธารณรัฐประชาชนจีน 981.5 (-13.8) 1,048.4 (-24.6) -66.9 (-)
รวม 5,104.7 (-30.7) 4,584.1 (-36.9) 520.6 (-)
ที่มา กระทรวงการคลังญี่ปุ่น
3. รัฐบาลญี่ปุ่นเข้าควบคุมกิจการ JALรัฐบาลกำลังพิจารณาร่างกฎหมายฉบับพิเศษเพื่อฟื้นฟูกิจการ JAL เพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ ภายในเดือน ม.ค.หน้า และจัดตั้งคณะทำงานฟื้นฟูกิจการซึ่งประกอบด้วยกระทรวงที่เกี่ยวข้อง โดยร่างกฏหมายใหม่จะให้อำนาจ 1) รัฐบาลสามารถเพิ่มเงินทุนให้แก่บริษัท 2) ลดบำนาญพนักงานให้อยู่ในระดับใกล้เคียงกับเอกชน 2) ให้รัฐบาลสามารถค้ำประกันการกู้เงินจากธนาคารรายใหญ่ 4 แห่ง
ปัจจุบัน JAL กำลังเผชิญปัญหาฐานะทางการเงินอย่างรุนแรง และอยู่ในระหว่างการเจรจาขอประนีประนอมหนี้กับสถาบันการเงินเพื่อขอตัดหนี้สูญ (Write-Off) จำนวน 250 พันล้านเยน หรือขอแปลงหนี้เป็นหุ้นแทน นอกจากนี้ JAL กำลังเผชิญปัญหาภาระการจ่ายบำนาญแก่พนักงานเป็นจำนวนมากทำให้สถาบันการเงินไม่ต้องการปล่อยสินเชื่อเพิ่มเติมเนื่องจากเกรงว่าจะถูกนำไปจ่ายเป็นบำนาญแทนการนำไปฟื้นฟูกิจการที่แท้จริง ซึ่งผลของ การปรับปรุงกิจการดังกล่าวจะทำให้ JAL ต้องลดจำนวนพนักงานลงถึง 9,000 ตำแหน่ง ลดจำนวนเที่ยวบินลงทั้งเที่ยวบินต่างประเทศและในประเทศมากกว่า 45 เที่ยวบินและขายกิจการโรงแรมในเครือเพื่อหารายได้เพิ่มขึ้น
รัฐบาลญี่ปุ่นได้แต่งตั้งนาย นาย Jiro Saito เป็นผู้ว่าการกิจการไปรษณีย์ (Japan Post Holdings Co.) แทนนาย Yoshifumi Nishikawa ผู้ว่าการคนเก่าที่ได้ลาออกไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้ทุกฝ่ายกำลังจับตามองแนวทางการแก้ปัญหาของผู้ว่าการคนใหม่นี้เนื่องจาก Japan Post Holdings Co.นั้นยังมีปัญหาที่จะต้องแก้ไขอีกมากมาย ภายหลังจากการเริ่มต้นการแปรรูปกิจการเป็นเอกชนตั้งแต่ปี 2550
รัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี Yukio Hatoyama ได้ประกาศปรับปรุงแก้ไขโครงสร้างการแปรรูปครั้งนี้ โดยได้ตั้งเป้าไปยังการแก้ไขระบบการบริหารงานปัจจุบันที่มีการแบ่งออกเป็น 4 หน่วยงานภายใต้ Japan Post Holdings Co.ได้แก่
1. Japan Post Service Co.
2. Japan Post Network Co
3. Japan Post Bank Co
4. Japan Post Insurance
ภายใต้โครงสร้างดังกล่าว มีจุดอ่อนคือสร้างความไม่สะดวกแก่ประชาชนเนื่องจากแต่ละบริษัทมีความเชี่ยวชาญเฉพาะธุรกิจของตนเอง โดยภายใต้แผนการใหม่เห็นว่าควรจะให้ Japan Post Holdings Co.ควบรวมกิจการกับ Japan Post Service Co., Japan Post Network Co และให้บริษัท Japan Post Bank Co, Japan Post Insurance เป็นบริษัทในเครือ ทำให้มีบริษัทเพียง 3 แห่งจากเดิม 5 แห่ง ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะทำให้ Japan Post Holdings Co.กลับมาเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่มีจำนวนพนักงานมากกว่า 2 แสนคนอีกครั้ง เช่นเดียวกับเดิมที่เป็นรัฐวิสาหกิจ
สำหรับด้านเงินทุน รัฐบาลมีแผนที่จะนำรายได้จาก Japan Post Bank Co, Japan Post Insurance มาสนับสนุนกิจการไปรษณีย์ โดยแต่เดิมรัฐบาลมีแผนที่จะขายหุ้นของบริษัท Japan Post Holdings Co.จำนวนร้อยละ 2 ถึง 3 และขายหุ้นของ Japan Post Bank Co, Japan Post Insurance ทั้งหมดภายในปี 2560 แต่ภายหลังจากการเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ได้มีการประกาศยกเลิกการขายหุ้นดังกล่าวของสองบริษัทรวมทั้งรัฐบาลจะกลับมาถือหุ้นทั้งหมดของ Japan Post Holdings Co. โดยให้เหตุผลว่าเพื่อให้บริการที่ครบถ้วน (Universal Banking) และเป็นประโยชน์ที่แท้จริงแก่ประชาชนในท้องถิ่น และช่วยให้การสนับสนุนทางการเงินแก่ธุรกิจไปรษณีย์ ซึ่งภาคเอกชนได้ออกมาแสดงความเห็นว่าเป็นการดำเนินการที่สร้างการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมแก่สถาบันการเงินของเอกชน
สำนักงานที่ปรึกษาเศรษฐกิจและการคลัง ณ กรุงโตเกียว
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th