1. รายได้ส่วนบุคคล (Personal Income) ของสหรัฐฯ ในเดือนกันยายน 2552 คงตัวที่ระดับเดียวกันกับเดือนก่อนหน้า หลังจากเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.1 ในเดือนสิงหาคม 2552 ทั้งนี้ รายได้และเงินเดือนภาคเอกชนในเดือนกันยายนปรับลดลงร้อยละ 0.2 หลังจากกระเตื้องขึ้นร้อยละ 0.2 ในเดือนก่อนหน้า
2. รายได้ส่วนบุคคลสุทธิ (Disposable Personal Income - DPI) หรือรายได้ที่ครัวเรือนได้รับหลังหักภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่สามารถนำไปใช้เพื่อการอุปโภคบริโภคหรือการออมนั้น ปรับตัวลดลง 0.2 พันล้านเหรียญสรอ. หรือร้อยละ 0.1 จากเดือนก่อนหน้า หลังจากปรับตัวดีขึ้น 14.1 พันล้านเหรียญสรอ. หรือร้อยละ 0.1 ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
3. รายได้ส่วนบุคคลที่สามารถนำไปใช้จ่ายได้จริง (Real Disposable Personal Income - Real DPI) หรือรายได้สุทธิหลังหักภาษีและเงินเฟ้อเพื่อการอุปโภคบริโภคหรือการออมได้จริงปรับตัวลดลงต่อเนื่องที่ร้อยละ 0.1 และร้อยละ 0.2 ในเดือนกันยายนและสิงหาคม 2552 ตามลำดับ จากผลของระดับราคาที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
4. ยอดการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคอุปโภคส่วนบุคคลที่แท้จริง (Real Personal Consumption Expenditures - Real PCE) ชะลอตัวร้อยละ 0.6 ในเดือนกันยายน 2552 หลังจากขยายตัวที่ร้อยละ 1.0 ในเดือนก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ มูลค่าการใช้จ่ายด้านสินค้าคงทน (Durable Goods) ในเดือนกันยายนชะลอตัวร้อยละ 7.2 เปรียบเทียบกับอัตราการขยายตัวที่ร้อยละ 6.7 ในเดือนสิงหาคม สืบเนื่องจากการสิ้นสุดการบังคับใช้กฎหมาย Cash-for-Clunkers Act ที่มีส่วนกระตุ้นปริมาณการใช้จ่ายของผู้บริโภคในด้านยานพาหนะ ส่วนมูลค่าการใช้จ่ายด้านสินค้าไม่คงทน (Non-Durable Goods) ในเดือนกันยายนขยายตัวร้อยละ 0.5 ต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าซึ่งขยายตัวที่ร้อยละ 0.9 ส่วนปริมาณการใช้จ่ายด้านบริการปรับตัวดีขึ้นร้อยละ 0.1 เปรียบเทียบกับการขยายตัวที่ร้อยละ 0.2 ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
5. ระดับราคา (PCE Price Index) ซึ่งวัดโดยดัชนีราคาของการใช้จ่ายในการอุปโภคบริโภคส่วนบุคคลในเดือนกันยายนเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ร้อยละ 0.1 หลังจากดีดตัวสูงขึ้นร้อยละ 0.3 ในเดือนสิงหาคม 2552 ทั้งนี้ ดัชนีราคาของการใช้จ่ายในการอุปโภคบริโภคส่วนบุคคลที่ไม่รวมสินค้าอาหารและน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.1 ที่อัตราเดียวกันกับเดือนก่อนหน้า
6. การออมส่วนบุคคล (Personal Saving) ที่คิดเป็นสัดส่วนจากรายได้ส่วนบุคคลที่สามารถนำไปใช้จ่ายได้จริงปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 3.3 หลังจากลดลดต่อเนื่องในช่วงสามเดือนก่อนหน้าโดยระดับการออมในเดือนสิงหาคม 2552 อยู่ที่ร้อยละ 2.8
รายละเอียดข้างต้น สามารถสรุปได้ดังตารางต่อไปนี้
Average Growth August September
last 12 months 2009 2009 Personal Income -0.2% 0.1% 0.0% Real DPI 0.1% -0.2% -0.1% Real PCE 0.0% 1.0% -0.6% PCE Price 0.0% 0.3% 0.1% Personal Saving Rate 4.0% 2.8% 3.3% ที่มา: สำนักวิเคราะห์เศรษฐกิจสหรัฐฯ (www.bea.gov)
ปริมาณการใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคส่วนบุคคลในเดือนกันยายน 2552 ที่ลดลงหลังจากกระเตื้องขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงสี่เดือนก่อนหน้าได้สะท้อนให้เห็นว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจไตรมาสก่อนหน้านั้น นับเป็นผลจากมาตรกระตุ้นเศรษฐกิจของทางการที่สิ้นสุดลงในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาเป็นหลักทั้งนี้ ในภาะการณ์ปัจจุบัน ด้วยรายได้ส่วนบุคคลโดยเฉพาะในส่วนของรายได้ภาคเอกชนที่ยังคงอ่อนตัว ประกอบกับราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น และตลาดแรงงานที่อ่อนตัวต่อเนื่อง จึงเป็นไปได้ยากที่สหรัฐน จะสามารถกระตุ้นอุปสงค์ภายในประเทศได้อย่างแท้จริง อย่างไรก็ตาม การใช้จ่ายในช่วงเทศกาลปีใหม่น่าจะมีส่วนกระตุ้นปริมาณการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี ประกอบกับอัตราเงินเฟ้อที่ไม่รวมสินค้าอาหารและพลังงานในรอบ 1 ปีที่ผ่านมาที่เพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 1.3 ซึ่งถือว่าต่ำที่สุดในรอบ 8 ปี นับเป็นปัจจัยบวกที่จะช่วยกระตุ้นภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ได้ส่วหนึ่งทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์การขยายตัวของปริมาณใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ร้อยละ 1.0 ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2552
ที่มา : Macroeconomic Analysis Group : Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th