รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 9 พฤศจิกายน 2552

ข่าวเศรษฐกิจ Monday November 9, 2009 10:28 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 9 พ.ย. 2552

Summary:

1. ม.หอการค้าไทยคาดอสังหาริมทรัพย์ฟื้นตัวไตรมาส 3 ปี 53

2. ไทยฮับรถ - ไฮเทคอาเซียน

3. มาเลเซียประกาศนโยบายยานยนต์แห่งชาติฉบับใหม่ เน้นการผลิตรถยนต์เพื่อสิ่งแวดล้อม

Highlight:
1. ม.หอการค้าไทยคาดอสังหาริมทรัพย์ฟื้นตัวไตรมาส 3 ปี 53
  • ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.หอการค้าไทย กล่าวในงานเสวนาทิศทางเศรษฐกิจที่มีผลต่อธุรกิจอสังหาฯปี 53 ว่า ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีสัญญาณฟื้นตัวชัดเจนและมีการซื้อ-ขายดีขึ้นในไตรมาส 3 ปี 53 และคาดว่าความต้องการจะมีมากขึ้นตลอด 3 ปีข้างหน้า โดยได้รับปัจจัยบวกจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจไทยเข็มแข็ง การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก รวมถึงการเปิดการค้าเสรีในอาเซียน ที่จะทำให้เกิดการลงทุนในอินโดจีนมากขึ้น ทั้งนี้ คาดว่าปี 53 เศรษฐกิจไทยขยายตัวไม่ต่ำกว่าร้อยละ 2 - 3 ต่อปี
  • สศค. วิเคราะห์ว่า ภาคอสังหาริมทรัพย์ของไทยฟื้นตัวแล้วอย่างชัดเจน โดยดูจากปริมาณจำหน่ายปูนซีเมนต์และเหล็กในไตรมาส 3 ที่ขยายตัวร้อยละ 2.9 และ 1.1 ต่อปี เทียบกับไตรมาส 2 ที่มีการหดตัวร้อยละ -6.7 และ -34.6 ต่อปี ตามลำดับ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ามีการขยายการก่อสร้างเพิ่มขึ้น ตามสถานการณ์เศรษฐกิจที่ค่อยๆ ฟื้นตัว และอานิสงค์จากโครงการไทยเข้มแข็ง ทั้งนี้ สศค. คาดว่า การลงทุนภาคเอกชนในปี 52 จะหดตัวร้อยละ -13.7 ต่อปี และกลับมาขยายตัวเป็นบวกในปี 53 ที่ร้อยละ 2.7 - 9.0 ต่อปี ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยปี 53 ขยายตัวร้อยละ 3.0 - 4.0 ต่อปี
2. ไทยฮับรถ - ไฮเทคอาเซียน
  • อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศเปิดเผยว่า การลดภาษีตามข้อตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียนหรืออาฟตาที่มีผลวันที่ 1 ม.ค. 2553 สินค้าอุตสาหกรรมของไทย คือ ยานยนต์และชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ จะได้ประโยชน์จากการใช้วัตถุดิบในอาเซียนตามการแบ่งงานกันผลิตชิ้นส่วนในประเทศสมาชิก ซึ่งจะส่งผลให้อุตสาหกรรมของไทยพัฒนาเป็นศูนย์กลางการผลิตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ สำหรับข้อตกลงการค้าอื่นๆ ที่จะมีผลบังคับใช้วันที่ 1 ม.ค.ปีหน้า ผู้ประกอบการไทยจะได้ประโยชน์จากข้อตกลงการค้าเสรี อาเซียน-จีน ลดภาษี 0% เกือบ ทุกสินค้า อาเซียน-เกาหลี ภาษี 0% ใน 90% ของสินค้า รวมถึงเอฟทีเออาเซียน-ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์
  • สศค. วิเคราะห์ว่า ในปี 51 สัดส่วนของการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และยานยนต์และส่วนประกอบอยู่ที่ร้อยละ 17.5 และ 11.0 ของการส่งออกสินค้าทั้งหมด โดยตลาดหลักสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ของไทย ได้แก่ จีน สหรัฐฯ ฮ่องกง ส่วนตลาดหลักสินค้ายานยนต์ ได้แก่ ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ซึ่งเป็นตลาดที่จะได้รับปัจจัยบวกจากเขตการค้าเสรี ทั้งนี้ ในเดือนก.ย. 52 การส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์หดตัวร้อยละ -5.3 ต่อปี ขณะที่การส่งออกยานยนต์และส่วนประกอบหดตัวร้อยละ -24.1 ต่อปี ซึ่งเป็นการปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 และคาดว่าสินค้าใน 2 หมวดนี้ จะเป็นอุตสาหกรรมหลักในการขับเคลื่อนการส่งออกไทยในปี 53
3. มาเลเซียประกาศนโยบายยานยนต์แห่งชาติฉบับใหม่ เน้นการผลิตรถยนต์เพื่อสิ่งแวดล้อม
  • รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าต่างประเทศและอุตสาหกรรมมาเลเซีย ประกาศนโยบายยานยนต์แห่งชาติฉบับใหม่ โดยมุ่งเน้นการส่งเสริมการผลิตรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ไฮบริดและรถไฟฟ้า โดยมีมาตรการจูงใจทั้งทางภาษีและการให้เงินทุนสนับสนุน โดยได้รับความร่วมมือจากกระทรวงพลังงาน เทคโนโลยีสีเขียว และทรัพยากรน้ำอีกด้วย โดยยอมรับว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยก้าวล้ำมาเลเซียไปแล้วแม้จะเริ่มต้นช้ากว่า
  • สศค. วิเคราะห์ว่า นโยบายดังกล่าว จะมีส่วนผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์ของมาเลเซียซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าประมาณ 6 พันล้านริงกิตได้เป็นอย่างมาก เนื่องจากนโยบายดังกล่าวมีทั้งการเปิดโอกาสให้บริษัทต่างชาติมาตั้งฐานการผลิตรถยนต์ขนาดใหญ่ในประเทศ และมาตรการจูงใจด้านภาษี และมุ่งเน้นการผลิตรถยนต์เพื่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งในภาวะที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกยังคงผันผวน การสนับสนุนการผลิตรถยนต์พลังงานทางเลือกเป็นนโยบายที่สามารถเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาสได้ ซึ่งหากไทยยังคงไม่มีมาตรการเกี่ยวกับรถยนต์พลังงานทางเลือกที่แน่ชัด นโยบายฉบับนี้อาจส่งผลลบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ไทยได้ อนึ่ง อุตสาหกรรมยานยนต์ของไทย มีสัดส่วนร้อยละ 5.4 ของการผลิตภาคอุตสาหกรรมรวม และมีสัดส่วนการส่งออกถึงร้อยละ 11.0 ของมูลค่าการส่งออกรวมของปี 2551

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office

Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ