1. ดัชนีเศรษฐกิจสำคัญเดือน ก.ย.52 ที่ประกาศในสัปดาห์นี้
1.1 ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือน ก.ย.52 ลดลงร้อยละ 2.3 ลดลงต่อเนื่องติดต่อกัน 7 เดือนแล้ว
1.2 อัตราการว่างงานลดลงเหลือร้อยละ 5.3 ลดลงติดต่อกัน 2 เดือนแล้ว
2. รายได้จากการเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลต่ำกว่าเป้า 1.3 ล้านล้านเยน ครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2503
3. ญี่ปุ่นและจีนลงนามในความตกลงร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อมหลายสาขา
----------------------------------- 1. ดัชนีเศรษฐกิจที่ประกาศในสัปดาห์นี้
1.1 ดัชนีราคาผู้บริโภค (Core Consumer Price Index) กระทรวงมหาดไทยและการสื่อสารได้เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค ยกเว้นอาหารสด (CPI, ปี 2548=100) ประจำเดือน ก.ย.52 ลดลงร้อยละ 2.3 อยู่ที่ 100.2 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อนหน้า ดัชนีราคาผู้บริโภคได้ลดลงต่อเนื่องติดต่อกัน 7 เดือนแล้ว เนื่องจากราคาอาหารและเสื้อผ้าลดลง แสดงถึงภาวะเงินฝืดยังคงมีอยู่
1.2 อัตราการว่างงาน(Unemployment Rate) อัตราการว่างงานลดลงเป็นร้อยละ 5.3 เทียบกับร้อยละ 5.5 ในเดือน ส.ค.52 ซึ่งการลดลงติดต่อกันเป็น 2 เดือน .......
รายได้จากการเก็บภาษีนิติบุคคลในครึ่งปีแรกปีงบประมาณ 2552 ลดลงร้อยละ 24.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว อยู่ที่ 10.923 ล้านล้านเยน เนื่องจากบรรดาบริษัทที่ขาดทุนขอคืนภาษีเงินได้นิติบุคคลที่จ่ายเกิน ส่งผลให้รายได้จากการเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลต่ำกว่าเป้าจำนวน 1.3075 ล้านล้านเยน ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2503 รวมทั้งรายได้จากการเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และภาษีบริโภค (VAT) ก็ลดลงเช่นกัน คาดว่ารายได้จากการเก็บภาษีในปีงบประมาณ 2552 อยู่ระดับ 30 ล้านล้านเยน ในขณะที่รัฐบาลมีรายจ่ายเพิ่มขึ้นจากแผนกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อช่วยเหลือภาคครัวเรือน ส่งผลให้ต้องมีการออกพันธบัตรเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ในระหว่างการประชุมความร่วมมือญี่ปุ่น-จีนเพื่อประหยัดพลังงานและปกป้องสิ่งแวดล้อม ครั้งที่ 4 ซึ่งมีนาย Xie Zhenhua, Vice Minister of China’s National Development and Reform Commission (NDRC) และนาย Masayuki Naoshima รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรมญี่ปุ่น ได้ลงนามในความตกลงร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อมจำนวน 42 โครงการ ซึ่งเกี่ยวข้องกับโครงการก่อสร้างเพื่อบำบัดน้ำเสีย โรงงานผลิตไฟฟ้าจากขยะ รวมทั้งการศึกษาวิจัยร่วมกันด้านการประหยัดพลังงาน เป็นต้น
เพื่อให้สามารถดำเนินการเรื่องนี้ได้ต่อเนื่องและราบรื่น รัฐบาลโดยนาย Chen Jian, Vice Minister of Commerce จีน จะเข้ามาดูแลเรื่องนี้เอง โดยจะให้สิทธิประโยชน์ด้านการลงทุนต่างๆต่างๆ เพื่อแลกกับประโยชน์การถ่ายทอดเทคโนโลยี่ด้านนวัตกรรมสิ่งแวดล้อมจากเอกชนญี่ปุ่น
ก่อนหน้านี้ นาย Hu Jintao ประธานาธิบดีจีนได้ประกาศที่การประชุมสุดยอด United Nations Climate Summit ในเดือนกันยายนที่ผ่านมาว่า จีนจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงอย่างมากในปี 2563 เมื่อเทียบกับปี 2548 (ไม่ได้ตั้งเป้าลดเป็นตัวเลข) ซึ่งนอกจากจะร่วมมือกับญี่ปุ่นดังกล่าวแล้ว ปัจจุบันจีนยังเพิ่มการผลิตพลังงานไฟฟ้าประเภท พลังงานทดแทน (Renewable Energy) พลังงานไฟฟ้านิวเคลียร์ เพิ่มการผลิตพลังงานไฟฟ้าจาก non-fossil fuels ชนิดต่างๆ เนื่องจากพลังงานไฟฟ้าแบบ fossil fuels เป็นต้นเหตุของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นจำนวนมาก
สำนักงานที่ปรึกษาเศรษฐกิจและการคลัง ณ กรุงโตเกียว
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th