Macro Morning Focus ประจำวันที่ 11 พ.ย. 2552
Summary:
1. ประชาชนในกรุงเทพฯ ร้อยละ 79 เห็นด้วยกับการปรับหนี้ภาคประชาชน
2. แนวโน้มกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ คาดผ่านจุดต่ำสุดแล้ว
3. เวียดนามส่งออกข้าวมากสุดรอบ 20 ปี
Highlight:
1. ประชาชนในกรุงเทพฯ ร้อยละ 79 เห็นด้วยกับการปรับหนี้ภาคประชาชน
- ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพล) ทำการสำรวจประชาชนในรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 1,416 คน ระหว่างเดือน พ.ย. 52 พบว่า ร้อยละ 79 เห็นด้วยกับโครงการพยุงหนี้นอกระบบของรัฐบาล และไม่เห็นด้วยร้อยละ 21 เนื่องจากเป็นหนี้ส่วนบุคคลก่อขึ้นมาเองเชื่อว่าแก้ปัญหาหนี้สินไม่ได้ และเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ในขณะที่ ร้อยละ 51.2 ระบุว่าการจัดการวางแผนการใช้จ่ายที่เหมาะสม ไม่ฟุ่มเฟือย ร้อยละ 28.1 เห็นว่าภาครัฐควรเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศให้ดีขึ้น
- สศค. วิเคราะห์ว่า ปัญหาหนี้สินนอกระบบได้ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น รัฐบาลจึงได้ดำเนินนโยบายปรับโครงสร้างหนี้ (Refinance) นอกระบบ ในปี 2547-2548 จำนวนประชาชนผู้ลงทะเบียนปัญหาหนี้สินในระบบและนอกระบบ คิดเป็น 4.5 ล้านคน และ 1.7 ล้านคน ตามลำดับ โดยจะมีการช่วยเหลือผู้มีหนี้สินนอกระบบโดยการลงทะเบียนผ่านธนาคารรัฐได้ภายในสิ้นปีนี้ โดยภาครัฐจะปรับโครงสร้างหนี้ไม่เกินรายละ 200,000 บาท อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจำเป็นต้องบริหารความเสี่ยงของธนาคารของรัฐที่เข้าร่วมโครงการและป้องกันมิให้ประชาชนเมื่อได้รับการปรับหนี้จะเข้าสู่การเป็นหนี้สินนอกระบบอีกในอนาคต
2. แนวโน้มกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ คาดผ่านจุดต่ำสุดแล้ว
- บล.ฟินันเซียไซรัสมองภาพอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ว่าได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในไตรมาส 2/52 สะท้อนให้เห็นจากยอดขายเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกที่ฟื้นตัวต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเดือนที่ 7 และยอดขายในไตรมาส 3/52 เติบโตเหนือความคาดหมายปรับตัวเพิ่มขึ้น 19.7% qoq ขณะที่ตัวเลข Book to Build ปรับตัวแตะ 1.17 เท่า ในเดือนก.ย. แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นและยอดขายในอนาคตที่ดีขึ้น แต่การฟื้นตัวของดีมานด์ที่แท้จริงยังต้องใช้เวลาอย่างค่อยเป็นค่อยไป ภาพรวมจึงให้น้ำหนักการลงทุนของกลุ่มอุตสาหกรรมนี้มากกว่าตลาดโดยรวม
- สศค. วิเคราะห์ว่า ภาคอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์มีการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง นับตั้งแต่เดือน ก.พ. 52 เป็นต้นมา โดยดัชนีอุตสาหกรรมหมวดอิเล็กทรอนิกส์ได้ปรับตัวขึ้นจากระดับ 55.1 จุด ในเดือน ม.ค. 52 มาอยู่ที่ระดับ 111.1 จุด ในเดือน ก.ย. 52 ซึ่งเข้าใกล้ระดับเฉลี่ยในช่วงก่อนเกิดวิกฤติเศรษฐกิจโลกที่ระดับ 125.1 จุด ซึ่งสอดคล้องกับการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่เคยหดตัวถึงร้อยละ -40.4 ในเดือนม.ค. 52 มาหดตัวเพียงร้อยละ -5.3 ในเดือน ก.ย. 52 แสดงให้เห็นถึงอุปสงค์ในตลาดโลกที่ฟื้นกลับมาจนใกล้เคียงระดับเดิม ทั้งนี้คาดว่าอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์จะกลับมาขยายได้อีกครั้งในไตรมาสที่ 1/53
3. เวียดนามส่งออกข้าวมากสุดรอบ 20 ปี
- สำนักงานสถิติเวียดนาม เผย ยอดส่งออกข้าวช่วง 10 เดือนแรกของปี 52 (ม.ค. 52 — ต.ค. 52) อยู่ที่ 5.33 ล้านตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 32.8 ต่อปี อย่างไรก็ดี เมื่อเทียบเป็นมูลค่ารายปีแล้วมูลค่าการส่งออกลดลงร้อยละ 7.8 เหลือ 2.37 พันล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ เวียดนามได้เซ็นสัญญาส่งออกข้าวทุกประเภทไปแล้ว 6.04 ล้านตัน ซึ่งถือเป็นตัวเลขส่งออกที่สูงเป็นประวัติการณ์ในช่วง 20 ปี เนื่องจากประเทศผู้นำเข้า อย่างฟิลิปปินส์และอินเดียได้แสดงความสนใจที่จะนำเข้าข้าวของเวียดนาม
- สศค. วิเคราะห์ว่า สถานการณ์ราคาข้าวในประเทศและราคาส่งออกข้าวเริ่มปรับตัวดีขึ้น ซึ่งสาเหตุสำคัญมาจากสถานการณ์ภัยแล้งและอุทกภัย และฟิลิปปินส์ที่ต้องนำเข้าข้าวในปริมาณที่สูงเนื่องจากพื้นที่เพาะปลูกได้รับความเสียหายจากพายุใต้ฝุ่นทำให้ผลผลิตตกต่ำถึงร้อยละ 10 ทั้งนี้ ปริมาณความต้องการข้าวที่เพิ่มสูงขึ้นจะส่งผลให้ราคาข้าวในตลาดโลกเพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ดี การที่ราคาสินค้าเกษตรที่เพิ่มขึ้นจะเป็นการจูงใจให้เกษตรกรเพาะปลูกเพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกันจะส่งผลดีต่อรายได้เกษตรกรที่ยังคงหดตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนปรับตัวเพิ่มขึ้นตามด้วย ทั้งนี้ สถานการณ์ล่าสุด 9 เดือนแรกของปี 52 รายได้เกษตรหดตัวร้อยละ -13.0 ต่อปี ขณะที่รายได้เกษตรกรที่แท้จริงหดตัวร้อยละ -13.2 ต่อปี
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th