FPO WEEKLY CONSENSUS (16 พฤศจิกายน 2552)

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday November 17, 2009 11:54 —กระทรวงการคลัง

สรุปความเห็นนักวิเคราะห์ต่อทิศทางตลาดเงินตลาดทุนสัปดาห์นี้

คาดว่าค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้จะแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย โดยนักวิเคราะห์ 8 ราย คาดว่าเงินบาทในสัปดาห์นี้มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นจากสัปดาห์ก่อน เนื่องจากค่าเงิน USD ยังคงอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง หลังจากตัวเลขดุลการค้าของสหรัฐฯ ขาดดุลสูงสุดในรอบกว่า 10 ปี รวมทั้งตัวเลข Consumer Sentiment ของมหาวิทยาลัยมิชิแกนที่ต่ำสุดในรอบ 3 เดือน ส่งผลให้มีความกังวลถึงความไม่แน่นอนของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ฯ ประกอบกับคาดว่าเงินบาทจะแข็งค่าขึ้นตามค่าเงิน CNY จากการที่สหรัฐฯและจีนเจรจาด้านการค้าระหว่างกัน ซึ่งทางการจีนอาจจะผ่อนคลายให้ CNY แข็งค่าขึ้นอีก ส่งผลให้ค่าเงิน Asians/USD แข็งค่าขึ้นตาม ส่วนนักวิเคราะห์ 2 ราย มองว่าเงินบาทในสัปดาห์มีแนวโน้มอ่อนค่าลงเล็กน้อย เนื่องจากอาจมีแรงกดดันจากปัจจัยทางการเมืองในประเทศเข้ามามีผลต่อการตัดสินใจของนักลงทุน ประกอบกับคาดว่ามีแรงซื้อดอลลาร์เพื่อทำกำไรระยะสั้น ส่วนนักวิเคราะห์อีก 2 ราย คาดว่าเงินบาทไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก เนื่องจากธปท. พยุงค่าเงินบาทไม่ให้แข็งค่ามากไปกว่านี้ เพื่อรักษาเสถียรภาพด้านการส่งออกของไทย

สำหรับ Bond Yield อายุ 2 ปี จะลดลงเล็กน้อย โดยนักวิเคราะห์ 7 รายคาดว่าแนวโน้มของ yield จะยังคงปรับตัวลงตามตลาด US Treasury bonds จากการที่นักลงทุนเริ่มไม่มั่นใจกับภาวการณ์เติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และแนวโน้มเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ยังอยู่ในระดับต่ำ อีกทั้งตลาดหุ้นที่มีการปรับตัวลดลงค่อนข้างมากในอาทิตย์ที่ผ่านมาน่าจะทำให้มีแรงซื้อกลับเข้ามาในพันธบัตรรัฐบาล ส่วนนักวิเคราะห์ 3 ราย คาดว่า Yield มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนเริ่มกังวลในเรื่องอุปทานภาครัฐที่จะมีการประมูลพันธบัตรมูลค่า 15,000 ล้านบาท ส่วนนักวิเคราะห์อีก 1 ราย คาดว่า Yield ไม่เปลี่ยนแปลง

คาดว่า Bond Yield อายุ 10 ปี จะปรับตัวลงเล็กน้อย โดยมีนักวิเคราะห์ 6 รายมองว่า Yield น่าจะปรับตัวลงจากช่วงปลายสัปดาห์ก่อน เนื่องจากผลของแรงซื้อของธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อการเข้าเก็งกำไรค่าเงินในช่วง THB มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น ส่วนนักวิเคราะห์อีก 5 รายคาดว่า Yield มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเนื่องจากปรับตัวตาม US Treasury bonds ที่มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากความกังวลของอุปทานของพันธบัตร และนักวิเคราะห์อีก 1 ราย คาดว่าไม่เปลี่ยนแปลง

คาดว่า SET มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นเล็กน้อย โดยนักวิเคราะห์ 6 รายคาดว่า SET จะปรับตัวขึ้น เนื่องจากแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติมีแนวโน้มชะลอลง และคาดว่าค่าเงิน USD ยังคงอ่อนค่าอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับคาดว่าผลคดีมาบตาพุตจะออกมาในเชิงบวก ส่วนนักวิเคราะห์อีก 5 รายคาดว่า SET จะปรับตัวลงเล็กน้อย เนื่องจากตลาดยังคงมีผันผวนสูงโดย SET ยังคงอิงกับตลาดหุ้นภูมิภาคเป็นหลัก ประกอบกับคาดว่าตลาดต่างประเทศอาจปรับตัวลงตามแรงขายcommodity อีกทั้งปัญหาการเมืองภายในประเทศ

นักวิเคราะห์คาดว่าในสัปดาห์นี้นักลงทุนต่างชาติจะขายสุทธิใน SET อย่างต่อเนื่อง แต่น่าจะในปริมาณที่ลดลง ส่วนนักลงทุนสถาบันจะซื้อสุทธิใน SET ตามแรงซื้อกองทุนปลายปี

ความเห็น สศค.

คาดว่าเงินบาทจะแข็งค่าขึ้น จากการที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีการเยือนจีนและเกาหลีในสัปดาห์นี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับค่าเงินหยวนที่อ่อนค่าเกินจริง และการเกินดุลการค้าสหรัฐฯ ที่อยู่ในระดับที่สูง ซึ่งผลจากการพบกันครั้งนี้คาดว่าจะมีผลต่อทิศทางค่าเงินบาทและค่าเงินในภูมิภาคเอเชีย

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office

Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ