รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 20 พฤศจิกายน 2552

ข่าวเศรษฐกิจ Friday November 20, 2009 11:39 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 20 พ.ย. 2552

Summary:

1. ผลดำเนินงานบริษัทจดทะเบียน 9 เดือนแรกกำไรกว่า 3 แสนล้านบาท

2. ม.หอการค้าไทยคาดจีดีพีปี53จะขยายตัวที่ประมาณร้อยละ 3.2 ต่อปี

3. เศรษฐกิจสิงค์โปร์ในไตรมาสที 3 กลับมากขยายตัวเป็นบวกที่ร้อยละ 0.6 ต่อปี

Highlight:
1. ผลดำเนินงานบริษัทจดทะเบียน 9 เดือนแรกกำไรกว่า 3 แสนล้านบาท
  • ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเปิดเผยว่าใน 9 เดือนแรกปี 2552 บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมีกำไรสุทธิรวม 323,928 ล้านบาท ซึ่งแม้กำไรสุทธิรวมจะลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 17 แต่ก็มีจำนวนบริษัทที่มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจาก 353 บริษัทในปี 2551 เป็น 466 บริษัทในปี 2552 ทั้งนี้ ผลประกอบการโดยรวมของ บจ. ตั้งแต่ไตรมาส 1-3 ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง จากการที่กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นและยอดขายมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แสดงถึงความแข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน ที่ยังสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง แม้เผชิญภาวะวิกฤติเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา
  • สศค. วิเคราะห์ว่า ผลการดำเนินงานบริษัทจดทะเบียนดังกล่าวที่ปรับตัวดีขึ้นเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม (TISI) และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค โดย ณ สิ้นไตรมาสที่สามของปี 2552 อยู่ที่ระดับ 91.3 และ 67.4 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก ณ สิ้นไตรมาสสุดท้ายของปี 2551 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 77.3 และ 71.0
2. ม.หอการค้าไทยคาดจีดีพีปี53จะขยายตัวที่ประมาณร้อยละ 3.2 ต่อปีจากภาคการส่งออกที่ฟื้นตัวและราคาสินค้าเกษตรที่ปรับตัวสูงขึ้น
  • นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวถึงสภาวะเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4 ปี 52 และแนวโน้มปี 53 ว่า เศรษฐกิจปี 53 จะขยายตัวระหว่างร้อยละ 2.5 ถึง 4.0 ต่อปี โดยมีโอกาสเติบโตมากสุดที่ร้อยละ 3.2 ต่อปี ภายใต้ปัจจัยที่เศรษฐกิจโลกฟื้นตัว การเมืองมีเสถียรภาพ และไม่เกิดปัญหาการลงทุนในมาบตาพุด โดยปัจจัยสำคัญมาจากการฟื้ตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกซึ่งส่งผลให้การส่งออกกลับมาขยายตัวเป็นบวกที่ร้อยละ 10.1 ต่อปี รวมถึงราคาพืชผลการเกษตรที่จะปรับตัวสูงขึ้นส่งผลให้รายได้ภาคเกษตรขยายตัวร้อยละ 4.4 ต่อปี และการบริโภคภาคประชาชนขยายตัวร้อยละ 3.7 ต่อปี
  • สศค. วิเคราะห์ว่า ในปี53เศรษฐกิจไทยจะกลับมาขยายตัวเป็นบวกได้ที่ประมาณร้อยละ 3.3 ต่อปี (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 2.5 — 4.1 ต่อปี) โดยมีแรงส่งเชิงนโยบายต่อเนื่องจากปลายปี 2552 จากการใช้จ่ายของภาครัฐผ่านแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง และการใช้จ่ายภาคเอกชนที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นจากฐานที่ต่ำในปี 2552 ขณะที่การส่งออกสินค้าและบริการในปี53คาดว่าจะกลับมาขยายตัวตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจคู่ค้า ปริมาณการส่งออกสินค้าและบริการคาดว่าจะเร่งขึ้นจากปีก่อนมาขยายตัวที่ร้อยละ 5.6 ต่อปี (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 4.8 ถึง 6.7 ต่อปี)
3. เศรษฐกิจสิงค์โปร์ในไตรมาสที 3 กลับมากขยายตัวเป็นบวกที่ร้อยละ 0.6 ต่อปี
  • เศรษฐกิจสิงค์โปร์ในไตรมาสที 3 กลับมากขยายตัวเป็นบวกที่ร้อยละ 0.6 ต่อปี (Y-o-Y) โดยเป็นการขยายตัวต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้าที่ร้อยละ 14.2 (Q-o-Q Annualized) การขยายตัวดังกล่าวได้รับแรงขับเคลื่อนมาจากภาคอุตสาหกรรมซึ่งสามารถขยายตัวได้ในระดับที่สูงถึงร้อยละ 26.6 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าจากผลผลิตภาคเภสัชกรรมที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในขณะที่ภาคการบริการในไตรมาสที่ 3 ปรับตัวดีขึ้นในทุกภาคย่อยไม่ว่าจะเป็นภาคการค้าส่งค้าปลีก ภาคการขนส่ง ภาคการโรงแรมและร้านอาหารซึ่งสามารถขยายตัวได้ในระดับสูงตามการฟื้นตัวของการค้าขายระหว่างประเทศและการท่องเที่ยวที่ปรับตัวดีขึ้น โดยภาคบริการโดยรวมสามารถขยายตัวได้ถึงร้อยละ 10.8 ต่อไตรมาส
  • สศค. วิเคราะห์ว่า สศค. การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสิงค์โปร์ในไตรมาสที่ 3 นอกจากจะมาจากการปรับตัวดีขึ้นในแทบทุกภาคเศรษฐกิจแล้ว สาเหตุส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากฐานที่ต่ำในไตรมาสที่ 3 ของปีก่อนหน้าซึ่งเป็นไตรมาสแรกที่เศรษฐกิจสิงค์โปร์เริ่มหดตัวเป็นครั้งแรกที่ร้อยละ -0.1 ต่อปีประกอบการฟื้นตัวต่อไตรมาสในระดับที่สูงมากในช่วงไตรมาสที่ 2 และ 3 น่าจะเป็นผลมาจากการปรับเร่งปรับเพิ่มสินค้าคงคลัง (restocking inventories) เพื่อการผลิตให้กลับเข้าสู่ระดับเดิมหลังจากที่มีการปรับลดลงไปมากในช่วงปลายปี 51 และไตรมาสแรกของปี 52

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office

Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ