Macro Morning Focus ประจำวันที่ 23 พ.ย. 2552
Summary:
1. ส่งออก ต.ค.หดตัวร้อยละ -2.98 ต่อปี หดตัวน้อยสุดในรอบปี
2. ไทยรับผลดีจากประเทศผู้ผลิตข้าวเกิดภัยแล้ง
3. นักเศรษฐศาสตร์หวั่นฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์ในจีน กระตุ้นรัฐแก้ปัญหา
Highlight:
1. ส่งออก ต.ค.หดตัวร้อยละ -2.98 ต่อปี หดตัวน้อยสุดในรอบปี
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แถลงว่า ตัวเลขการส่งออกของไทยเดือน ต.ค. 52 มีมูลค่า 14,813 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัวลง -2.98 ต่อปี ซึ่งเป็นการหดตัวลงน้อยที่สุดในปีนี้ และสินค้าส่งออกหลายรายการติดลบน้อยสุดในรอบปี ขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 13,050 ล้านดอลลาร์สหรัฐลดลงร้อยละ -17.5 ต่อปี ทำให้เกินดุลการค้า 1,760 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์คาดว่าการส่งออกในไตรมาส 4 จะขยายตัวได้ที่ร้อยละ 3 - 5 ต่อปี ส่งผลให้การส่งออกทั้งปี 52 คาดว่าจะหดตัวร้อยละ -13 ถึง -15 ต่อปี ส่วนปี 53 คาดว่าการส่งออกจะขยายตัวได้ราวร้อยละ 10 — 15 ต่อปี
- สศค. วิเคราะห์ว่า การส่งออกเดือน ต.ค. 52 ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง โดยขยายตัวร้อยละ 1.3 จากเดือนก่อน (ปรับผลทางฤดูกาลแล้ว) อันเป็นผลจากเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว โดยเฉพาะจีนและกลุ่มประเทศในอาเซียน สำหรับสินค้าส่งออกส่วนใหญ่มีการหดตัวชะลอลงจากเดือนก่อน ขณะที่บางกลุ่มสินค้าเริ่มมีการขยายตัว ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้า ข้าว กุ้งแช่แข็ง น้ำตาล และเคมีภัณฑ์ ส่วนการนำเข้าหดตัวลดลงจากเดือนก่อน อันเป็นผลจากสินค้าวัตถุดิบและสินค้าทุนปรับตัวดีขึ้น รวมถึงการนำเข้ายานพาหนะขยายตัวเป็นเดือนที่ 2 ที่ร้อยละ 5.9 ต่อปี ทั้งนี้ สศค. คาดว่าปี 52 การส่งออกจะหดตัวร้อยละ -17.2 ต่อปี (คาดการณ์ ณ ก.ย. 52) ซึ่งมีแนวโน้มที่จะปรับประมาณการการส่งออกให้เพิ่มขึ้น จากข้อมูลการส่งออกที่ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว
2. ไทยรับผลดีจากประเทศผู้ผลิตข้าวเกิดภัยแล้ง
- นายกสมาคมกิตติศักดิ์ สมาคมโรงสีข้าวไทย เปิดเผยว่าว่า หลังจากประเทศที่ผลิตข้าวหลายประเทศ ได้รับความเสียหายจากภัยธรรมชาติ ทำให้หลายประเทศ ทั้งเวียดนาม ฟิลิปปินส์ อินโดเชีย และจีน ต้องนำเข้าข้าว ซึ่งจะส่งผลดีต่อราคาข้าวไทย และคาดว่าปรากฎการณ์แอลนีโญจะทำให้ปริมาณการผลผลิตข้าวลดลง ในขณะที่องค์กรอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) คาดว่าอาหารโลกจะลดลงประมาณร้อยละ 20
- สศค. วิเคราะห์ว่า การที่ประเทศผู้ผลิตข้าวต่างได้รับความเสียหายจากภัยธรรมชาติจะส่งผลให้ราคาข้าวในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ราคาข้าวส่งออกของไทยจะปรับตัวสูงขึ้น และส่งผลดีต่อผู้ส่งออกข้าว และเกษตรกรไทย โดยนอกจากราคาข้าวที่เกษตรกรขายได้จะปรับสูงขึ้น และรายได้เกษตรกรปรับตัวสูงขึ้นแล้ว (10 เดือนแรกปี 52 รายได้เกษตรกรหดตัวร้อยละ -12.6 ต่อปี) ยังจะส่งผลต่อรายได้จากการส่งออกข้าวที่จะปรับตัวสูงขึ้นด้วย ซึ่งจะเป็นปัจจันสนับสนุนการบริโภคและการลงทุนเอกชนในระยะต่อไป ทั้งนี้ จากการคาดการณ์ของ USDA ณ ต.ค. 52 พบว่าการส่งออกข้าวในปี 52 จะได้ตามเป้าหมายได้ที่ 8.5 และ 10 ล้านตันในปี 53
3. นักเศรษฐศาสตร์หวั่นฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์ในจีน กระตุ้นรัฐแก้ปัญหา
- หัวหน้าสถาบันวิจัยเศรษฐกิจแห่งชาติจีนแสดงความกังวลเกี่ยวกับราคาอสังหาริมทรัพย์จีนที่พุ่งสูงขึ้น พร้อมชี้ว่าจีนอยู่ในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ที่กำลังเผชิญความเสี่ยงที่จะเกิดฟองสบู่ในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ และอสังหาริมทรัพย์ โดยความเสี่ยงจริง ๆ คือฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์ ที่จะเป็นสิ่งที่อันตรายมาก และอาจทำให้เกิดภาวะร้อนแรงเกินควร (overheating) ในที่อื่น ๆ ด้วย ทั้งนี้ข้อมูลของทางการจีนระบุว่า เดือน ต.ค. ราคาบ้านในเมืองสำคัญ 70 แห่งของจีนปรับขึ้น 3.9% ต่อปี ซึ่งเป็นการปรับตัวสูงสุดในรอบ 14 เดือน นอกจากนี้ การลงทุนในสินทรัพย์คงทนใน รอบ 10 เดือนแรกปีนี้พุ่งถึง 33.1% ต่อปี
- สศค. วิเคราะห์ว่า มาตรการกระตุ้นการบริโภคและการลงทุนภายในประเทศของรัฐบาลจีนในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้เศรษฐกิจจีนขยายตัวสูงถึงร้อยละ 8.9 ต่อปีในไตรมาส 3 ต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนที่ขยายตัวร้อยละ 7.9 ต่อปี นอกจากนี้ การที่ธนาคารกลางของประเทศส่วนใหญ่กำหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระดับต่ำ ประกอบกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง ทำให้นักลงทุนต่างนำเงินเข้ามาลงทุนในประเทศจีน เพื่อหาผลตอบแทนการลงทุนที่สูงกว่า ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ราคาอสังหาริมทรัพย์ในจีนปรับตัวสูงขึ้นมากในช่วงที่ผ่านมา
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th