- ค่าเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากกระแสการอ่อนตัวของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ
- ตลาดหลักทรัพย์ไทยเคลื่อนไหวอยู่ในช่วงระดับประมาณ 695 - 705 จุดในช่วงปลายสัปดาห์
- ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยระยะกลางปรับตัวลดลงจากแรงซื้อต่างชาติ
- ราคาทองยังคงปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องผ่านระดับ 1,150 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์
ค่าเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐในช่วงสัปดาห์ที่แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยที่ประมาณร้อยละ 0.33 โดยหากพิจารณาจากดัชนีค่าเงินบาทซึ่งถัวเฉลี่ยกับเงินสกุลของคู้ค้าหลักพบว่าค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นมาเล็กน้อยที่ร้อยละ 0.17
เงินทุนสำรองของประเทศไทย ณ วันที่ 13 พ.ย. 52 อยู่ที่ระดับ 152.29 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าประมาณ 0.95 พันล้านดอลลาร์สหรัฐโดยมีสาเหตุมาจากการดูแลเสถียรภาพค่าเงินของธนาคารแห่งประเทศไทยประกอบกับการเปลี่ยนแปลงในมูลค่าของยูโรและเยนที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ
ตลาดหลักทรัพย์ของไทยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวค่อนข้างทรงตัวก่อนที่จะปรับตัวลดลงมาในช่วงปลายสัปดาห์ตามแรงขายออกจากตลาดหลักทรัพย์ในภูมิภาคเพื่อการขายทำกำไรของต่างชาติประกอบกับความไม่ชัดเจนในกรณีมาบตาพุด
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ Dow Jones ในช่วงปลายสัปดาห์ปรับตัวลดลงหลังจากที่สหรัฐฯประกาศตัวเลขสวัสดิการว่างงาน (Jobless claims) ประจำสัปดาห์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 502,000 คนมาอยู่ที่ 505,000 คนในขณะที่ยอดการสร้างบ้าน (Housing start) ในเดือน ต.ค. ปรับตัวลดลงจากระดับ 590,000 หลังมาอยู่ที่ระดับ 529,000 หลังและส่งผลให้ตลาดมีความเชื่อมั่นในการฟนตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯลง
อัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (Thai baht fixing) ปรับตัวขึ้นประมาณ 7 bps ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของสหรัฐ (US LIBOR) ทรงตัวที่ประมาณร้อยละ 0.27 ต่อปี
ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยระยะปานกลางและยาวโดยเฉพาะในช่วงระยะ 5 ปีปรับตัวลดลงในช่วงกลางสัปดาห์จากกำลังซื้อของพันธบัตรในช่วงระยะเวลาดังกล่าวจากธนาคารต่างชาติที่มีเข้ามามาก อาทิพันธบัตรระยะ 5 ปีขึ้นไปมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นมาก ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าเป็นต่างชาติอาจโยกย้ายเงินออกจากการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์มาเข้าตลาดพันธบัตรมากขึ้นในช่วงนี้
ราคาทองยังคงปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยในช่วงสัปดาห์นี้ ราคาทองปรับตัวเพิ่มขึ้นผ่านระดับ 1,150 ดอลลาร์ต่อออนซ์ก่อนที่จะปรับตัวลดลงมาในวันนี้ สอดคล้องกับกระแสการกู้เงินดอลลาร์สหรัฐซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยต่ำเพื่อมาลงทุนใน Commodities (Carry-trade)
ราคาน้ำมันดิบ Dubai ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับประมาณ 79 ดอลลาร์ต่อบารเรล์ ในขณะที่ตลาดล่วงหน้าคาดว่าราคาน้ำมันดิบ NYMEX จะปรับตัวเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ระดับประมาณ 78 - 81 ดอลลาร์ต่อบารเรล์ในช่วงอีก 5 เดือนข้างหน้า
ที่มา : Macroeconomic Analysis Group : Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th