Macro Morning Focus ประจำวันที่ 30 พ.ย. 2552
Summary:
1. ผลสำรวจนักธุรกิจทั่วประเทศ ห่วง 4 ปัจจัย ฉุดเศรษฐกิจปี 53
2. USDA คาดปริมาณข้าวโลกในปี 52/53 ลดลงร้อยละ 3.07
3. นักธุรกิจคึกคักรับกำลังซื้อกระเตื้อง
Highlight:
1. ผลสำรวจนักธุรกิจทั่วประเทศ ห่วง 4 ปัจจัย ฉุดเศรษฐกิจปี 53
- หอการค้าไทยเผยว่า จากการประเมินผลงานของรัฐบาลโดยรวม เอกชนให้ 5.3 คะแนน โดยภาคธุรกิจมีความเป็นห่วงว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 53 จะขยายตัวร้อยละ 2 - 3 ต่อปี เนื่องจากมีความกังวลต่อปัญหาเศรษฐกิจภายนอก โดยเฉพาะการลดค่าเงินด่องของเวียดนาม ที่จะกระทบต่อการส่งออก และวิกฤติเศรษฐกิจฟองสบู่ที่ดูไบ ประกอบกับปัญหาภายในประเทศ ได้แก่ การชะลอโครงการมาบตาพุด 2 แสนล้านบาท และความไม่แน่นอนทางการเมืองที่จะกระทบต่อความเชื่อมั่น และการลงทุนของภาคเอกชน ทั้งนี้ ผลสำรวจยังระบุว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตในไตรมาสแรกปี 53 ขณะที่ภาครัฐมองว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวไตรมาส 4 ปี 52
- สศค. วิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจไทยได้หลุดพ้นจากภาวะถดถอยในไตรมาส 2 ปี 52 แล้ว โดยเศรษฐกิจไทยขยายตัวร้อยละ 2.2 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน(ปรับผลทางฤดูกาลแล้ว) และขยายตัวต่อเนื่องมาในไตรมาส 3 ที่ร้อยละ 1.3 อันเป็นผลมาจากภาคการส่งออกที่ปรับตัวดีขึ้นมาก ทั้งนี้ สศค. คาดว่า เศรษฐกิจไทยจะกลับมาขยายตัวได้ในไตรมาสที่ 4 ปีนี้ โดยจะขยายตัวที่ร้อยละ 3 - 4 ต่อปี ส่วนในปี 53 นั้น สศค. คาดว่า เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวที่ร้อยละ 3.3 ต่อปี ซึ่งได้รับอานิสงส์จากมาตรการไทยเข้มแข็ง และการฟื้นตัวของการบริโภคและการลงทุน
2. USDA คาดปริมาณข้าวโลกในปี 52/53 ลดลงร้อยละ 3.07
- กระทรวงเกษตรสหรัฐ (USDA) ประเมินสถานการณ์ข้าวโลกในปี 52/53 คาดว่าจะมีปริมาณผลผลิต 432.09 ล้านตัน ลดลงจากปีก่อนที่ร้อยละ 3.07 โดยประเทศผู้ผลิตข้าวหลักของโลก เช่น อินเดีย บังคลาเทศ และอินโดนีเซียผลผลิตลดลง ในขณะที่ความต้องการข้าวในปี 52/53 มีปริมาณทั้งสิ้นอยู่ที่ 436.8 ล้านตัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 จากปีก่อน ส่วนปริมาณการค้าโลกในปี 52/53 จะมีปริมาณทั้งสิ้น 29.5 ล้านตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.4 ในส่วนของปริมาณสต็อคข้าวปลายปี คาดว่าจะอยู่ที 85.9 ล้านตัน หรือลดลงร้อยละ 5.2 จากปีก่อน
- สศค. วิเคราะห์ว่า ผลผลิตและปริมาณสต็อคข้าวโลกที่ปรับลดลงมากนั้น เนื่องจากความแปรปรวนทางภูมิอากาศที่ทำให้ประเทศผู้ผลิตข้าวรายใหญ่ของโลก เช่น อินเดีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ได้รับผลกระทบอย่างมาก และจะเป็นปัจจัยกดดันให้ราคาข้าวในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น ทั้งนี้ ราคาข้าวที่ปรับตัวสูงขึ้นดังกล่าวจะส่งผลดีต่อไทยทั้งการผลิต (เกษตรกร) และการค้า (ผู้ส่งออก) โดยจะทำให้ราคารายได้เกษตรกรปรับตัวสูงขึ้น (10 เดือนแรกปี 52 รายได้เกษตรกรหดตัวร้อยละ -12.6 ต่อปี) และจะส่งผลให้รายได้จากการส่งออกข้าวปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนการบริโภคและการลงทุนเอกชนในระยะต่อไป ทั้งนี้ จากการคาดการณ์ของ USDA ณ พ.ย. 52 พบว่า การส่งออกข้าวไทยในปี 52 จะได้ตามเป้าหมายได้ที่ 8.5 ล้านตัน และเพิ่มขึ้นเป็น 10 ล้านตันในปี 53
3. นักธุรกิจคึกคักรับกำลังซื้อกระเตื้อง
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยผลสำรวจความเห็นจากนักธุรกิจสาขาต่างๆ 161 รายทั่วประเทศ พบว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวได้ชัดเจนขึ้นในไตรมาส 4 ปีนี้ เนื่องจากเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวมากขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ทั้งนี้ ดัชนีการฟื้นตัวที่เห็นได้ชัดคือ คำสั่งซื้อของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ ปรับดีขึ้น ขณะที่การบริโภคสินค้าจำเป็นและสินค้าคงทน เช่น รถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าปรับดีขึ้น อย่างไรก็ตาม พบว่าผู้ประกอบการยังกังวลในเรื่องความไม่แน่นอนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก แนวโน้มการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันที่จะทำให้ต้นทุนการผลิตเพิ่ม รวมถึงยังกังวลเรื่องปัญหาการเมือง
- สศค. วิเคราะห์ว่า จากตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุดในเดือน ต.ต. 2552 พบว่าเศรษฐกิจไทยเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวอย่างชัดเจน ทั้งนี้ สศค. คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะกลับมาขยายตัวเป็นบวกในไตรมาสสุดท้ายของปี ส่งผลให้ในปี 2552 เศรษฐกิจไทยจะหดตัวที่ร้อยละ -3.0 ต่อปี จากการใช้จ่ายของภาครัฐและการปรับตัวดีขึ้นของเศรษฐกิจคู้ค้า และในปี 2553 เศรษฐกิจไทยจะกลับมาขยายตัวเป็นบวกได้ที่ร้อยละ 3.3 (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 2.5 ถึง 4.1 ต่อปี)
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th