รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 2 ธันวาคม 2552

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 2 ธ.ค. 2552

1. กระทรวงพาณิชย์เผยดัชนีเงินเฟ้อเดือนพ.ย. 52 อยู่ที่ 105.2 เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.9 ต่อปี

2. ประชาชนลงทะเบียนหนี้นอกระบบวันแรก 2.6 หมื่นคน

3. หุ้นดูไบดิ่ง

• กระทรวงพาณิชย์ เผยดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) ในเดือน พ.ย. 52 อยู่ที่ 105.2 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ร้อยละ 1.9 ต่อปี เป็นการปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 เฉลี่ย 11 เดือนแรกของปี (ม.ค. — พ.ย. 52) ลดลงร้อยละ -1.2 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ไม่รวมหมวดสินค้าอาหารสดและพลังงานในเดือนพ.ย. 52 อยู่ที่ระดับ 102.7 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.1 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ 11 เดือนแรกของปีเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 ทั้งนี้ การที่ดัชนีเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 สะท้อนให้เห็นถึงการบริโภคที่เริ่มฟื้นตัวดีขึ้น

• สศค. วิเคราะห์ว่า อัตราเงินเฟ้อในเดือนพ.ย. 52 ที่เพิ่มขึ้นที่ร้อยละ 1.9 ต่อปี นั้น ซึ่งนับเป็นการขยายตัวเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน หลังจากหดตัวติดต่อกันมาโดยตลอดตั้งแต่ช่วงต้นปี จาก (1) ผลของของการปรับเกณฑ์ความช่วยเหลือภายใต้นโยบาย 5 มาตรการ 6 เดือน ทำให้ค่าไฟฟ้าและน้ำประปาเพิ่มขึ้นร้อยละ 24.5 (2) ราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ทำให้ราคายานพาหนะและน้ำมันเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.6 และ (3) การปรับภาษีสรรพสพามิตในกลุ่มสุราและยาสูบ ทำให้ราคายาสูบและเครื่องดื่มมีแอลกฮอล์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.6 ตามลำดับ ทั้งนี้ สศค. คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไป และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในปี 52 จะเท่ากับร้อยละ -0.8 และ 0.4 ต่อปี ตามลำดับ และในปี 53 อัตราเงินเฟ้อทั่วไปและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะขยายตัวในช่วงร้อยละ 2.0 - 3.0 ต่อปี และ 1.0 — 2.0 ต่อปี ตามลำดับ

• รัฐบาลเปิดให้ประชาชนเข้ามาลงทะเบียนเพื่อขอเข้าโครงการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบในวันแรก (1 ธ.ค.52) มีจำนวนประมาณ 2.55-2.65 หมื่นราย ยอดหนี้รวมประมาณ 2.8 พันล้านบาท ซึ่งมีมูลหนี้เฉลี่ย 9 หมื่นบาทต่อราย โดยเป็นผู้ที่เข้ามาลงทะเบียนกับธ.ออมสินประมาณ 1.7-1.8 หมื่นราย ยอดหนี้ประมาณ 1.9 พันล้านบาท และ ธ.เพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร จำนวนประมาณ 8.5 พันราย ยอดหนี้ประมาณ 866 ล้านบาท

• ทั้งนี้ ผู้ที่ผ่านการพิจารณาจะได้รับอนุมัติเงินกู้วงเงินไม่เกิน 3 หมื่นบาท คิดอัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 0.50 ต่อเดือน ถ้าเกิน 3 หมื่นบาทจะคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.75 ต่อเดือน

• สศค. วิเคราะห์ว่า จากข้อมูลการสำรวจล่าสุดพบว่าภาคครัวเรือนมีแนวโน้มเป็นหนี้นอกระบบสูงขึ้นโดยเป็นหนี้เฉลี่ยครัวเรือนละ 1.47 แสนบาท หนี้ดังกล่าวแบ่งเป็นหนี้ในระบบร้อยละ 42.6 และเป็นหนี้นอกระบบร้อยละ 57.4 มีอัตราการผ่อนชำระเฉลี่ยเดือนละ 9.6 พันบาท ทั้งนี้ สาเหตุการเป็นหนี้นอกระบบดังกล่าวเกิดจากการที่ประชาชนมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ โดยพบว่ากลุ่มผู้มีรายได้ต่ำกว่า 5 พันบาท จะมีหนี้นอกระบบมากกว่าในระบบ

• ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ดูไบและอาบูดาบี ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ได้ดิ่งลงอย่างหนัก หลังเปิดตลาดซื้อขายวันแรกของสัปดาห์ โดยดัชนีหลักทรัพย์ในตลาดดูไบ ที่นำโดยหุ้นกลุ่มหลักทรัพย์ ได้ดิ่งลงไปแล้ว 7.19% หรือราว 150.54 จุด มาอยู่ที่ 1,942.62 จุด เหตุผลหลักที่ทำให้ตลาดหลักทรัพย์สำคัญทั้งสองแห่งดิ่งลงครั้งนี้ เป็นผลมาจากนักลงทุนยังไม่เชื่อมั่นต่อแผนเสริมสภาพคล่องทางการเงินของธนาคารกลางยูเออี เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

• สศค. วิเคราะห์ว่า การประกาศหยุดชำระหนี้ของบริษัทใหญ่ดูไบ ทำให้นักลงทุนต่างชาติตื่นตระหนกจนส่งผลให้เกิดความผันผวนในตลาดเงินตลาดทุนทั่วโลก อย่างไรก็ตาม ผลกระทบต่อประเทศไทยมีน้อยและอยู่ในวงจำกัด เนื่องจากการค้า การบริการ และการลงทุนของไทยกับดูไบมีสัดส่วนน้อย โดยการส่งออกสินค้าของไทยไปยังสหรัฐเอมิเรตส์มีสัดส่วนน้อยเพียงร้อยละ 1.6 และการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์มีสัดส่วนประมาณร้อยละ 6.2 ของการนำเข้าโดยรวม โดยสินค้าหลักได้แก่ น้ำมันดิบ ส่วนใหญ่มาจากรัฐอาบูดาบี ส่วนมูลค่าการลงทุนและกองทุนไทยที่ไปลงทุนในตะวันออกกลางยังมีน้อย อย่างไรก็ตาม ผลกระทบทางอ้อมจะทำให้ตลาดเงินและตลาดทุนทั่วโลกมีความผันผวน รัฐบาลจำเป็นต้องติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจโลกอย่างใกล้ชิด ประสารให้ ธปท. เข้าดูแลเสถียรภาพค่าเงินในกรณีเกิดความผันผวนในเงินทุนเคลื่อนย้าย

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office

Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th