Macro Morning Focus ประจำวันที่ 11 ธ.ค. 2552
Summary:
1. รองผู้ว่าฯธปท. คาดสินเชื่อปี53 ขยายตัวร้อยละ 5-9 เป็นผลดีต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจ
2. ยอดลงทะเบียนหนี้คนจนทะลุแสนราย กทม. มีจำนวนผู้ลงทะเบียนสูงสุด
3. S&P ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือแนวโน้มเศรษฐกิจสเปนลง
Highlight:
1. รองผู้ว่าฯธปท. คาดสินเชื่อปี53 ขยายตัวร้อยละ 5-9 เป็นผลดีต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจ
- นายบัณฑิต นิจถาวร รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงแนวโน้มสินเชื่อปี 2553 ว่า การปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ในปีหน้าจะอยู่ในช่วงขาขึ้นหรือกลับมาเป็นบวกได้ ซึ่งสอดคล้องกับการประเมินของธนาคารพาณิชย์ที่คาดว่าสินเชื่อปี 2553จะขยายตัวได้ร้อยละ 5-9 สะท้อนจากตัวเลขยอดการปล่อยสินเชื่อ ล่าสุดเดือน ตุลาคมที่ผ่านมาพบว่า ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 เทียบจากระยะเดียวของปีก่อน และเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ร้อยละ 0.4 หลังจากที่ 9 เดือนแรกของปีนี้การปล่อยสินเชื่อชะลอตัวลงต่อเนื่อง ตามภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว
- สศค. วิเคราะห์ว่า ตัวเลขการปล่อยสินเชื่อล่าสุดเดือนตุลาคมที่ผ่านมานั้น เป็นสินเชื่อภาคเอกชนของสถาบันรับฝากเงิน ซึ่งร่วมข้อมูลจากสถาบันการเงินเฉพาะกิจ (SFI) สหกรณ์ออมทรัพย์ และกองทุนรวมตลาดเงิน (Money Market Mutual Funds) ทั้งนี้ สินเชื่อภาคเอกชนของสถาบันการเงินรับฝากเงินในเดือนต.ค. 52 ขยายตัวลดลงที่ร้อยละ 0.2 ต่อปี ตามการลดลงของสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ ในขณะที่สินเชื่อสถาบันการเงินเฉพาะกิจและสหกรณ์ออกทรัพย์ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
2. ยอดลงทะเบียนหนี้คนจนทะลุแสนราย กทม. มีจำนวนผู้ลงทะเบียนสูงสุด 1.2 หมื่นราย
- ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคประชาชน (หนี้นอกระบบ) ธนาคารออมสิน ได้รวบรวมข้อมูลการลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้สินนอกระบบโดย ณ วันที่ 9 ธันวาคม 2552 มียอดผู้ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1-9 ธันวาคม 2552 มีจำนวนทั้งสิ้น 106,288 ราย มูลหนี้ 11,811.73 ล้านบาท โดย กทม. มีผู้ลงทะเบียนมากที่สุดที่ 12,096 ราย มูลหนี้ 1,149.98 ล้านบาท ครองแชมป์สูงสุด
- สศค. วิเคราะห์ว่า การแก้ไขหนี้นอกระบบจะเป็นการช่วยเหลือภาคประชาชนในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวได้ทางหนึ่ง โดยเป็นการช่วยเหลือประชาชนที่มีหนี้นอกระบบเข้าเป็นหนี้ในระบบ ซึ่งจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยเงินกู้นอกระบบที่สูงกว่าปกติเพื่อให้มีเงินเหลือเพียงพอสำหรับรายจ่ายที่จำเป็นและมีเงินเหลือออม ทั้งนี้ ลูกหนี้ที่มีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์การให้สินเชื่อของธนาคารภายใต้โครงการนี้จะเริ่มเข้าสู่ระบบในเดือนพฤษภาคม 2553 ซึ่งจะเพิ่มสินเชื่อของสถาบันการเงินเฉพาะกิจที่เข้าร่วมโครงการในปี 2553
3. S&P ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือแนวโน้มเศรษฐกิจสเปนลง
- บริษัทการจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำของโลก Standard and Poors ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศสเปนซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นลำดับที่ 5 ของโลกลงมาอยู่ที่ระดับ “เชิงลบ” จากเดิมที่อยู่ที่ระดับ “เสถียรภาพ” โดยคาดว่าสเปนจะเผชิญกับภาวะการซบเซาทางเศรษฐกิจเป็นเวลานานโดยอาจจะขยายตัวต่ำกว่าร้อยละ 1 ต่อปีจากผลของภาระหนี้ในระดับที่สูงของภาคเอกชน ในขณะที่ตลาดแรงงานมีภาวะตึงตัว
- สศค.วิเคราะห์ว่า ดัชนีบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจล่าสุดของสเปนยังคงต่ำกว่าที่คาด โดยดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือน พ.ย. ออกมาต่ำกว่าที่คาดไว้ที่ 45.30 เทียบกับตัวเลขคาดการณ์ที่ร้อยละ 46.30 ในขณะที่ดัชนีผลผลิตภาคบริการออกมาต่ำกว่าที่คาดไว้ที่ 46.10 เทียบกับตัวเลขคาดการณ์ที่ร้อยละ 47.70 ในขณะเดียวกัน ตัวเลขการว่างงานยังอยู่ในระดับที่สูงถึงร้อยละ 17.9 ในช่วงท้ายของไตรมาสที่ 3 ซึ่งอาจเป็นผลในเชิงลบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสเปนเช่นกัน ทั้งนี้ สัดส่วนการส่งออกของไทยในยุโรปในปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 10.5 ของมูลค่าการส่งออกรวมของไทย และ สศค.คาดว่าเศรษฐกิจยุโรปโดยรวมในปี 2553 จะขยายตัวที่ร้อยละ 1.0 ต่อปี
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th