กรมสรรพสามิตส่งเสริมการทำความดีเพื่อสังคม โดยให้คืนหรือยกเว้นภาษีสรรพสามิตสำหรับผู้ประกอบอุตสาหกรรมที่บริจาคสินค้า หรือผู้ประกอบกิจการสถานบริการที่บริจาครายรับให้แก่มูลนิธิที่ได้รับประกาศกำหนดให้เป็นองค์การสาธารณกุศล
นายพฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ให้ความเห็นชอบประกาศกระทรวงการคลัง กำหนดองค์การสาธารณกุศลตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2527 เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2552 โดยมีมูลนิธิ 3 แห่ง ที่ได้รับการประกาศ ได้แก่ มูลนิธิสงเคราะห์และฟื้นฟูสมรรถภาพเด็กพิการ มูลนิธิอนุเคราะห์คนพิการในพระราชูปถัมภ์ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และมูลนิธิคุณากรในพระราชูปถัมภ์ ซึ่งมูลนิธิดังกล่าวได้ก่อตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่คนพิการทางกาย ทั้งด้านการรักษาพยาบาล การศึกษา สวัสดิการและอาชีพ ตามความเหมาะสม
ทั้งนี้ มูลนิธิหรือสมาคมที่จะขอให้ประกาศกำหนดเป็นองค์การสาธารณกุศลจะต้องมีคุณสมบัติเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด เช่น มีวัตถุประสงค์เพื่อการกุศลสาธารณะ รายได้ต้องไม่ใช่มาจากการซื้อขายหรือการให้บริการโดยมีค่าตอบแทนเป็นปกติธุระและรายได้จะต้องนำไปเป็นรายจ่ายเพื่อการกุศลสาธารณะไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 เป็นต้น
สำหรับผู้ประกอบอุตสาหกรรมที่บริจาคสินค้าเครื่องดื่ม หรือผู้ประกอบกิจการสถานบริการสนามกอล์ฟและสนามม้าที่บริจาครายรับให้แก่มูลนิธิหรือสมาคมที่ได้รับประกาศกำหนดให้เป็นองค์การสาธารณกุศล จะได้รับการคืนหรือยกเว้นภาษีสรรพสามิต ปัจจุบันมีมูลนิธิที่ได้รับการประกาศให้เป็นองค์การสาธารณกุศลแล้วกว่า 100 แห่งทั่วประเทศ ทั้งนี้ ผู้ประกอบการสามารถดูรายละเอียดประกาศกระทรวงการคลังเกี่ยวกับการกำหนดองค์การ สาธารณกุศล ได้ที่ www.excise.go.th
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ กรมสรรพสามิต
โทร. 02 241 4778
--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 2/2553 7 มกราคม 53--