นายพฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ได้มอบนโยบายให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เร่งพัฒนากรมธรรม์สำหรับผู้มีรายได้น้อยโดยเฉพาะเกษตรกร ให้ออกจำหน่ายได้โดยเร็ว เพื่อช่วยให้ประชาชนกลุ่มดังกล่าวที่ต้องการมีประกันภัย สามารถคุ้มครองตนเองและบรรเทาภาระทางการเงินของครัวเรือนได้เมื่อประสบภัย ส่งเสริมให้ธุรกิจประกันภัยเข้ามามีบทบาทในการช่วยเหลือประชาชนและสังคมมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันจะช่วยลดภาระของภาครัฐได้ในทางอ้อม
การประกันภัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย (Micro Insurance) มีลักษณะที่สำคัญ คือ การประกันภัยประเภทต่างๆ ที่กำหนดเงื่อนไขความคุ้มครองแบบเฉพาะ หรือจำกัดขอบเขตความคุ้มครองไม่สูงมาก และมีอัตราเบี้ยประกันภัยที่ค่อนข้างต่ำเป็นพิเศษสำหรับผู้ที่มีความต้องการจะซื้อประกันภัยแต่มีรายได้น้อย โดยอาจจะเป็นการประกันชีวิต การประกันภัยทรัพย์สิน หรือการประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล และการประกันภัยพืชผล เป็นต้น นอกจากมียังมีลักษณะพิเศษ ได้แก่ คือ บริษัทประกันภัยจะต้องจ่ายเงินชดเชยหรือค่าสินไหมทดแทนที่เป็นธรรมให้แก่ผู้เอาประกันภัยอย่างรวดเร็ว โดยลดขั้นตอนในการเรียกร้องค่าชดเชย และการพิจารณาจ่ายชดเชยค่าสินไหมทดแทน และมีช่องทางการเข้าถึงผู้มีรายได้น้อยให้ง่ายขึ้น
นายพฤฒิชัย ดำรงรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงการคลังตั้งเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนจำนวนผู้ถือครองกรมธรรม์ของคนไทยเป็น 50% หรือประมาณ 30 ล้านคนให้ได้ภายใน 5 ปี จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนประมาณ 25 % โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อย โดยขณะนี้กระทรวงการคลังและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ได้ผลักดันการประกันภัยพืชผลโดยใช้ดัชนีภูมิอากาศ เพื่อคุ้มครองภัยแล้งสำหรับข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เบี้ยประกันราคาถูก อาทิเบี้ยประกันภัย 100 บาท/ไร่ ความคุ้มครองสูงสุด 1,200 บาท/ไร่ โดยมีจำหน่ายให้พื้นที่ 5 จังหวัด คือ นครราชสีมา สระบุรี ลพบุรี นครสวรรค์ และเพชรบูรณ์ และขณะนี้อยู่ระหว่างการเพิ่มพื้นที่การรับประกันภัยให้ครอบคลุมจังหวัดที่เพาะปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และขยายผลิตภัณฑ์เพื่อคุ้มครองภัยแล้งสำหรับข้าว
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังกล่าวในตอนท้ายว่า ขณะนี้ได้มอบหมายให้ คปภ. เร่งหารือกับสมาคมประกันชีวิต และผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อสรุปแนวทางการสนับสนุนประกันชีวิตราคาถูกโดยเร็ว
สำนักงาน คปภ.
โทร. 02-513-1769
--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 8/2553 25 มกราคม 53--