FPO WEEKLY CONSENSUS (1 กุมภาพันธ์ 2553)

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday February 3, 2010 12:07 —กระทรวงการคลัง

สรุปความเห็นนักวิเคราะห์ต่อทิศทางตลาดเงินตลาดทุนสัปดาห์นี้

  • ค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้คาดว่าจะปรับตัวอ่อนค่าลง โดยนักวิเคราะห์ 8 รายเห็นว่า ค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าลงตามสกุลเงินในภูมิภาค หลังจากค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นจากตัวเลขเศรษฐกิจและผลประกอบการณ์ของบริษัทต่าง ๆ ในสหรัฐออกมาดีกว่าที่คาดไว้ ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นเร็วกว่าที่คาด รวมทั้งการกลับเข้าไปถือครองดอลลาร์มากขึ้น เนื่องจากความกังวลต่อการใช้นโยบายเข็มงวดในการปล่อยสินเชื่อของจีน ทำให้ชะลอการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงลง
  • สำหรับ Bond Yield อายุ 2 ปี คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยนักวิเคราะห์ 6 รายเห็นว่า อัตราผลตอบแทนระยะสั้นมีโอกาสปรับตัวขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนเริ่มให้น้ำหนักกับความเป็นไปได้ที่ ธปท. จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และแรงเทขายจากนักลงทุนต่างชาติที่ยังมีต่อเนื่อง นอกจากนั้นมีการประมูลพันธบัตร ธปท. อายุ 1 ปี จำนวน 60,000 ล้านบาท ขณะที่พันธบัตรที่ครบอายุมีจำนวน 50,000 ล้านบาท จะส่งผลให้การประมูลมีการตอบรับไม่ดีนัก และกระทบต่อพันธบัตรรุ่นอายุใกล้เคียงด้วย
  • คาดว่า Bond Yield อายุ 10 ปี จะเพิ่มขึ้น โดยนักวิเคราะห์ 5 รายเห็นว่า อัตราผลตอบแทนมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ซึ่งเป็นไปทิศทางเดียวกับ Bond Yield อายุ 2 ปี เนื่องจากแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ ธปท. และแรงเทขายของนักลงทุนต่างชาติน่าจะยังมีต่อเนื่อง หลังจากที่ ธปท. จะออกมาตรการผ่อนปรนเรื่อง Capital flow
  • คาดว่า SET มีแนวโน้มปรับตัวลดลง โดยนักวิเคราะห์ 7 ราย เห็นว่า SET จะปรับตัวลดลง เนื่องจากความผันผวนตามทิศทางของตลาดหุ้นต่างประเทศ จากการปรับมาตรการเข้มงวดด้านการเงินของจีนและสหรัฐฯ โดยสหรัฐฯ จะถอดมาตรการสนับสนุนตลาดตราสารหนี้ออกเร็ว ๆ นี้ เพื่อส่งสัญญาณเศรษฐกิจฟื้นตัว ทำให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงกังวลกับฐานะการคลังของกรีซและอีกหลายประเทศใน EU
  • นักวิเคราะห์ 6 รายคาดว่าในสัปดาห์นี้นักลงทุนต่างชาติจะขายสุทธิ เนื่องจากความกังวลต่อการออกมาตรการชะลอความร้อนแรงทางเศรษฐกิจของจีนและปัญหาเศรษฐกิจของกลุ่ม EU และค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น รวมทั้งการรอดูมาตรการผ่อนปรนการเคลื่อนย้ายเงินทุนของ ธปท. และนักวิเคราะห์ 6 รายเห็นว่า นักลงทุนสภาบันจะขายสุทธิเช่นเดียวกับนักลงทุนต่างชาติ เนื่องจากยังคงทยอยลดการลงทุน เนื่องจากการประเมินตลาดหุ้นยังอยู่ในความเสี่ยงของการปรับตัวลงจากแรงขายต่างชาติ และมีแนวโน้มขายต่อเนื่องจากปัญหาการเมืองภายในประเทศเริ่มรุนแรงขึ้น
ความเห็น สศค.
  • คาดว่า นักลงทุนต่างชาติและนักลงทุนสถาบันจะมีการขายสุทธิต่อเนื่อง เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยบวกมากระตุ้น ประกอบกับต้องเผชิญกับความกังวลของนักลงทุนที่มีต่อการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจของจีน สหรัฐฯ และกลุ่มประเทศยุโรป รวมทั้งนโยบายเข้มงวดทางการเงินที่จะนำมาใช้ของจีนและกรีซ นอกจากนั้น ปัญหาการเมืองภายในประเทศยังส่งผลกระทบโดยตรงต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนอีกด้วย

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office

Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ