Highlights:
- ตลาดยังคงมีความมั่นใจที่จะกลับมาลงทุนในหลักทรัพย์และสินค้าโภคภัณฑ์มากขึ้น สะท้อนได้จากดัชนีตลาดหลักทรัพย์ของไทย สหรัฐ ญี่ปุน ที่ยังคงปรับตัวดีต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อนหน้า สอดคล้องกับราคาน้ำมันและทองที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาเช่นกัน
- ค่าเงินเยนและยูโรอ่อนลงเทียบกับดอลลาร์สหรัฐจึงส่งผลให้ดัชนีค่าเงินบาทของไทยซึ่งเคลื่อนไหวไปตามดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นด้วย
- ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยระยะกลางและยาวยังคงปรับตัวลดลงตามความต้องการซื้อที่ยังมีมากและการกลับเข้าซื้อหลังจากที่ขายออกไปในช่วงก่อนหน้า
Foreign Exchange Market:
- ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวค่อนข้างทรงตัวจากสัปดาห์ที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ สอดคล้องกับค่าเงินสกุลอื่นๆในภูมิภาคที่เคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกันกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ค่าเงินดอลลาร์มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นเทียบกับสกุลเงินอ้างอิงตามภาวะความต้องการลงทุนที่มีมากขึ้นหลังตัวเลขยอดการสร้างบ้านและผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐปรับตัวดีขึ้นมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้และการปรับเพิ่มอัตรา discount rate ของ FED ในขณะที่ค่าเงินยูโรและเยนในสัปดาห์นี้ที่อ่อนค่าลงมากจากปญหาความกังวลด้านภาวะหนี้สาธารณะของยุโรปและการที่ธนาคารกลางญี่ปุนคงดอกเบี้ยตามลำดับ
- ดัชนีค่าเงินบาทซึ่งถัวเฉลี่ยกับเงินสกุลของคู่ค้าหลัก (NEER) ในสัปดาห์นี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าร้อยละ +0.46 และเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาที่ร้อยละ +0.70 เนื่องจากค่าเงินเยนและยูโรซึ่งเป็นสกุลคู่ค้าหลักของไทยมีแนวโน้มอ่อนค่าลง
- เงินทุนสำรองระหว่างประเทศสุทธิ ณ วันที่ 12 ก.พ. 53 อยู่ที่ระดับ 141.25 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเป็นปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าเป็นสัปดาห์ที่ 3 ที่ประมาณ 0.31 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
Stock Market:
- ตลาดหลักทรัพย์ไทยในช่วงปลายสัปดาห์นี้เคลื่อนไหวค่อนข้างทรงตัว โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นมาในช่วงปลายสัปดาห์โดยได้รับอานิสงศ์จากการเข้าซื้อของต่างชาติที่เป็นบวกและมูลค่าการซื้อขายที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาเช่นกัน โดยปจจัยสนับสนุนได้แก่ตัวเลขเศรษฐกิจไทยและสหรัฐที่ปรับตัวดีขึ้นกว่าที่คาดและผลประกอบการในหลายบริษัทที่ประกาศออกมานั้นดีกว่าที่คาดทั้งนี้ การปรับตัวดีขึ้นดังกล่าวสอดคล้องกับการปรับตัวดีขึ้นตามตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ และญี่ปุน
Money Market:
- อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของไทย (Thai baht fixing) ในสัปดาห์นี้เคลื่อนไหวค่อนข้างทรงตัว ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของสหรัฐ (US LIBOR 3 เดือน)ปรับตัวขึ้นไปในเล็กน้อยในช่วง กลางสัปดาห์ก่อนการประชุมของ FED โดยตลาดอาจคาดว่า FED อาจปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยขึ้น
Bond Market:
- อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของไทย (Thai baht fixing) ในสัปดาห์นี้เคลื่อนไหวค่อนข้างทรงตัว ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของสหรัฐ (US LIBOR 3 เดือน)ปรับตัวขึ้นไปในเล็กน้อยในช่วง กลางสัปดาห์ก่อนการประชุมของ FED โดยตลาดอาจคาดว่า FED อาจปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยขึ้น
Commodity Market:
- ราคาน้ำมันดิบ Dubai ในสัปดาห์นี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาในช่วงต้นสัปดาห์จากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ปรับตัวดีขึ้นและส่งผลให้ตลาดคาดว่าความต้องการทางด้านพลังงานจะมีเพิ่มขึ้นในระยะถัดไป
- ราคาทองปรับตัวเพิ่มขึ้นมาในช่วงต้น สัปดาห์ จากความกังวลว่าค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอาจจะอ่อนค่าลงหลังจากการประชุมรัฐมนตรีคลังในกลุ่มประเทศยุโรป
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th