รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 11 มีนาคม 2553

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday March 11, 2010 10:11 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 11 มี.ค. 2553

Summary:

1. กนง. มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.25 % ต่อปี

2. ปัญหาการเมืองกดดันยอดขายโครงการที่อยู่อาศัยในเมืองท่องเที่ยวชายทะเล 4 แห่ง

3. อเบอร์ดีนคาดตลาดหุ้นเกิดใหม่ส่อเค้าร่วงร้อยละ15 ในปีนี้

Highlight:
1. กนง. มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.25 % ต่อปี
  • ธปท.กล่าวว่า คณะกรรมการ กนง.มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.25 % ต่อไป เนื่องจากเห็นว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังอยู่ในเกณฑ์ต่ำ และความไม่แน่นอนในเศรษฐกิจโลกยังคงมีอยู่ เช่น อัตราการว่างงานที่สูง และปัญหาหนี้ภาครัฐในบางประเทศ ซึ่งอาจเป็นข้อจำกัดต่อการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจโลก ประกอบกับปัจจัยเสี่ยงภายในประเทศที่อาจมีผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและนักลงทุน
  • สศค.วิเคราะห์ว่า ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมามีเพียงไม่กี่ประเทศที่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เช่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ นอร์เวย์ และเวียดนาม สำหรับประเทศไทยอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเดือนม.ค. 53 ยังคงอยู่ในระดับต่ำที่ร้อยละ 0.6 ตามกรอบเป้าหมายที่ กนง. กำหนดไว้ที่ร้อยละ 0.5-3 ขณะเดียวกันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกยังคงเปราะบางทำให้การขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจส่งผลกระทบต่อภาพรวมทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงปีหลัง จากการปรับขึ้นของราคาพลังงาน และสินค้าโภคภัณฑ์ ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก รวมทั้งผลกระทบจากภัยแล้งที่อาจผลักดันให้สินค้าเกษตรปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งทำให้อาจต้องมีการทบทวนอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกครั้ง
2. ปัญหาการเมืองกดดันยอดขายโครงการที่อยู่อาศัยในเมืองท่องเที่ยวชายทะเล 4 แห่ง
  • ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์เผยผลสำรวจโครงการที่อยู่อาศัยในเมืองท่องเที่ยวชายทะเล 4 แห่ง ได้แก่ ภูเก็ต ชลบุรี เกาะสมุย และชะอำ-หัวหิน-ปราณบุรี ว่าในขณะนี้ธุรกิจกำลังประสบปัญหายอดขายที่ชะลอตัวลง โดยเฉพาะบ้านตากอากาศสำหรับต่างชาติที่ผู้ซื้อยังคงกังวลต่อปัญหาการเมือง ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อ
  • สศค. วิเคราะห์ว่า ในช่วงที่ผ่านมาการลงทุนของภาคเอกชนที่แท้จริงในหมวดก่อสร้างปรับตัวดีขึ้นโดยในไตรมาส 4 ของปี 52 ขยายตัวร้อยละ 2.0 จากที่หดตัวร้อยละ -6.3 ต่อปี ในไตรมาสก่อนหน้า นอกจากนี้เครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนในหมวดก่อสร้าง ณ เดือน ม.ค.53 สะท้อนการลงทุนที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง เช่น ปริมาณจำหน่ายปูนซิเมนต์เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.4 พื้นที่รับอนุญาตก่อสร้างในเขตเทศบาลรวมทั้งประเทศขยายตัวร้อยละ 36.3 ซึ่งอาจสะท้อนได้ว่า การลงทุนภาคการก่อสร้างโดยรวมดีขึ้น แม้ว่าความต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์ของชาวต่างชาติอาจลดลง
3. อเบอร์ดีนคาดตลาดหุ้นเกิดใหม่ส่อเค้าร่วงร้อยละ15 ในปีนี้
  • อเบอร์ดีนประเมินว่าตลาดหุ้นในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่มีแนวโน้มหดตัวลงร้อยละ 15 ในปีนี้ เนื่องจากผลประกอบการของภาคเอกชนออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ และอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง พร้อมปรับลดน้ำหนักการลงทุนของตลาดหุ้นจีนลง เพราะกังวลว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลนำมาใช้อาจนำไปสู่วิกฤตการณ์ในภาคการธนาคาร แต่ได้ปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นเม็กซิโก อินเดีย และตุรกี
  • สศค.วิเคราะห์ว่า ดัชนี MSCI Emerging Market ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของ 22 ตลาดหุ้นในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ สามารถผ่านพ้นช่วงวิกฤติในปี 52 มาได้เป็นอย่างดี โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 80 จากจุดต่ำสุดในเดือนมี.ค.52 โดยมีสาเหตุหลักหลักมาจาก กลุ่มตลาดเกิดใหม่เอเชีย และลาตินอเมริกาปรับตัวขึ้นมากเทียบกับดัชนี MSCI AC World สำหรับทุกประเทศที่ปรับขึ้นแค่ร้อยละ 35 ในช่วงเดียวกัน ทั้งนี้คาดว่าเศรษฐกิจของประเทศเกิดใหม่ในปี 53 จะขยายตัวได้ต่อเนื่อง โดยเฉพาะจีน ที่ตัวเลขทางเศรษฐกิจออกมาดี เห็นได้จากมูลค่าการส่งออกเดือน ก.พ. ที่ขยายตัวสูงที่ร้อยละ 45.7 ต่อปี นับเป็นการขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 และเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 3 ปี ทำให้คาดว่าดัชนีตลาดหุ้นตลาดเกิดใหม่อาจสามารถปรับตัวดีขึ้น

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office

Tel 02-273-9020 Ext 3665: www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ