Highlights:
- ตลาดหลักทรัพย์ของไทยในสัปดาห์ที่ผ่านมายังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยยังมีเงินลงทุนไหลเข้าจากต่างชาติ สอดคล้องกับตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน
- อัตราดอกเบี้ยระยะกลางและยาวและผลตอบแทนพันธบัตรระยะกลางและยาวเริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากที่ กนง. กล่าวในแถลงการณ์ว่ากำลังพิจารณาปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยจากระดับที่ต่ำที่สุดสู่ระดับปกติในระยะอันใกล้นี้
- ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงเล็กน้อย ส่งผลให้ดัชนีค่าเงินบาทลดลง
- ราคาน้ำมันค่อนข้างทรงตัวในขณะที่ราคาทองปรับตัวลดลง
Foreign Exchange Market:
- ค่าเงินบาทในอ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวค่อนข้างอยู่ในช่วงแคบระหว่าง 32.6 - 32.7 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐท่ามกลางธุรกรรมที่ค่อนข้างเบาบางในช่วงปลายสัปดาห์ โดยการที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงในสัปดาห์นี้ในขณะที่ค่าเงินสกุลอื่นๆของประเทศคู่ค้าล้วนแข็งค่าขึ้นได้ส่งผลให้ดัชนีค่าเงินบาท (NEER) ในสัปดาห์นี้ปรับตัวลดลงที่ร้อยละ -0.39 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับสัปดาห์ก่อนหน้า
- เงินทุนสำรองระหว่างประเทศสุทธิ ณ วันที่ 5 มี.ค. 53 อยู่ที่ระดับ 142.64 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าประมาณ 1.22 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ฐานะ Forward ปรับตัวลดลง -0.70 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
Stock Market:
- ตลาดหลักทรัพย์ไทยในสัปดาห์ที่ผ่านมายังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยยังได้รับแรงไหลเข้ามาลงทุนจากต่างชาติเช่นเดียวกับตลาดหลักทรัพย์ทั่วทั้งภูมิภาคและตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลก ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกันตามภาวะ risk appetite ที่ได้รับจากปจจัยบวกที่ผลประกอบการบริษัททั่วโลกที่โดยรวมแล้วออกมาดีกว่าที่คาดไว้ อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ความตึงเครียดทางการเมืองในประเทศมิได้ส่งผลกระทบต่อภาวะตลาดหุ้นของไทยโดยมีนัยยะสำคัญนัก
Money Market:
- อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของไทย (Thai baht fixing) ปรับตัวเพิ่มขึ้นโดยในช่วงระยะ 3 เดือนขึ้นไปหลังจากที่ ธปท. ระบุว่ากำลังพิจารณาปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยขึ้นในระยะถัดไป ในขณะที่ aht fixing ระยะข้ามคืนเคลื่อนไหวผันผวนตามภาวะ Demand-supply เงินตามความกังวลว่าความต้องการเงินอาจมีมากขึ้นจากสถานการณ์ทางการเมือง อัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 3 เดือนของสหรัฐ (US LIBOR 3 เดือน)ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย
Bond Market:
- ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยในสัปดาห์นี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยโดยเป็นการปรับตัวในช่วงระยะปานกลางถึงระยะยาว ตามที่นักลงทุนมองว่าอัตราเงินเฟ้ออาจมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นในระยะถัดไป จึงส่งผลให้ความต้องการถือพันธบัตรโดยเฉพาะในช่วงระยะปานกลางและยาวปรับตัวลดลง
Commodity Market:
- ราคาน้ำมันดิบ Dubai ในสัปดาห์นี้เคลื่อนไหวค่อนข้างทรงตัวปรับตัวเพิ่มขึ้นมาหลังจากโดยปรับตัวลดลงเล็กน้อยในช่วงปลายสัปดาห์หลังจากตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐของ University of Michigan ที่ลดลงต่ำกว่าคาดทำให้นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับความต้องการใช้น้ำมันในระยะข้างหน้า
- ราคาทองปรับตัวลดลงในสัปดาห์นี้ตามการแข็งค่าขึ้นของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐและความต้องการทองที่ลดลงรัฐบาลจีนออกมาระบุว่าจะลดการถือเงินทุนสำรองในรูปทองลง
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th