รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 26 มีนาคม 2553

ข่าวเศรษฐกิจ Friday March 26, 2010 12:14 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 26 มี.ค. 2553

Summary:

1. มหาลัยหอการค้าคาดบาทแข็งค่าสุดที่ 32.00 บาท ต่อดอลลาร์สหรัฐ

2. กระทรวงพาณิชย์เร่งเดินหน้าผลักดันโครงการไทยเข้มแข็ง

3. ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนสหรัฐฯ เดือน ก.พ. 53 ขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง

Highlight:
1. มหาลัยหอการค้าคาดบาทแข็งค่าสุดที่ 32.00 บาท ต่อดอลลาร์สหรัฐ
  • นายวชิร คูณทวีเทพ อาจารย์ประจำศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวถึงการแข็งค่าของเงินบาทในขณะนี้ว่า ค่าเงินบาทที่แข็งค่ามาจากการเข้าลงทุนทางอ้อมในตลาดหลักทรัพย์ฯของนักลงทุน ต่างประเทศ ที่เข้ามาช้อนซื้อหุ้นไทย ทั้งนี้ ผู้ประกอบการในภาคการส่งออกยังไม่ได้รับผลกระทบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องยอดขาย หรือออเดอร์ที่สั่งมา ยังอยู่ในระดับที่เอกชนรับได้ เพราะการแข็งค่าเงินบาทในครั้งนี้ ไม่ได้แข็งค่ามากกว่าภูมิภาคเท่าใดนัก
  • สศค.วิเคราะห์ว่า ในเดือน มี.ค.53 มีเงินทุนไหลเข้าผ่านตลาดหลักทรัพย์กว่า 3.8 หมื่นล้านบาท และผ่านเข้าตลาดพันธบัตรอีกกว่า 1.8 หมื่นล้านบาท ส่งผลให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นมาแล้วกว่าร้อยละ 2 เมื่อเทียบกับปลายเดือน ก.พ.53 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ การที่ค่าเงินเงินสกุลอื่นๆในภูมิภาคแข็งค่าขึ้นในอัตราที่น้อยกว่า อาทิ ดอลลาร์ไต้หวัน วอนเกาหลีใต้ ที่แข็งค่าขึ้นที่ร้อยละ 1.2 และ 1.7 เมื่อเทียบกับปลายเดือน ก.พ.53 ตามลำดับ ส่งผลให้ ดัชนีค่าเงินบาทของประเทศไทยคำนวณโดย สศค. ปรับตัวแข็งขึ้นจากช่วงปลายเดือน ก.พ.53 ร้อยละ 2.8 บ่งชี้ว่าความสามารถในการแข่งขันของไทยปรับตัวลดลง
2. กระทรวงพาณิชย์เร่งเดินหน้าผลักดันโครงการไทยเข้มแข็ง
  • รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า หลังจากที่กระทรวงได้รับงบประมาณตามโครงการไทยเข้มแข็ง จึงได้มีการจัดประชุมผู้บริหาร เพื่อเดินหน้าตามกรอบยุทธศาสตร์ด้านต่างๆ เช่น การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการผลิต โดยเน้นให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยในทุกอุตสาหกรรมปรับแผนการผลิตให้สอดคล้องกับการดูแลด้านสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งปูพื้นฐานให้เอกชนมีความรู้ความเข้าใจจากการที่ไทยจะเดินตามกรอบการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในอีก 5 ปีข้างหน้า
  • สศค. วิเคราะห์ว่า แนวโน้มการพัฒนาอุตสาหกรรมไทยจะมีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยการมุ่งเน้นให้อุตสาหกรรมไทยเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (green industry)จะเป็นการสนับสนุนจุดแข็งของประเทศไทย (core competency) ทางด้านอุตสาหกรรมการเกษตร รวมถึงจะเป็นการยกระดับของคุณภาพชีวิตประชากรไทยโดยเฉพาะในระดับรากหญ้าด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ ภาคอุตสาหกรรมมีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ 39.0 ของภาคการผลิต โดยตัวเลขเครื่องชี้เศรษฐกิจล่าสุดภาคผลผลิตอุตสาหกรรมล่าสุดในเดือน ก.พ. 53 ขยายตัวในระดับที่สูงถึงร้อยละ 31.1 บ่งชี้ว่าภาคอุตสาหกรรมของไทยยังสามารถขยายตัวได้ดี
3. ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนสหรัฐฯ เดือน ก.พ.53 ขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง
  • ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนสหรัฐฯ เดือน ก.พ.53 ขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงจากเดือนก่อนหน้าที่ร้อยละ 0.5 (%mom sa) เมื่อเทียบกับร้อยละ 3.9 (%mom_SA) ในเดือน ม.ค.53 อย่างไรก็ตามหากไม่รวมสินค้าคงทนที่เกี่ยวกับการขนส่ง (exclude transportation equipments) ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนจะขยายตัวในอัตราที่เร่งขึ้นจากเดือนก่อนที่ร้อยละ 0.9 (%mom_SA) เมื่อเทียบกับร้อยละ -0.6 (%mom_SA) ในเดือนม.ค. 53
  • สศค. วิเคราะห์ว่า การที่คำสั่งซื้อสินค้าคงทนได้ขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในรายการเครื่องจักรเพื่อการผลิต (Machinery) ที่ขยายตัวถึงร้อยละ 4.7 (% mom_SA) นั้น สะท้อนถึงอุปสงค์ในประเทศที่มีแนวโน้มที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นในอนาคต อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจสหรัฐโดยรวมยังไม่มีสัญญาณฟื้นตัวที่ชัดเจน จากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.พ.53 (Consumer Confidence Index) ที่อยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือนที่ 46.0 ในขณะที่ยอดขายบ้านสร้างใหม่ในเดือน ก.พ. 53 ที่หดตัวร้อยละ -2.2 (% mom) ลดลงต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 และอัตราการว่างงานที่ยังอยู่ในระดับที่สูงที่ร้อยละ 9.7 ของกำลังแรงงานรวม

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office

Tel 02-273-9020 Ext 3665: www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ