รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 8 เมษายน 2553

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday April 8, 2010 12:07 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 8 เม.ย. 2553

Summary:

1. หอการค้าไทยคาดสงกรานต์ปีนี้ประชาชนจับจ่ายน้อย

2. ราคาน้ำมันปรับบวกสูงสุดในรอบ 18เดือน

3. ธนาคารโลกแถลงตัวเลขล่าสุดของเศรษฐกิจเอเชียตะวันออก

Highlight
1. หอการค้าไทยคาดสงกรานต์ปีนี้ประชาชนจับจ่ายน้อย
  • นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ได้ทำการประเมินสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในช่วงเทศกาลสงกรานต์ว่า ในปีนี้คนไทยจะมีการจับจ่ายใช้สอยลดลง ซึ่งจะเป็นการติดลบครั้งแรกในรอบ 6 ปี สาเหตุจากปัจจัยทางการเมือง โดยคาดว่าเงินสะพัดในช่วงสงกรานต์จะมีแค่ 96,811 ล้านบาท หรือติดลบร้อยละ 1.49 เมื่อเทียบกับช่วงที่ผ่านมา
  • สศค.วิเคราะห์ว่า ปัญหาการเมืองส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยผ่าน 3 ช่องทางสำคัญคือ1) ช่องทางความเชื่อมั่น 2) ช่องทางเศรษฐกิจด้านอุปสงค์และอุปทาน 3) ช่องทางดุลบัญชีเดินสะพัด ผลกระทบจากปัญหาการเมืองในกรณีเบาที่การชุมนุมประท้วงไม่มีความรุนแรงและการชุมนุมสิ้นสุดในไตรมาส 2 อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจจะลดลงร้อยละ -0.2 ต่อปีจากกรณีฐาน (ร้อยละ 4.5 ต่อปี) ในกรณีรุนแรงถึงขั้นที่รัฐบาลต้องประกาศ พ.ร.ก ฉุกเฉิน หรือสลายการชุมนุม และการชุมนุมสิ้นสุดภายในไตรมาส 3 อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจจะลดลงร้อยละ -0.5 ต่อปี และในกรณีรุนแรงมากและมีการกระทำที่อาจเป็นอุปสรรคต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจจะลดลงมากถึงร้อยละ -1.8 ต่อปีจากกรณีฐาน
2. ราคาน้ำมันปรับบวกสูงสุดในรอบ 18เดือน
  • ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นทำสถิติสูงสุดในรอบ 18 เดือน เนื่องจากผลต่อเนื่องของข้อมูลที่บ่งชี้ถึงเศรษฐกิจอันสดใสในสหรัฐฯ ประเทศผู้บริโภคน้ำมันดิบรายใหญ่ สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือน พ.ค. เพิ่มขึ้น 22 เซนต์ ปิดที่ 86.24 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล หลังจากช่วงหนึ่งทะยานขึ้นไปถึง 87.09 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล สูงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 9 ตุลาคม 2008 ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน เพิ่มขึ้น 27 เซนต์ ปิดที่ 86.15 ดอลลาร์
  • สศค. วิเคราะห์ว่า ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ช่วงต้นเดือน ก.พ.53 เป็นต้นมา จากระดับ 70.28 ดอลล่าร์สหรัฐ/บาร์เรล ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 86.52 ดอลล่าร์สหรัฐ/บาร์เรล ในวันที่ 7 เม.ย.53 คิดเป็นการเพิ่มขึ้นร้อยละ 23.1 ภายในระยะเวลา 2 เดือน สาเหตุหลักจากตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ตลาดมองว่าความต้องการใช้น้ำมันของสหรัฐฯ จะสูงขึ้นในอนาคต สำหรับประเทศไทยผลกระทบจากค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมัน (ค่าขนส่งและค่าโดยสาร) จะได้รับการบรรเทาด้วยนโยบาย 5 มาตรการ 6 เดือน ทำให้ไม่ส่งผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อมากนัก โดย สศค. คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 53 จะอยู่ที่ร้อยละ 4.0 ต่อปี (ช่วงคาดการณ์ร้อยละ 3.5-5.0 ต่อปี)
3.ธนาคารโลกแถลงตัวเลขล่าสุดของเศรษฐกิจเอเชียตะวันออก
  • สำนักข่าว รอยเตอร์ รายงานว่าธนาคารโลกได้ปรับตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจล่าสุดของภูมิภาคเอเชียตะวันออกโดยจะขยายตัวที่ร้อยละ 8.7 ต่อปี จากเดิมที่ร้อยละ 7.8 ต่อปี ณ เดือน พ.ย. 52 ขณะที่อัตราการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจเอเชียตะวันออกที่ไม่รวมจีนในปี 2553 จะขยายตัวที่ร้อยละ 5.5 ต่อปี สูงขึ้นจากปีก่อนที่ระดับร้อยละ 1.3 ต่อปี สำหรับกรณีไทยนั้นธนาคารโลกได้ปรับตัวเลขคาดเศรษฐกิจว่าจะขยายตัวที่ร้อยละ 6.2 ต่อปี จากเดิมที่ร้อยละ 3.5 ต่อปี ณ เดือน พ.ย. 52
  • สศค. วิเคราะห์ว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียในปัจจุบันเป็นผลมา จากการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนเป็นสำคัญ ซึ่งส่งผลดีต่อเศรษฐกิจไทยสะท้อนได้จากมูลค่าการส่งออกในช่วง 2 เดือนแรกของปี 53 ขยายตัวในอัตราสูงที่ร้อยละ 26.8 ต่อปี โดยเฉพาะมูลค่าการส่งออกไปยังประเทศจีนในช่วง 2 เดือนแรกขยายตัวถึงร้อยละ 84.5 ต่อปี และทำให้จีนเป็นประเทศคู่ค้าสำคัญอันดับ 2 ของไทย โดยมีสัดส่วนการตลาดคิดเป็นร้อยละ 10.6 ทั้งนี้ สศค.ได้ประมาณการเศรษฐกิจไทยใน ปี 53 จะขยายตัวที่อัตราร้อยละ 4.5 ต่อปี โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการฟื้นตัวที่ดีมากของเศรษฐกิจโลกประเทศคู่ค้าสำคัญและการใช้จ่ายภาคเอกชนภายในประเทศ

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office

Tel 02-273-9020 Ext 3665: www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ