นายพฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2553 คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจมีมติ เห็นชอบมาตรการสนับสนุนการผลิตรถยนต์ E85 ในประเทศ โดยการลดภาษีสรรพสามิตสำหรับรถยนต์ E85 ลงในอัตรา 3 % จากโครงสร้างภาษี ในปัจจุบัน ดังนี้
ประเภทรถยนต์ อัตราภาษีปัจจุบัน อัตราภาษีที่เสนอ รถยนต์ที่มีความจุกระบอกสูบตั้งแต่ 1,780 ซี.ซี. แต่ไม่เกิน 2,000 ซี.ซี. 25% 22% รถยนต์ที่มีความจุกระบอกสูบเกิน 2,000 ซี.ซี. แต่ไม่เกิน 2,500 ซี.ซี. 30% 27% รถยนต์ที่มีความจุกระบอกสูบเกิน 2,500 ซี.ซี. แต่ไม่เกิน 3,000 ซี.ซี. 35% 32%
นายพฤฒิชัย ดำรงรัตน์ กล่าวต่อว่าการใช้มาตรการจูงใจทางภาษีดังกล่าวจะช่วยส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนที่ผลิตจากพืชน้ำมัน ช่วยลดการพึ่งพิงการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศ และลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งจากการทดสอบของกรมควบคุมมลพิษและสถาบันวิจัยและ เทคโนโลยีปตท. (วังน้อย) พบว่าไอเสียจากการใช้น้ำมัน E85 มีมลพิษน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐาน มอก. 2160-2546 ที่บังคับใช้ในปัจจุบัน ประมาณ 2.5 — 6 เท่า
ทั้งนี้ การลดอัตราภาษีจะมีผลหลังจากการออกประกาศกระทรวงการคลัง ซึ่งขณะนี้ได้มอบหมายให้กรมสรรพสามิตไปดำเนินการออก ประกาศกระทรวงการคลังในการลดอัตราภาษีสรรพสามิตรถยนต์แล้ว
นายพฤฒิชัย กล่าวว่า นอกจากมาตรการสำหรับสนับสนุนการใช้พลังงานทดแทนแล้ว กระทรวงการคลังยังใช้มาตรการภาษีสรรพสามิต สนับสนุนการใช้รถยนต์ประหยัดพลังงาน หรือ ECO CAR ซึ่งเป็นรถยนต์ที่มีเครื่องยนต์เบนซินความจุกระบอกสูบไม่เกิน 1,300 ซีซี และ เครื่องยนต์ดีเซลความจุกระบอกสูบไม่เกิน 1,400 ซีซี ในอัตราตามมูลค่าร้อยละ 17 โดยเริ่มมีผลเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2552 และเริ่มมี การชำระภาษีเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2553 ปัจจุบันนี้มียอดการจำหน่าย ECO CAR สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน จำนวน 833 คัน คิดเป็นรายได้ ภาษีที่จัดเก็บได้ เป็นเงิน ประมาณ 43 ล้านบาท และคาดว่าทั้งปี 2553 จะมีการผลิตรถยนต์ ECO CAR ไม่ต่ำกว่า 14,000 คัน
กรมสรรพสามิต
โทร/โทรสาร 02 241 4778
www.excise.go.th
--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 49/2553 23 เมษายน 53--