รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 3 พฤษภาคม 2553

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday May 4, 2010 11:19 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 3 พ.ค. 2553

Summary:

1. ตัวเลขส่งออกยังอุ้ม...เศรษฐกิจไตรมาส 2

2. พลิกกลยุทธ์บริหารสต็อกข้าว

3. วิกฤตหนี้กรีซ สัญญาณร้ายกระทบเศรษฐกิจโลก

Highlight:
1. ตัวเลขส่งออกยังอุ้ม...เศรษฐกิจไตรมาส 2
  • ปัจจัยการเมืองที่มีความรุนแรงเพิ่มขึ้น อาจทำให้เส้นทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยเริ่มสะดุดลงในช่วงไตรมาส 2 ปี 53 แม้ว่าแรงขับเคลื่อนจากภาคการส่งออกจะยังคงทำหน้าที่ได้ดีก็ตาม โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า การส่งออกในไตรมาส 2 ปี 53 จะสามารถเติบโตได้ใกล้เคียงไตรมาสแรกที่ร้อยละ 30 ต่อปี ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า หากสถานการณ์ทางการเมืองคลี่คลายภายในครึ่งแรกของปี 53 ผลกระทบจะบั่นทอนการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยประมาณร้อยละ 0.5 แต่ในกรณีเลวร้ายที่สุดอาจสูงถึงประมาณร้อยละ 2 หากปัญหาการเมืองในประเทศบานปลาย รุนแรงและยืดเยื้อ
  • สศค. วิเคราะห์ว่า การส่งออกของไทยในไตรมาส 1 ปี 53 ขยายตัวได้ดีที่ร้อยละ 9.9 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า(ปรับผลทางฤดูกาลแล้ว) ชี้ในเห็นถึงการส่งออกที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ส่วนในช่วงไตรมาส 2 ปี 53 คาดว่าการส่งออกจะยังคงขยายตัวได้ดี แต่ยังคงมีความเสี่ยงจากปัญหาการเมืองภายในประเทศ รวมถึงการผ่อนปรนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนและความเปราะบางของเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศยุโรป ทั้งนี้ ผลกระทบทางเศรษฐกิจจากปัญหาการเมือง สศค.ประเมินว่า สถานการณ์ทางการเมืองที่ไม่รุนแรง จะกระทบการเติบโตของเศรษฐกิจไทยร้อยละ -0.2 และอาจกระทบถึงร้อยละ -1.8 หากสถานการณ์รุนแรงมาก จากกรณีฐานที่คาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 53 จะขยายตัวร้อยละ 4.5 ต่อปี
2. พลิกกลยุทธ์บริหารสต็อกข้าว
  • กระทรวงพาณิชย์ประเมินสถานการณ์ข้าวในปี 53 ว่า ในช่วงครึ่งแรกของปี 53 ตลาดข้าวเป็นของผู้ขาย ส่วนผลผลิตข้าวในฤดูที่ 2 ผลผลิตเพิ่มข้าวเพิ่มขึ้นจากประเทศไทยและเวียดนามเป็นหลัก ขณะที่ในช่วงครึ่งหลังของปี 53 คาดว่าราคาข้าวในตลาดจะขึ้นอยู่กับผลผลิตข้าวในตลาดโลกในฤดูกาลปี 53/54 ต่อไป ทั้งนี้ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมโรงสีข้าวไทยกล่าวว่า ราคาข้าวที่ปรับเพิ่มขึ้นในช่วงนี้ ส่วนหนึ่งมาจากมาตรการของทางรัฐและและคาดว่าราคาข้าวได้ถึงจุดต่ำสุดแล้ว พร้อมเสนอให้ภาครัฐมีแนวทางในการบริหารสต็อกข้าว รวมถึงเร่งหาตลาดใหม่ๆ เพิ่มขึ้น
  • สศค. วิเคราะห์ว่า ราคาข้าวที่ปรับตัวลดลงในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากตลาดคาดว่าปัจจัยด้านสภาพภูมิอากาศที่แห้งแล้ง จะส่งผลให้ประเทศผู้ผลิตอาหารหลัก เช่น อินเดีย และเวียดนาม ได้รับผลกระทบผลผลิตข้าวลดลง ซึ่งจากตัวเลขคาดการณ์ในเดือน เม.ย.53 ของกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ พบว่า ปริมาณผลผลิตข้าวของเวียดนามปรับลดลงเล็กน้อยจากปีก่อนที่ 24.3 ล้านตัน (ปีก่อน 24.38 ล้านตัน) ในขณะที่ของไทยอยู่ที่ 20.3 ล้านตัน (จากปีก่อนอยู่ที่ 19.8 ล้านตัน) อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งหลังของปี 53 คาดว่าราคาข้าวจะปรับตัวสูงขึ้นบ้าง เนื่องจากปริมาณข้าวสต็อกของโลกลดลง ในส่วนของราคาข้าวของไทย ราคาข้าวปรับตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 500 บาทต่อตัน
3. วิกฤตหนี้กรีซ สัญญาณร้ายกระทบเศรษฐกิจโลก
  • หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมาที่เอสแอนด์พีประกาศปรับลดเรตติ้งตราสารหนี้ของกรีซ โปรตุเกส และสเปนลง ดัชนีหุ้นยุโรป 600 ทรุดลงมากกว่า 3.5% ขณะที่เงินยูโรอ่อนค่าลงต่ำสุดในรอบ 1 ปี เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ นายเพต บูควาร์ นักวิเคราะห์จากมิลเลอร์ ทาบัค วิเคราะห์ว่าผลกระทบของหนี้สาธารณะในกรีซดังกล่าว อาจลุกลามเป็นความเสี่ยงใน 3 ประการ คือ (1) 35% ของเศรษฐกิจในกลุ่มยูโรโซนจะได้รับผลกระทบลุกลามกรีซ (2) การเพิ่มแรงกดดันต่อเนื่องไปยังภาคธุรกิจและผู้บริโภคยุโรป และ (3) ผลกระทบลูกโซ่ที่ทำให้เศรษฐกิจโลกอาจต้องชะลอตัวตามไปด้วย
  • สศค. วิเคราะห์ว่า แม้ว่ากรีซจะสามารถหาเงินมาชำระหนี้มูลค่ากว่า 9 พันล้านยูโร ที่จะถึงกำหนดในวันที่ 19 พ.ค. 53 นี้ได้ทันท่วงที แต่ความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ของกรีซ โปรตุเกส และสเปนนั้นก็ยังไม่หมดไป โดยปัจจัยดังกล่าวอาจเป็นสาเหตุให้การขยายตัวของเศรษฐกิจยุโรปในปี 53 ได้รับผลกระทบผ่านการปรับลดงบประมาณรายจ่ายในประเทศที่มีปัญหา และการค้าระหว่างประเทศในสหภาพยุโรปที่ลดลง ซึ่งอาจจะทำให้เศรษฐกิจที่แข็งแกร่งอย่างเยอรมันและฝรั่งเศสมีปริมาณการส่งออกที่ลดลง อีกทั้งอาจทำให้ภาคการส่งออกของจีน อังกฤษและสหรัฐฯ ซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่ของยุโรป ต้องประสบปัญหาตามไปด้วย

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office

Tel 02-273-9020 Ext 3665: www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ