Macro Morning Focus ประจำวันที่ 6 พ.ค. 2553
Summary:
1. ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นในครึ่งหลังของปี 53
2. ครม. อนุมัติกระทรวงการคลังกู้เงินไจก้าสร้างรถไฟฟ้าสีแดง
3. แบงก์ชาติออสเตรเลียขึ้นดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 หวังปรามเงินเฟ้อ
Highlight:
1. ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นในครึ่งหลังของปี 53
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปช่วงไตรมาสที่ 2/53 อาจชะลอลงมาไม่เกินร้อยละ 3.4 จากร้อยละ 3.8 ในไตรมาสที่ 1/53 แต่มีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นในครึ่งหลังของปี ถ้าเศรษฐกิจโลกยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ไม่รวมอาหารสดและพลังงานมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน โดยคาดว่า อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในไตรมาสที่ 2/2553 จะปรับตัวสูงขึ้นที่ร้อยละ 1.0 จากไตรมาสแรกที่ร้อยละ 0.4 ก่อนที่จะเร่งตัวขึ้นใกล้เพดานกรอบเงินเฟ้อเป้าหมายของธปท. ที่ร้อยละ 3.0 ในช่วงปลายปี
- สศค. วิเคราะห์ว่าอัตราเงินเฟ้อในปี 53 จะปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยส่วนหนึ่งมาจากฐานการคำนวณที่ต่ำในปีที่ผ่านมา ประกอบกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกอย่างต่อเนื่องจะส่งผลให้ราคาน้ำมันและราคาสินค้าเกษตรปรับตัวสูงขึ้นตามด้วย ทั้งนี้ สศค. คาดว่าในปี 53 อัตราเงินเฟ้อทั่วไปและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะขยายตัวที่ร้อยละ 4.0 (ช่วงคาดการณ์ร้อยละ 3.5 — 4.5) และ 1.5 (ช่วงคาดการณ์ร้อยละ 1.0 — 2.0)
2. ครม. อนุมัติกระทรวงการคลังกู้เงินไจก้าสร้างรถไฟฟ้าสีแดง
- ครม. อนุมัติกู้เงินในโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ภายใต้วงเงิน 2.8 หมื่นล้านบาท ในการนี้กระทรวงการคลังได้มีแผนการกู้เงินจากองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่นหรือไจก้าภายใต้วงเงิน 22,783 ล้านบาท เพื่อปล่อยกู้แก่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เพื่อใช้ดำเนินโครงการระบบรถไฟชานเมืองสีแดง
- สศค. วิเคราะห์ว่าการดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต ภายใต้วงเงินดังกล่าวนั้น ถือเป็นการลงทุนของภาครัฐด้านโครงสร้างสาธารณะที่สำคัญในการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เขตปริมณฑล อีกทั้งเป็นการส่งเสริมให้เกิดการลงทุนของภาคเอกชนหรือ Crowding in Effect โดยเฉพาะธุรกิจพัฒนาที่ดินตามถนนสายหลักที่มีรถไฟฟ้าเปิดบริการในอนาคต ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวถือเป็นส่วนหนึ่งของโครงการไทยเข้มแข็งที่มีมูลค่า 1.43 ล้านล้านบาท ซึ่งมีส่วนสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศต่อไป
3. แบงก์ชาติออสเตรเลียขึ้นดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 หวังปรามเงินเฟ้อ
- ธนาคารกลางออสเตรเลียประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 ทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นมาอยู่ที่ระดับร้อยละ 4.5 หลังการขยายตัวของเศรษฐกิจกำลังกดดันให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น โดยการขึ้นอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า ธนาคารกลางออสเตรเลียไม่มีความกังวลต่อประเด็นปัญหาการขาดดุลงบประมาณของกรีซ และประเทศอื่นๆในยูโรโซน อย่างไรก็ตามนักเศรษฐศาสตร์จำนวนมากหวั่นเกรงว่า การขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องของธนาคารกลางออสเตรเลียอาจกดดันให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจหยุดชะงัก ประกอบการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังคงเปราะบาง
- สศค.วิเคราะห์ว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของออสเตรเลียในครั้งนี้นับเป็นการปรับขึ้นเป็นครั้งที่ 6 ตั้งแต่เริ่มมีการประกาศขึ้นในเดือน ต.ค.52 เป็นต้นมา ซึ่งขณะนั้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ระดับร้อยละ 3.00 ต่อปี โดยธนาคารกลางออสเตรเลียกังวลถึงปัจจัยเสี่ยงต่ออัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งมีสาเหตุจากเงินเฟ้อประเภท Demand Pull โดยอัตราเงินเฟ้อในไตรมาสที่ 1/53 ขยายตัวเร่งขึ้นที่ร้อยละ 2.9 ต่อปี หรือขยายตัวร้อยละ 0.9 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการขยายตัวใกล้เคียงกับช่วงก่อนเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ ทั้งนี้ธนาคารกลางออสเตรเลียจะดำเนินนโยบายเพื่อรักษาระดับอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในกรอบเป้าหมายที่ร้อยละ 2.0-3.0 ต่อปี เพื่อให้เศรษฐกิจสามารถขยายตัวได้อย่างมีเสถียรภาพ
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3665: www.fpo.go.th