- ปัญหาหนี้สาธารณะของประเทศในกลุ่ม PIGS อันได้แก่ โปรตุเกส อิตาลี กรีซ และสเปน ทำให้หลายฝ่ายมีความกังวลว่าปัญหานี้จะลุกลามไปเป็นปัญหาของสหภาพยุโรปและเศรษฐกิจโลกโดยรวม ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยได้
- สศค. วิเคราะห์ว่า ผลกระทบผ่านภาคการเงิน (Financial Impacts) อยู่ในวงจำกัด เนื่องจากสถาบันการเงินไทยส่วนใหญ่ไม่มี Direct Exposure กับประเทศในกลุ่ม PIGS มากนักอีกทั้ง สถาบันการเงินไทยมีฐานะเข้มแข็ง สามารถรองรับความผันผวนของการเคลื่อนย้ายเงินทุนที่อาจเกิดขึ้นจากประเทศในกลุ่ม PIGS ได้ นอกจากนี้ ผลกระทบผ่านภาคเศรษฐกิจจริง(Real Sector Impacts) อยู่ในวงจำกัดเช่นกัน เนื่องจากมูลค่าการค้าและการลงทุนระหว่างไทยและประเทศในกลุ่ม PIGS คิดเป็นสัดส่วนที่น้อยเมื่อเทียบกับมูลค่าการค้าและการลงทุนของไทยทั้งหมด
- อย่างไรก็ตาม สศค. เห็นว่า ในระยะสั้น รัฐควรติดตามปัญหาหนี้สาธารณะของประเทศในกลุ่ม PIGS อย่างใกล้ชิด เพื่อเฝ้าระมัดระวังผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยหากปัญหาดังกล่าวลุกลามไปสู่ปัญหาของสหภาพยุโรปโดยรวม และในระยะปานกลาง รัฐควรเร่งกระจายตลาดส่งออกไปยังประเทศต่าง ๆ มากขึ้น เพื่อลดการพึ่งพาการส่งออกไปยังประเทศใดประเทศหนึ่งและเร่งกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศ เพื่อลดการพึ่งพาการส่งออกด้วย
ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา บริษัทจัดอันดับเครดิตเรตติ้งชั้นนำของโลก ได้แก่ S&P Moody’s และ Fitch ต่างได้ปรับลดระดับความน่าเชื่อถือของพันธบัตรประเทศในกลุ่ม PIGS อันได้แก่ โปรตุเกส อิตาลี กรีซ และสเปน จากการขาดดุลการคลังอย่างต่อเนื่อง อันส่งผลให้หนี้สาธารณะของประเทศเหล่านี้อยู่ในระดับที่สูง และเนื่องจากประเทศในกลุ่ม PIGS เป็นส่วนหนึ่งของสหภาพยุโรป ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าปัญหาหนี้สาธารณะของประเทศเหล่านี้จะลุกลามกลายเป็นปัญหาของสหภาพยุโรปและเศรษฐกิจโลกโดยรวมซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยได้
บทความนี้จะวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นของปัญหาหนี้สาธารณะของกลุ่มประเทศ PIGS ต่อเศรษฐกิจไทยผ่าน 2 ช่องทาง ได้แก่ 1) ผลกระทบผ่านช่องทางภาคการเงิน (Financial Impact) และ 2) ผลกระทบผ่านช่องทางเศรษฐกิจจริง (Real Sector Impact) โดยมีรายละเอียด ดังนี้
ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจโลกตั้งแต่ปลายปี พ.ศ. 2551 เป็นต้นมา รัฐบาลในหลาย ๆ ประเทศจำเป็นต้องเข้ากระตุ้นเศรษฐกิจของตนอย่างมหาศาล เพื่อทดแทนอุปสงค์ที่ขาดหายไปและประคับประคองเศรษฐกิจของตนให้ดำเนินไปได้จนกว่าเศรษฐกิจโลกจะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง ประเทศในกลุ่ม PIGS ได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของตนเฉกเช่นประเทศอื่นๆ โดยแต่ดูเหมือนว่าสภาพเศรษฐกิจภายในประเทศยังไม่มีแนวโน้มว่าจะกลับมาฟื้นตัว กล่าวคือ
โปรตุเกส ในปี พ.ศ. 2552 รัฐบาลโปรตุเกสได้ดำเนินนโยบายขาดดุลการคลังกว่าร้อยละ 8.1 ต่อจีดีพี ส่งผลให้ระดับหนี้สาธารณะอยู่ในระดับสูงที่ร้อยละ 81.2 ต่อจีดีพี อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจของโปรตุเกสโดยรวมยังไม่ดีนัก จากอัตราการว่างงานที่สูงถึงร้อยละ 9.5 ของแรงงานรวม และการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดที่สูงถึงร้อยละ 9.0 ต่อจีดีพี
อิตาลี แม้ว่าอิตาลีจะดำเนินนโยบายขาดดุลการคลังเพียงร้อยละ 5 ต่อจีดีพี แต่จากระดับหนี้สาธารณะเดิมที่สูงถึงร้อยละ 116 ต่อจีดีพี ทำให้หลายฝ่ายกังวลถึงเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของอิตาลีโดยรวมโดยอัตราการว่างงานยังคงอยุ่ในระดับสูงที่ร้อยละ 7.6 จากแรงงานรวม และดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลที่ร้อยละ 2.7 ต่อจีดีพี
กรีซ ในปี พ.ศ. 2552 รัฐบาลกรีซได้ดำเนินนโยบายขาดดุลการคลังอย่างมหาศาลที่ร้อยละ 12.7 ต่อจีดีพี (สูงสุดในประเทศกลุ่ม PIGS) ส่งผลให้ระดับหนี้สาธารณะอยู่ในระดับที่สูงที่ร้อยละ 113 ต่อจีดีพี อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจของกรีซโดยรวมยังคงไม่มีสัญญาณว่าจะฟื้นตัว จากอัตราการว่างงานอยู่ที่ระดับสูงถึงร้อยละ 8.9 จากแรงงานรวม และดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลถึงร้อยละ 12.4 ต่อจีดีพี และ
สเปน ในปี พ.ศ. 2552 รัฐบาลสเปนได้ดำเนินนโยบายขาดดุลการคลังกว่าร้อยละ -11.4 ต่อจีดีพีส่งผลให้ระดับหนี้สาธารณะอยู่ที่ร้อยละ 55.1 ต่อจีดีพี อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจของสเปนยังคงแย่โดยอัตราการว่างงานสูงถึงร้อยละ 18.2 จากแรงงานรวม ส่วนทางด้านดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลที่ร้อยละ 5.0 ต่อจีดีพี
การขาดดุลงบประมาณและระดับหนี้สาธารณะที่สูงส่งผลให้บริษัทจัดเรตติ้ง S&P Moody’s และ Fitch ลดระดับความน่าเชื่อถือของพันธบัตรประเทศในกลุ่ม PIGS โดยประเทศกรีซเป็นประเทศแรกที่ถูกบริษัท S&P ปรับลดระดับความน่าเชื่อถือจาก A- เป็น BBB+ จากระดับหนี้สาธารณะต่อจีดีพีที่สูงถึงร้อยละ 113 ในปี 2552 ต่อมาประเทศสเปนที่แม้ว่าจะยังไม่ถูกปรับลดระดับแต่ก็ได้ถูกปรับ “มุมมอง” มาอยู่ในแง่ลบจากปัญหาหนี้สาธารณะต่อจีดีพีกว่าร้อยละ 54 ในปี 2552 เช่นกัน โดยล่าสุดกรีซและสเปนมีระดับการขาดดุลการคลังต่อจีดีพีที่ร้อยละ 12.7 และ 11.4 ตามลำดับ (ตารางที่ 1)
ประเทศ ระดับความน่าเชื่อถือ/มุมมอง เหตุผล โปรตุเกส ธ.ค.52 / จาก A+ เป็น A- ขาดดุลการคลัง กว่าร้อยละ 9 ต่อจีดีพี และยากที่จะปรับระดับลง เนื่องจากใน ช่วง 10 ปี ที่ผ่านมาเศรษฐกิจขยายตัวเพียงเล็กน้อยต่อปี อิตาลี ยังไม่มีการลดระดับอย่างเป็นทางการ กรีซ ธ.ค.52 / จาก A- เป็น BBB+ ขาดดุลการคลังกว่าร้อยละ 12 ต่อจีดีพี และแผนการปรับลดการขาดดุลการคลังไม่มีความชัดเจน สเปน ธ.ค.52 / ถูกปรับมุมมองจาก “คงที่” ขาดดุลการคลังถึงกว่าร้อยละ 10 ต่อจีดีพี เป็น “แง่ลบ” ที่มา: CMA: Global Sovereign Credit Risk Report นอกจากนี้ การขาดดุลงบประมาณและหนี้สาธารณะในระดับที่สูงของกลุ่มประเทศ PIGS นั้น ขัดต่อข้อบัญญัติภายใต้สนธิสัญญามาสทริชต์ (Maastricht Treaty)2 ของสหภาพยุโรปที่กำหนดให้ 1) การขาดดุลงบประมาณไม่เกินร้อยละ 3 ของจีดีพี 2) ระดับหนี้สาธารณะไม่เกินร้อยละ 60 ของจีดีพี และ 3) อัตราเงินเฟ้อไม่เกินร้อยละ 1.5 ของอัตราเฉลี่ยของ 3 ประเทศสมาชิกที่มีอัตราเงินเฟ้อต่ำสุด ดังนั้น เพื่อให้เป็นไปตามข้อบัญญัติ ประเทศในกลุ่ม PIGS จำเป็นต้องลดระดับการขาดดุลการคลังของตนลง ซึ่งในภาวะที่เศรษฐกิจของประเทศเหล่านี้ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ การลดระดับการขาดดุลการคลังดังกล่าว อาจมีผลกระทบต่อการฟื้นตัวหรืออาจทำให้เศรษฐกิจของประเทศในกลุ่ม PIGS กลับไปทรุดตัวอีกครั้งได้ การที่ประเทศในกลุ่ม PIGS ไม่สามารถเพิ่มหรือลดการขาดดุลงบประมาณของตนได้โดยง่าย ทำให้หลายฝ่ายคาดการว่าประเทศเศรษฐกิจหลักในสหภาพยุโรป ได้แก่ เยอรมนี และฝรั่งเศสจะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเพื่อป้องกันมิให้ปัญหาลุกลามไปสู่สหภาพยุโรปโดยรวมได้ ทั้งนี้ แม้ว่าผู้นำกลุ่มประเทศสหภาพยุโรปเห็นพ้องต้องกันว่าจะต้องยื่นมือช่วยเหลือกรีซเพื่อป้องกันมิให้ปัญหาหนี้สาธารณะของกรีซส่งผลกระทบต่อเศราฐกิจของประเทศอื่น ๆ ในสหภาพยุโรป อย่างไรก็ตาม ก็ยังมิได้มีแผนการช่วยเหลือกรีซอย่างเป็นรูปธรรม โดยล่าสุด รัฐบาลกรีซได้ออกแถลงการณ์ว่าจะปรับลดการขาดดุลงบประมาณจากที่ขาดดุลร้อยละ 12.7 ในปีงบประมาณ 2552 ให้เหลือร้อยละ 8.7 ในปีงบประมาณ 2553 โดยการลดการใช้จ่ายภาครัฐ อาทิ การไม่ขึ้นเงินเดือนพนักงานภาครัฐ การปฏิรูปสวัสดิการสังคม และการปรับขึ้นภาษีสินค้าฟุ่มเฟือย 3. ผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย ในส่วนนี้ จะวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นของปัญหาหนี้สาธารณะของกลุ่มประเทศ PIGS ต่อเศรษฐกิจไทยผ่าน 2 ช่องทาง ได้แก่ 1) ผลกระทบผ่านช่องทางภาคการเงิน (Financial Impact) และ 2) ผลกระทบผ่านช่องทางเศรษฐกิจจริง (Real Sector Impact) 3.1 ผลกระทบผ่านช่องทางภาคการเงิน (Financial Impact) 3.1.1 ผลกระทบต่อผ่านการลงทุนโดยตรง สศค. วิเคราะห์ว่า ผลกระทบผ่านการลงทุนโดยตรงจะอยู่ในวงจำกัด เนื่องจากสัดส่วนการลงทุนโดยตรงจากกลุ่ม PIGS ในไทยคิดเป็นสัดส่วนที่น้อยเพียงร้อยละ 0.44 ของการลงทุนโดยตรงรวมในไทย โดยในช่วงปี 2548-2552 การลงทุนโดยตรงของกลุ่ม PIGS ในไทยคิดเป็นมูลค่า 170.12 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นสัดส่วนเพียงร้อยละ 0.437 ของการลงทุนโดยตรงในไทยทั้งหมดในช่วง 11 เดือนแรกของปี พ.ศ. 2552 (ตารางที่ 2) ตารางที่ 2: การลงทุนโดยตรงของกลุ่ม PIGS ในประเทศไทย (หน่วย: ล้านดอลลาร์สหรัฐ) มูลค่าในปี มูลค่าในปี มูลค่าในปี มูลค่าในปี มูลค่าในปีพ.ศ. สัดส่วนในปี พ.ศ. พ.ศ.2548 พ.ศ.2549 พ.ศ.2550 พ.ศ.2551 2552 (มค-พย) 2552 (มค-พย) โปรตุเกส -0.05 0.00 0.28 0.37 0.11 0.002% อิตาลี 1.90 -0.56 12.43 -1.17 -5.16 -0.106% กรีซ -0.01 -0.04 1.03 6.43 0.35 0.007% สเปน -30.55 40.83 63.90 54.02 26.01 0.534% รวม -28.71 40.23 77.64 59.65 21.31 0.437% ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย 3.1.2 ผลกระทบต่อสถาบันการเงินไทยผ่าน Counterparty Risk สศค. วิเคราะห์ว่าผลกระทบโดยตรง (Direct Exposure) ต่อสถาบันการเงินไทยจะอยู่ในวงจำกัด เนื่องจากการปล่อยกู้ของสถาบันการเงินไทยกับประเทศในกลุ่ม PIGS มีน้อย อย่างไรก็ตามอาจมีความเสี่ยงด้าน Counterparty Risk ได้ โดยเฉพาะกับกลุ่มธนาคารพาณิชย์ยุโรปซึ่งมี Direct Exposure กับประเทศในกลุ่ม PIGS โดย Bank of International Settlements รายงานว่าธนาคารพาณิชย์ในยุโรปโดยเฉพาะธนาคารพาณิชย์ในเยอรมนี ฝรั่งเศส และสหราชอาณาจักรมี Direct Exposure กับประเทศในกลุ่ม PIGS มากที่สุดกว่า 1.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งทำให้คาดว่าหากกลุ่ม PIGS ไม่สามารถแก้ปัญหาภาวะหนี้สาธารณะในระดับสูงของตนได้ ก็อาจส่งผลกระทบต่อสถาบันการเงินในประเทศเหล่านี้ และอาจเป็นความเสี่ยงด้าน Counterparty Risk กับธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทยได้ หากธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทยทำธุรกรรมกับธนาคารพาณิชย์ในยุโรปดังกล่าว 3.1.3 ผลกระทบจากความผันผวนของการเคลื่อนย้ายเงินทุน สศค. วิเคราะห์ว่า ผลกระทบจากความผันผวนของตลาดเงินและตลาดทุนจะอยู่ในวงจำกัดแม้ว่าปัญหาหนี้สาธารณะของประเทศในกลุ่ม PIGS จะส่งผลให้เงินทุนมีความผันผวนมากขึ้น จากข้อมูลเชิงประจักษ์ พบว่าหลังการประกาศลดระดับความน่าเชื่อถือของประเทศในกลุ่ม PIGS ช่วงเดือนธันวาคม พ.ศ. 2552 ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐและค่าเงินเยนอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับอัตราCredit Default Swap ของประเทศในกลุ่ม PIGS ที่ได้เพิ่มสูงขึ้นมากในช่วงเดียวกัน จากการที่นักลงทุนมองว่าการลงทุนในสินทรัพย์สกุลยูโรมีความเสี่ยงที่สูงขึ้น จึงได้โยกย้ายการลงทุนออกไปสู่สินทรัพย์ในสกุลที่ ปลอดภัยกว่า (Safe Haven) อย่างไรก็ตาม สถานะของสถาบันการเงินไทยมีเข้มแข็งส่งผลให้เศรษฐกิจไทยสามารถรองรับความผันผวนของเงินทุนที่เกิดขึ้นได้ โดยเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2553 อยู่ที่ 141.56 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 5.1 เท่าของหนี้ระยะสั้น) ซึ่งสามารถรองรับการชดใช้หนี้ระยะสั้นของประเทศได้ หากมีเงินทุนไหลออกจากประเทศ อีกทั้ง สัดส่วนเงินทุนสำรองต่อทรัพย์สินเสี่ยง (Capital Adequacy หรือ BIS Ratio)เมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2552 อยู่ที่ 16.20 สูงกว่าระดับที่กำหนดไว้ที่ร้อยละ 8.50 ด้วยเหตุนี้ สศค. จึงเห็นว่าผลกระทบจากความผันผวนของตลาดเงินและตลาดทุนจะอยู่ในวงจำกัด 3.2 ผลกระทบผ่านช่องทางเศรษฐกิจจริง (Real Sector Impact) 3.2.1 ผลกระทบผ่านช่องทางการค้า สศค. วิเคราะห์ว่า ผลกระทบผ่านช่องทางการค้าระหว่างไทยและประเทศในกลุ่ม PIGS จะอยู่ในวงจำกัดเนื่องจากการส่งออกและนำเข้าระหว่างไทยและประเทศในกลุ่ม PIGS คิดเป็นสัดส่วนที่น้อยโดยการส่งออกของไทยไปประเทศกลุ่ม PIGS ในปี 2552 คิดเป็นมูลค่า 83,897 ล้านบาท หรือเพียงร้อยละ 1.6 ของ การส่งออกของไทยโดยรวม (ตารางที่ 3) ดังนั้น หากเศรษฐกิจของประเทศในกลุ่ม PIGS ทรุดตัวลงอีก การส่งออกของไทยโดยรวมก็ไม่น่าจะได้รับผลกระทบมากนัก อย่างไรก็ตาม ไทยอาจได้รับผลกระทบบ้างในหมวดสินค้าส่งออกที่ไทยส่งไปกลุ่มประเทศ PIGS ที่สำคัญ ได้แก่ อาหารสัตว์เลี้ยง เสื้อผ้าสำเร็จรูป และเครื่องปรับอากาศ อาจจะได้รับผลกระทบบ้าง ตารางที่ 3: มูลค่าการส่งออกของไทยไปกลุ่มประเทศ PIGS 2551 2552 มูลค่าการส่งออกไปกลุ่มประเทศ PIGS (ล้านบาท) 126,913.2 83,897.2 สัดส่วนการส่งออกไปกลุ่มประเทศ PIGS ต่อการส่งออกไทยทั้งหมด (%) 2.2 1.6 อัตราการขยายตัวของการส่งออก (%yoy) 0.0 -33.9 ที่มา: กระทรวงพาณิชย์ ประมวลผลโดย สศค. เช่นเดียวกัน การนำเข้าสินค้าจากกลุ่มประเทศ PIGS คิดเป็นสัดส่วนที่น้อยเพียงร้อยละ 1.5 ของการนำเข้าโดยรวม (ตารางที่ 4) โดยสินค้านำเข้าหลักได้แก่ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์โลหะและเคมีภัณฑ์ โดยอัตราการขยายตัวค่อนข้างคงที่ในปีที่ผ่านมา ตารางที่ 4: มูลค่าการนำเข้าสินค้าจาก PIGS 2551 2552 มูลค่าการนำเข้าไปกลุ่มประเทศ PIGS (ล้านบาท) 73,327.8 66,800.0 สัดส่วนการนำเข้าไปกลุ่มประเทศ PIGS ต่อการส่งออกไทยทั้งหมด (%) 1.2 1.5 อัตราการขยายตัวของการนำเข้า (%yoy) 0.1 -0.1 ที่มา: กระทรวงพาณิชย์ ประมวลผลโดย สศค 3.2.2 ผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวของไทย สศค. วิเคราะห์ว่า ผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวไทยจะอยู่ในวงจำกัด เนื่องจากสัดส่วนนักท่องเที่ยวจากกลุ่มประเทศ PIGS คิดเป็นสัดส่วนที่น้อยเทียบกับจำนวนนักท่องเที่ยวโดยรวมของไทย (ตารางที่ 5) โดยในปี พ.ศ. 2552 ได้มีนักท่องเที่ยวจากกลุ่มประเทศ PIGS ประมาณ 3 แสนคนเข้ามาในไทย หรือคิด เป็นเพียงร้อยละ 2.0 ของจำนวนนักท่องเที่ยวในไทยทั้งหมด ตารางที่ 5: จำนวนและสัดส่วนนักท่องเที่ยวจากประเทศในกลุ่ม PIGS พ.ศ.2551 พ.ศ.2552 จำนวน สัดส่วน จำนวน สัดส่วน โปรตุเกส 23,448 0.2% 22,798 0.6% อิตาลี 156,708 1.1% 174,642 1.2% กรีซ 18,363 0.1% 19,058 0.1% สเปน 78,353 0.5% 76,904 0.5% รวมนักท่องเที่ยวจาก PIGS 276,872 1.9% 293,402 2.0% รวมนักท่องเที่ยวทั้งหมด 14,624,372 100% 14,496,918 100% ที่มา: CEIC รวบรวมโดย สศค. 4. แนวนโยบาย สศค. วิเคราะห์ว่า แม้ว่าปัญหาหนี้สาธารณะของประเทศในกลุ่ม PIGS จะไม่ได้มีผลกระทบผ่านชองทางภาคการเงินหรือภาคเศรษฐกิจจริงมากนัก อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวยังมีความเสี่ยงที่อาจลุกลามไปสู่สถาบันการเงินอื่นๆ ของโลกและอาจทำให้เศรษฐกิจของยุโรปโดยรวมได้รับผลกระทบดังนั้น ในระยะสั้น รัฐควรติดตามปัญหาหนี้สาธารณะของประเทศในกลุ่ม PIGS อย่างใกล้ชิด เพื่อเฝ้าระมัดระวังผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยหากปัญหาดังกล่าวลุกลามไปสู่ปัญหาของสหภาพยุโรปโดยรวม และในระยะปานกลาง รัฐควรเร่งกระจายตลาดส่งออกไปยังประเทศต่าง ๆ มากขึ้น เพื่อลดการพึ่งพาการส่งออกไปยังประเทศใดประเทศหนึ่ง และเร่งกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศ เพื่อลดการพึ่งพาการส่งออกด้วย ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th