รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 12 พฤษภาคม 2553

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday May 12, 2010 10:11 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 12 พ.ค. 2553

Summary:

1. ก.พาณิชย์เผยการลงทุนและการค้าในตลาดใหม่ของสหภาพยุโรป

2. วิกฤตหนี้สาธารณะของกรีซส่งผลกระทบด้านลบต่อตลาดส่งออกของไทย

3. อัตราเงินเฟ้อจีนเพิ่มขึ้น แต่เศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี

Highlight:
1. ก.พาณิชย์เผยการลงทุนและการค้าในตลาดใหม่ของสหภาพยุโรป
  • กระทรวงพาณิชย์ เผยว่าสำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศ ณ กรุงบรัสเซลส์ ได้ร่วมกับ European Center for International Political Economy (ECIPE) ศึกษาในตลาดใหม่ 5 ประเทศ ได้แก่ 1) สาธารณรัฐเซ็ก 2) โปรแลนด์ 3) โรมาเนีย 4) สโลวาเกีย และ 5) สโลวาเนีย ซึ่งเป็นตลาดที่ไทยมีศักยภาพในการส่งออก โดยเฉพาะ 4 ประเทศแรก ที่มีการขยายตัวของตลาดและอัตราเจริญเติบโตของ GDP ค่อนข้างสูง แสดงให้เห็นว่ามีภาวะทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้เป็นตลาดที่น่าสนใจมากสำหรับการลงทุนและการส่งออกสินค้าของไทย
  • สศค. วิเคราะห์ว่า การส่งออกของไทยไปยังประเทศคู่ค้าหลัก โดยเฉพาะตลาดในกลุ่มสหภาพยุโรปขยายตัวร้อยละ 30.3 ต่อปี ในเดือน มี.ค. 53 ซึ่งเป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่เริ่มฟื้นตัว โดยสินค้าที่ส่งออกของไทยไปยังสหภาพยุโรปที่สำคัญในเดือน มี.ค.53 ได้แก่ 1) รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ขยายตัวร้อยละ 125.7 ต่อปี 2) เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบขยายตัวร้อยละ 47.7 ต่อปี 3) ไก่แปรรูป ขยายตัวร้อยละ 39.3 ต่อปี 4) อัญมณีและเครื่องประดับ ขยายตัวร้อยละ 26.6 ต่อปี 5) เสื้อผ้าสำเร็จรูป ขยายตัวร้อยละ 14.3 ต่อปี อย่างไรก็ตาม หากประเทศไทยจะขยายตลาดใน 5 ประเทศดังกล่าว ผู้ส่งออกของไทยและหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องควรเน้นสินค้าที่ไทยมีศักยภาพสามารถรองรับความต้องการของตลาดดังกล่าวได้
2. วิกฤตหนี้สาธารณะของกรีซส่งผลกระทบด้านลบต่อตลาดส่งออกของไทย
  • มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า วิกฤตหนี้สาธารณะของกรีซ มีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อตลาดส่งออกของไทยโดยมีโอกาสหดตัวลงร้อยละ 0.2-0.4 คิดเป็นมูลค่า 613 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หากปัญหาของกรีซลุกลามไปโปรตุเกสเพียงประเทศเดียว แต่หากสถานการณ์ของกรีซมีความรุนแรงจนลุกลามไปยังสเปน ไอร์แลนด์ และอิตาลี จะส่งผลกระทบตลาดส่งออกไทยให้หดตัวลงร้อยละ 1.2-1.5 คิดเป็นมูลค่า 2,533 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
  • สศค. วิเคราะห์ว่า ประเทศสมาชิกยูโรและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้อนุมัติเงินกู้ให้แก่กรีซวงเงินกว่า 1.45 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ และตั้งวงเงิน 7.5 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ สำหรับทั้งภูมิภาคเพื่อแก้ไขวิกฤตหนี้ที่เกิดขึ้น ดังนั้น จึงคาดว่าในระยะสั้นวิกฤตนี้ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย อย่างไรก็ดี หากวิกฤตลุกลามมากกว่านี้ไปถึงประเทศอื่นในกลุ่ม PIIGS อาจส่งผลกระทบต่อไทย เนื่องจากกลุ่มประเทศ PIIGS มีสัดส่วนการส่งออกคิดเป็นร้อยละ 16.86 ของมูลค่าส่งออกไปยังกลุ่มสหภาพยุโรปทั้งหมด และตลาดในกลุ่มสหภาพยุโรปถือเป็นตลาดส่งออกหลักอันดับ 3 ของไทย คิดเป็นร้อยละ 10.5 ของสัดส่วนการส่งออกไปยังประเทศคู่ค้าทั้งหมด นอกจากนี้ การที่ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลง ทำให้สินค้าไทยที่ขายในสหภาพยุโรปมีราคาสูงขึ้นและส่งผลให้มีความต้องการลดลงจนอาจทำให้สินค้าไทยขายได้ลดลง
3. อัตราเงินเฟ้อจีนเพิ่มขึ้น แต่เศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี
  • สำนักข่าว Reuters เปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อของจีนในเดือน เม.ย. 2553 ขยายตัวสูงที่สุดในรอบ 18 เดือน และอัตราการปล่อยสินเชื่อเพิ่มสูงขึ้น โดยดัชนีราคาผู้บริโภคในเดือน เม.ย. 2553 ขยายตัวร้อยละ 2.8 ต่อปี ทั้งนี้ การปล่อยสินเชื่อยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยในเดือน มี.ค. 53 ปริมาณสินเชื่อที่ปล่อยกู้อยู่ที่ระดับ 774 พันล้านเยน สูงกว่าประมาณการที่คาดไว้ที่ระดับ 570 พันล้านเยน อย่างไรก็ตาม ดัชนีเศรษฐกิจจีนบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจจีนยังอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งและยังไม่มีสัญญาณของความร้อนแรงของเศรษฐกิจ
  • สศค.วิเคราะห์ว่า อัตราเงินเฟ้อของเศรษฐกิจจีนในเดือน เม.ย. 53 ปรับตัวสูงขึ้น มาจากเศรษฐกิจจีนที่ขยายตัวได้ดี ดังจะเห็นได้จากผลการผลิตภาคอุตสาหกรรม (Industrial output) ในเดือน เม.ย. 53 ที่ขยายตัวร้อยละ 17.8 ต่อปี จึงทำให้รัฐบาลจีนออกมาตรการชะลอเศรษฐกิจ ผ่านการขึ้นอัตราสำรองเงินของธนาคารพาณิชย์ (Reserve Requirement) ที่ร้อยละ 15.5 เมื่อวันที่ 10 พ.ค. 53 ทั้งนี้ ความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจจีนจะส่งผลดีต่อส่งออกของไทย โดยจีนเป็นประเทศคู่ค้าอันดับสองของไทย คิดเป็นร้อยละ 10.6 ของปริมาณการส่งออกสินค้าทั้งหมดในปี 2552 สศค. คาดว่าเศรษฐกิจจีนในปี 2553 จะขยายตัวร้อยละ 9.5 ต่อปี ปรับตัวดีขึ้นจากปีก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 8.7 ต่อปี

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office

Tel 02-273-9020 Ext 3665: www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ