สรุปความเห็นนักวิเคราะห์ต่อทิศทางตลาดเงินตลาดทุนสัปดาห์นี้
- ค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น โดยนักวิเคราะห์ 5 ราย เห็นว่า สถานการณ์การเมืองไทยดีขึ้นหลังจากรัฐบาลยกเลิกเคอร์ฟิว ทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุน ดีขึ้น และสถานการณ์หนี้ของประเทศในกลุ่มยุโรดีขึ้น ทำให้ค่าเงินบาทมีแนวโน้มคงตัว หรือแข็งค่าขึ้นในสัปดาห์นี้
- อัตราดอกเบี้ย R/P 1 วัน จะคงเดิมอยู่ที่ 1.25% ต่อไป เนื่องจาก ธปท. ยังคงอัตราดอกเบี้ย เพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ประกอบกับยังไม่มีแรงกดดันจากเงินเฟ้อ
- สำหรับ Bond Yield อายุ 2 ปี มีแนวโน้มปรับตัวลงจากสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยนักวิเคราะห์ 4 ราย เห็นว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายจะยังคงไม่ปรับขึ้นในการประชุมสัปดาห์นี้ ขณะเดียวกันมีการเลี่ยงความเสี่ยงจากความวิตกต่อปัญหาหนี้สินในยุโรปที่พุ่งขึ้น หลังสเปนถูกฟิทช์เรทติ้งปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือลง ดังนั้น คาดว่าจะเป็นปัจจัยบวกต่อภาวะการลงทุนในตลาดตราสารหนี้ในช่วงสัปดาห์นี้
- คาดว่า Bond Yield อายุ 10 ปี มีแนวโน้มปรับตัวลงเช่นกัน โดยนักวิเคราะห์ 4 ราย เห็นว่า เป็นการปรับตัวลงตามอัตราผลตอบแทนสหรัฐฯ ขณะเดียวกันการฟื้นตัว ทางเศรษฐกิจที่ยังมีความไม่แน่นอน เป็นอีกปัจจัยที่จำกัดการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนในช่วงสัปดาห์นี้
- คาดว่า SET มแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยนักวิเคราะห์ 5 ราย เห็นว่า ความกังวลหนี้ของยุโรปเริ่มลดลง ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐและทองคำสะท้อนภาพความเสี่ยง ของตลาดหุ้นทั่วโลกไปมาก ทำให้มูลค่าตลาดหุ้นและราคาหุ้นน่าสนใจมากขึ้น
- นักวิเคราะห์ 3 ราย เห็นว่า นักลงทุนต่างชาติจะยังคงขายสุทธิต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากประเทศไทยยังอยู่ภายใต้ พรก. ฉุกเฉิน และตลาดหุ้นอื่นให้ผลตอบแทนดีกว่าตลาดหุ้นไทย ขณะที่อัตราการขยายตัวของกำไรของประเทศไทยอาจผ่านจุดสูงสุดไปในไตรมาสแรก
ความเห็น สศค.
- คาดว่านักลงทุนต่างชาติจะยังคงขายสุทธิต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 6 เนื่องจากปัญหาทางการเมืองภายในประเทศ
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th