1. ดัชนีเศรษฐกิจที่สาคัญในเดือนเมษายน 2553
2. ยอดการเก็บภาษีรายได้ของประเทศญี่ปุ่นลดลงต่าสุดในรอบ 27 ปี
-----------------------------------
1.1 ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (Industrial Output) เดือนเมษายน 2553 เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.3
กระทรวงเศรษฐกิจการค้าและอุตสาหกรรมได้เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (Industrial Output) ของเดือนเมษายน 2553 เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.3 เมื่อเทียบกับเดือนที่แล้ว มาอยู่ที่ระดับ 96.0 (ปี 2548=100) ซึ่งเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเวลา 2 เดือนแล้ว เนื่องจากผลผลิตยานยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์เพิ่มขึ้นและนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลได้ผลแล้ว ผู้ประกอบการจึงเริ่มปรับแผนเพิ่มการผลิตต่อไป อย่างไรก็ตาม ดัชนีฯ ของเดือนนี้ยังเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ ร้อยละ 2.5
1.2 ดัชนีราคาผู้บริโภค (Core Consumer Price Index)
กระทรวงมหาดไทยและการสื่อสารได้เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคประจาเดือนยกเว้นอาหารสด (CPI, ปี 2548=100) ประจาเดือนเมษายน 2553 ลดลงร้อยละ 1.5 อยู่ที่ร้อยละ 99.2 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อนหน้า ดัชนีราคาผู้บริโภคได้ลดลงต่อเนื่องติดต่อกัน 14 เดือนแล้ว เนื่องจากสินค้าบริโภคหลายประเภทลดลงอย่างต่อเนื่อง
1.3 อัตราการว่างงาน (Unemployment Rate)
อัตราการว่างงานเดือนเมษายน 2553 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.1 จากเดือนมีนาคม 2553 เป็นร้อยละ 5.1 ซึ่งการเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 2 เดือนแล้ว โดยจานวนผู้หญิงที่หางานมากขึ้นเพื่อช่วยเพิ่มรายได้ของครอบครัวทาให้อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น
1.4 การใช้จ่ายบริโภคเดือนเมษายน 2553 ลดลงร้อยละ 0.7
กระทรวงมหาดไทยและการสื่อสารได้เปิดเผยว่าการใช้จ่ายบริโภคประจาเดือนเมษายน 2553 ลดลงร้อยละ 0.7 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันในปีก่อนหน้า โดยลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 2 เดือน เป็นผลจากการใช้จ่ายในการบริโภคที่ลดลง
กระทรวงการคลังญี่ปุ่นได้เปิดเผยว่ายอดการเก็บภาษีรายได้ประจาปี 2552 เท่ากับ 12.8504 ล้านล้านเยน ลดลงร้อยละ 13.8 เมื่อเทียบกับปี 2551 ซึ่งเป็นการลดลงต่ากว่า 13 ล้านล้านเยนเป็นครั้งแรกในรอบ 27 ปีนับตั้งแต่ปี 2525 ที่มียอดการเก็บภาษีรายได้เท่ากับ 12.8544 ล้านล้านเยน เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปัจจุบันทาให้รายได้ลดลงและการใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจโดยการลดภาษีรายได้ของรัฐบาลส่งผลกระทบต่อยอดการเก็บภาษีรายได้เป็นอย่างมาก ในอดีตยอดการเก็บภาษีรายได้ของญี่ปุ่นนั้นเพิ่มขึ้นตามการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วจนมียอดสูงสุดในปี 2534 เท่ากับ 26.7 ล้านล้านเยน แต่ภายหลังจากเศรษฐกิจฟองสบู่แตกและยอดการจ้างงานที่ลดลงได้ส่งผลให้จานวนรายได้ภาษีลดลง และการใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจโดยการลดภาษีรายได้ในปี 2542 ส่งผลให้ยอดการเก็บภาษีรายได้ลดลงอย่างต่อเนื่องมาตลอด ปัจจุบัน ภายหลังจากการล้มละลายของ Lehman Brothers ในช่วงสิ้นปี 2551 และภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก ทาให้ในปี 2552 บรรดาบริษัทขนาดใหญ่ต้องลดเงินเดือนหรือโบนัสของพนักงานลงอย่างต่อเนื่องส่งผลให้จานวนรายได้จากการจัดเก็บภาษีลดลงเป็นอย่างมาก โดยกระทรวงการคลังคาดว่ายอดการเก็บภาษีรายได้ประจาปี 2553 นั้นจะมียอดรายได้เพียงประมาณ 12.6 ล้านล้านเยน
สำนักงานที่ปรึกษาเศรษฐกิจและการคลัง ณ กรุงโตเกียว
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th