Macro Morning Focus ประจำวันที่ 17 มิถุนายน 2553
1. ธปท. เผยตัวเลขเศรษฐกิจเริ่มปรับตัวดีขึ้น ผลกระทบจากการชุมนุมที่ผ่านมาอยู่ในวงจำกัด
2. BOI จัดทัพนักธุรกิจไทยขยายการลงทุนประเทศลาว
3. ผลผลิตอุตสาหกรรมสหรัฐฯ เดือน พ.ค. เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.9 ต่อเดือน สูงสุดนับแต่เดือนม.ค.
- ธนาคารแห่งประเทศไทยชี้ว่าผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมืองที่ผ่านมามีค่อนข้างจำกัด ทำให้เศรษฐกิจไทยกลับมาขยายตัวเป็นปรกติแล้ว โดยได้รับการชดเชยจากการส่งออก และการใช้จ่ายในประเทศที่ดีขึ้นโดยเฉพาะในช่วงเดือน พ.ค.-มิ.ย. 53 ทั้งนี้ กนง.จะทบทวนตัวเลขคาดการณ์ GDP ปี 53 อีกครั้งในเดือน ก.ค. จากเดิมคาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 4.8 — 5.8 ต่อปี
- สศค.วิเคราะห์ว่า เครื่องชี้เศรษฐกิจไทยยังคงขยายตัวได้ดีอย่างต่อเนื่องโดยได้รับอนิสงค์จากการขยายตัวที่ดีของเศรษฐกิจโลกทำให้การส่งออกเดือนเม.ย.ขยายตัวในระดับสูงที่ร้อยละ 35.2 ต่อปี ประกอบกับแรงส่งจากการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 1 ในระดับสูงที่ร้อยละ 12.0 ต่อปี ทำให้คาดว่าจะมีแรงส่งอย่างต่อเนื่องมายังไตรมาส 2 ทั้งนี้ ปัญหาการเมืองที่คลี่คลายทำให้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน พ.ค. ปรับตัวดีขึ้นด้วยอยู่ที่ระดับ 75.5 อย่างไรก็ตาม สศค.จะได้นำปัจจัยต่างๆมาปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยเพื่อแถลงต่อสาธารณะชนในวันที่ 29 มิ.ย. 53 ต่อไป
- สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เปิดเผยว่า BOI เตรียมนำคณะนักธุรกิจไทยเดินทางสำรวจโอกาสการลงทุนและการค้าของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ณ กรุงเวียงจันทน์ ระหว่างวันที่ 21-23 มิ.ย. 53 เพื่อสร้างความสัมพันธ์กับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนของลาว โดยได้รับความร่วมมือจากหอการค้าลาวในการหารือเรื่องขอบเขตการค้าการลงทุนไทย-ลาว
- สศค.วิเคราะห์ว่า ปัจจุบันลาวเป็นประเทศที่ได้รับความสนใจของนักลงทุนต่างชาติมาก สะท้อนได้จากเศรษฐกิจประเทศลาวมีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจสูงถึงร้อยละ 7.5 ต่อปี ในปี 52 และมีทรัพยากรธรรมชาติที่ใช้เป็นวัตถุดิบสำคัญ เช่น เหล็ก ทองคำ ทองแดง และถ่านหิน นอกจากนี้ ประเทศลาวมีภูมิศาสตร์ที่เป็นจุดเชื่อมต่อไปสู่ตลาดใหญ่ต่างๆ เช่น จีน เวียดนาม ซึ่งสามารถส่งสินค้าไปยังตลาดอื่นๆ ได้สะดวก ทั้งนี้ นักลงทุนไทยเข้าไปลงทุนในประเทศลาวเป็นอันดับหนึ่ง ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา (2543-2552) มีมูลค่าเงินลงทุนสะสมกว่า 2,650 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และมีจำนวนโครงการกว่า 241 โครงการ
- ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในสหรัฐฯ เดือน พ.ค.53 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.9 ต่อเดือน โดยปัจจัยที่ทำให้ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากปริมาณสินค้าคงคลังที่ลดลง ทำให้ภาคอุตสาหกรรมผลิตสินค้าเพิ่มขึ้น ประกอบกับยอดขายในต่างประเทศและการลงทุนภาคธุรกิจเพิ่มขึ้น ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐฯอาจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับใกล้เคียงศูนย์ในเดือนถัดไป เพื่อช่วยให้เศรษฐกิจขยายตัวอย่างต่อเนื่อง หลังอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ
- สศค.วิเคราะห์ว่า ผลผลิตอุตสาหกรรมสหรัฐฯในเดือน พ.ค. ขยายตัวสูงสุดตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา และนับเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 10 สะท้อนให้เห็นถึงภาคการผลิตที่ฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่องหลังผ่านพ้นวิกฤติเศรษฐกิจ อย่างไรการส่งออกของสหรัฐฯในช่วงครึ่งหลังของปีอาจชะลอตัวลง เนื่องจากประเทศคู่ค้าหลักอย่างกลุ่มสหภาพยุโรป ซึ่งมีสัดส่วนในการส่งออกสูงถึงร้อยละ 20.9 ของการส่งออกรวม กำลังเผชิญกับปัญหาหนี้สาธารณะ ซึ่งจะส่งผลให้การผลิตในภาคอุตสาหกรรมปรับตัวลดลงได้ในอนาคต ทั้งนี้ สศค. คาดว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯในปี 53 จะขยายตัวได้ที่ร้อยละ 2.7 ต่อปี
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3665: www.fpo.go.th