รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 18 มิถุนายน 2553

ข่าวเศรษฐกิจ Friday June 18, 2010 10:56 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 18 มิถุนายน 2553

Summary:

1. ปตท.เตรียมปรับเพิ่มราคาน้ำมันหากราคาน้ำมันดิบโลกเพิ่มขึ้น

2. ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนพ.ค. 53 ลดลงจากเดือนเม.ย.53 มาอยู่ที่ 94.7

3. ธนาคารกลางสเปนมีแผนการที่จะเปิดเผยผลการทดสอบเสถียรภาพของธนาคารพาณิชย์

Highlight:
1. ปตท.เตรียมปรับเพิ่มราคาน้ำมันหากราคาน้ำมันดิบโลกเพิ่มขึ้น
  • ปตท.เตรียมปรับเพิ่มราคาน้ำมันหากราคาน้ำมันดิบโลกเพิ่มขึ้นเนื่องจากค่าการตลาดที่แพงขึ้นทำให้น้ำมันในประเทศมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้น ในขณะเดียวกันนั้นราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกอยู่ที่ 74 เหรียญต่อบาร์เรลซึงปรับตัวขึ้นหลังจากความต้องการใช้เพิ่มขึ้นเนื่องมาจากเป็นฤดูท่องเที่ยวที่ทำให้ความต้องการใช้เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ราคาน้ำมันในครึ่งปีหลังคาดว่าจะอยู่ในระดับ 70-80 เหรียญต่อบาร์เรลและไม่สูงไปกว่านี้เนื่องมาจากวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจยุโรป
  • สศค. วิเคราะห์ว่าน้ำมันในประเทศในขณะนี้มีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นเล็กน้อยเนื่องมาจากเป็นฤดูการณ์ท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจะส่งผลต่ออัตราเงินเฟ้อของประเทศไทยโดยตรงเนื่องจากประเทศไทยยังคงพึ่งพิงการนำเข้าน้ำมันในปริมาณที่สูงอยู่ ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือน พ.ค. อยู่ที่ระดับร้อยละ 3.5 ต่อปีในขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ระดับร้อยละ 1.2 ต่อปีซึ่งยังคงอยู่ในเกณฑ์เป้าหมายของ ธปท. ซึ่งหากอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นแล้วนั้น ธปท. จะยังมีช่องทางในการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นจากระดับร้อยละ 1.25 ต่อปีได้ ทั้งนี้ สศค. คาดว่าราคาน้ำมันดิบทั้งปี 2553 จะอยู่ในช่วงระหว่าง 75 - 85 ดอลลาร์ต่อบารเรล์
2. ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนพ.ค. 53 ลดลงจากเดือนเม.ย.53 มาอยู่ที่ 94.7
  • สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม เดือน พ.ค. 53 ว่าอยู่ที่ 94.7 ปรับลดลงจาก 99.3 ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งเป็นการปรับลดลงเป็นเดือนที่ 4 หลังจากเหตุไม่สงบทางการเมือง
  • สศค.วิเคราะห์ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมได้ปรับลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 บ่งชี้ว่าความเชื่อมั่นที่ลดลงของผู้ประกอบการ โดยสาเหตุหลักเกิดจากเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองในช่วงดังกล่าว นอกจากนี้การที่รัฐบาลประกาศวันหยุดราชการพิเศษเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ ได้ส่งผลให้ผู้ประกอบการต่างๆต้องลดเวลาการทำงานลง ซึ่งเป็นปัจจัยทำให้การผลิตในช่วงดังกล่าวลดลง อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยในปัจจุบันยยังคงมีความแข็งแกร่ง โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจไทยยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องตามการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะภาคการส่งออก ซึ่งเป็นตัวหลักของเศรษฐกิจไทยที่ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือน เม.ย. 53 อยู่ที่ร้อยละ 35.2 ต่อปี นอกจากนี้เสถียรภาพของประเทศยังคงแข็งแกร่ง โดยอัตราการว่างงานอยู่ในระดับต่าที่รั้อยละ 1.0 ของกำลังแรงงานรวมในเดือน มี.ค. 53 และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานขยายตัวในระดับที่ยังอยู่ในกรอบเป้าหมายของ ธปท. ที่ร้อยละ 1.2 ต่อปี
3. ธนาคารกลางสเปนมีแผนการที่จะเปิดเผยผลการทดสอบเสถียรภาพของธนาคารพาณิชย์
  • ธนาคารกลางสเปนมีแผนการที่จะเปิดเผยผลการทดสอบเสถียรภาพของธนาคารพาณิชย์ (Stress tests) ภายในประเทศเพื่อเป็นข้อมูลแก่นักลงทุน เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาได้มีดการขอข้อมูลดังกล่าวจากนักลงทุนเป็นจำนวนมากทั่วโลก ทั้งนี้ การเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวของธนาคารกลางสเปนอาจจะทำให้ประเทศต่างๆในยุโรปเริ่มปฏิบัติตาม หลังจากที่ปัญหาการเงินในยุโรปมีทีท่าลุกลามแต่นักลงทุนกลับไม่มีข้อมูลธนาคารพาณิชย์ของประเทศในยุโรปมากนัก
  • สศค.วิเคราะห์ว่า กลุ่มประเทศที่มีปัญหาขาดดุลการคลังและมีหนี้สาธารณะในระดับสูงซึ่งประกอบไปด้วย โปรตุเกส อิตาลี ไอร์แลน กรีซ และสเปน (PIIGS) มีสัดส่วน Asset Exposure กับประเทศต่างๆทั่วโลกที่ประมาณ 3.23 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเป็นของประเทศสเปนถึง 9.2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (อันดับ 2 รองจากอิตาลี) ดังนั้น หากผลของการทำ Stress tests ของธนาคารพาณิชย์ในสเปนออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ก็อาจจะสามารถช่วยเพิ่มความมั่นใจของนักลงทุนที่มีต่อเสถียรภาพทางการเงินของประเทศในยุโรปได้

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office

Tel 02-273-9020 Ext 3665: www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ