นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ขอสรุปผลการดำเนินการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐประจำเดือนพฤษภาคม 2553 พร้อมทั้งรายงานสถานะหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนเมษายน 2553 ดังนี้
1. การกู้เงินภาครัฐ
เดือนพฤษภาคม 2553
กระทรวงการคลังได้กู้เงินในประเทศเพื่อชดเชย การขาดดุลงบประมาณโดยการออกพันธบัตรรัฐบาล 37,000 ล้านบาท และได้เบิกเงินกู้ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจ กระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคง ทางเศรษฐกิจ พ.ศ. 2552 เพื่อดำเนินการตามแผนปฏิบัติ การไทยเข้มแข็ง 2555 ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 จำนวน 27,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ รัฐวิสาหกิจได้กู้เงินในประเทศ วงเงินรวม 4,726 ล้านบาท โดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้มีการกู้เงิน รวม 1,500 ล้านบาท แบ่งเป็นการกู้เงินบาทสมทบ 27 ล้านบาท กู้เพื่อทดแทนเงินกู้ต่างประเทศ 63 ล้านบาท และ กู้เพื่อการลงทุน 1,410 ล้านบาท องค์การขนส่งมวลชน กรุงเทพกู้เพื่อดำเนินกิจการทั่วไป 2,164 ล้านบาท และ การประปานครหลวงกู้เพื่อดำเนินกิจการทั่วไป 1,062 ล้านบาท
ช่วง 8 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณ 2553
ภาครัฐได้กู้เงินในประเทศรวม 390,406 ล้านบาท โดยเป็นการกู้เงินของกระทรวงการคลัง 345,572 ล้านบาทและของรัฐวิสาหกิจ 44,834 ล้านบาท
2. การปรับโครงสร้างหนี้ภาครัฐ
2.1 เดือนพฤษภาคม 2553
หนี้ในประเทศ
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ โดยทำการ Roll Over หนี้เดิม วงเงินรวม 10,850 ล้านบาท
2.2 ช่วง 8 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณ 2553
หนี้ในประเทศ
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการปรับโครงสร้าง
หนี้ในประเทศ วงเงินรวม 127,440 ล้านบาท โดยแบ่งออกเป็น 1) การแปลงตั๋วเงินคลังเป็นพันธบัตรรัฐบาล 23,000 ล้านบาท 2) การปรับโครงสร้างตั๋วสัญญาใช้เงิน
ที่ครบกำหนด 25,000 ล้านบาท โดยการออกตั๋วสัญญา
ใช้เงิน 3) การออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลที่ออกภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินและจัดการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือ กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน พ.ศ. 2541 (FIDF1) ที่ครบกำหนด 69,440 ล้านบาท และ
4) การปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลที่ออกภายใต้ พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินและจัดการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินระยะที่สอง พ.ศ. 2545 (FIDF 3) ที่ครบกำหนด 10,000 ล้านบาท โดยการออกตั๋วสัญญาใช้เงิน
สำหรับรัฐวิสาหกิจนั้นได้ทำการ Roll Over หนี้เดิมรวม 116,765 ล้านบาท
3. การชำระหนี้ภาครัฐ
เดือนพฤษภาคม 2553
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการชำระหนี้โดยเงินงบประมาณรวม 26,461 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นการชำระคืน เงินต้น 20,001 ล้านบาท ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมรวม 6,460 ล้านบาท
ช่วง 8 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณ 2553
กระทรวงการคลังได้ชำระคืนต้นเงินกู้ ดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียมโดยเงินงบประมาณรวม 116,012 ล้านบาท
รายงานหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนเมษายน 2553
ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 30 เมษายน 2553 มีจำนวน 4,108,982 ล้านบาท หรือร้อยละ 42.23 ของ GDP เป็นหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง 2,773,936 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 1,083,775 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกัน 189,159 ล้านบาท และหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน 62,112 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อน หนี้สาธารณะลดลงสุทธิ 15,730 ล้านบาท โดยหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง และหนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกันเพิ่มขึ้น 11,633 ล้านบาท และ 590 ล้านบาท ตามลำดับ สำหรับหนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน และหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ลดลง 19,950 ล้านบาท และ 8,003 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนหน่วยงานอื่นของรัฐนั้นไม่มีหนี้คงค้าง
การลดลงสุทธิของหนี้สาธารณะคงค้างเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนที่ผ่านมานั้น ที่สำคัญเกิดจากการลดลงของ หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน โดยลดลงสุทธิ 19,950 ล้านบาท ที่สำคัญเกิดจากการเพิ่มขึ้นของหนี้ที่รัฐบาลไม่ค้ำประกัน ในส่วนของหนี้ต่างประเทศ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสุทธิของหนี้ต่างประเทศในรูปเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อแปลงเป็นเงินบาทลดลง
สำหรับหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรงเพิ่มขึ้นสุทธิ 11,633 ล้านบาท รายการที่สำคัญเกิดจากรัฐบาลได้ดำเนินการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ จำนวน 29,000 ล้านบาท และได้เบิกเงินกู้ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. 2552 เพื่อดำเนินการตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 จำนวน 16,000 ล้านบาท
สำหรับหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ลดลง 8,003 ล้านบาท ที่สำคัญเกิดจากการซื้อคืนพันธบัตรของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ที่กระทรวงการคลังไม่ค้ำประกัน
หนี้สาธารณะ จำนวน 4,108,982 ล้านบาท แบ่งออกเป็นหนี้ต่างประเทศ 358,609 ล้านบาท หรือร้อยละ 8.73 และหนี้ในประเทศ 3,750,373 ล้านบาท หรือร้อยละ 91.27 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง และเป็นหนี้ระยะยาว 3,858,294 ล้านบาท หรือร้อยละ 93.90 และหนี้ระยะสั้น 250,688 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.10 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง
--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 80/2553 28 มิถุนายน 53--