รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 1 กรกฎาคม 2553

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday July 1, 2010 11:14 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 1 กรกฎาคม 2553

Summary:

1. ธปท. ชี้เศรษฐกิจไทยเดือน พ.ค.53 หดตัวลงจากผลของเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมือง

2. จีเอ็มมีแผนสร้างโรงงานประกอบรถกระบะแห่งใหม่ในไทย

3. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐปรับตัวลดลง

Highlight:
1. ธปท. ชี้เศรษฐกิจไทยเดือน พ.ค.53 หดตัวลงจากผลของเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมือง
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานว่า ภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของไทยเดือน พ.ค.53 ชะลอตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 จากผลของเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมือง สะท้อนจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศไทยลดลง แม้ว่าการบริโภคภาคเอกชนจะลดลงเพียงเล็กน้อย อัตราการว่างงานที่อยู่ในระดับต่ำ และรายได้เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งยังไม่ได้ลดลงมาก
  • สศค. วิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจไทยในเดือน พ.ค.53 ยังคงขยายตัวได้ดีอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญจากมูลค่าการส่งออกสินค้าที่ขยายตัวได้สูงถึงร้อยละ 42.1 ต่อปี จากแรงส่งของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าของไทย โดยเฉพาะประเทศในภูมิภาคเอเชียที่ขยายตัวได้ดีกว่าที่คาดการณ์ ในขณะที่การบริโภคภาคเอกชนที่วัดจากภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ ยังคงขยายตัวได้ดีที่ร้อยละ 18.1 ต่อปี แม้ว่าจะเริ่มมีสัญญาณแผ่วลงเมื่อเทียบต่อเดือนร้อยละ -1.6 โดยเฉพาะสินค้าหมวดคงทนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาการเมือง โดยปัจจัยดังกล่าวช่วยลดผลกระทบจากปัญหาการเมืองที่ส่งผลต่อจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่หดตัวลงร้อยละ -12.9 ต่อปี เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ดังนั้น สศค. คาดว่าอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยในปี 2553 ยังสามารถเติบโตได้ดีอยู่ที่ระดับร้อยละ 5.5 ต่อปี (คาดการณ์ ณ เดือน มิ.ย.53) จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 4.5 ต่อปี
2. จีเอ็มมีแผนสร้างโรงงานประกอบรถกระบะแห่งใหม่ในไทย
  • บริษัท เจเนอรัลมอเตอร์ส มีแผนสร้างโรงงานประกอบรถกะบะเชฟโรเล็ตในประเทศไทยแห่งใหม่เพื่อผลิตและส่งออกไปยังภูมิภาคยุโรปและประเทศต่างๆในภูมิภาคอาเซียน โดยมีเป้าหมายจะจำหน่ายรถกะบะเชฟโรเลตรุ่นใหม่ให้ได้อย่างน้อย 100,000 คันเป็นปีแรก ที่ส่งออกจากฐานการผลิตที่ประเทศไทยและบราซิล
  • สศค. วิเคราะห์ว่า อุตสาหกรรมยานยนต์เป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทย จากยอดขายรถยนต์ของไทยที่ขยายตัวสูงตั้งแต่ช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 52 ได้รับปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศโดยยอดขายรถยนต์ในประเทศเดือน พ.ค. ขยายตัวสูงที่ร้อยละ 60.2 การส่งออกขยายตัวที่ร้อยละ 71.2 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าทำให้ปริมาณการผลิตรถยนต์ของไทยปี 53 ขยายตัวสูงขึ้นมาก ซึ่งในเดือนม.ค.-เม.ย. 53 ยอดการผลิตรถยนต์มีจำนวนทั้งสิ้น 487,951 คันเป็นรถกะบะ 119,180 คัน ขณะที่ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศจำนวน 223,930 คันเป็นรถกะบะ 75,032 คัน ทั้งนี้ เนื่องจากจีนซึ่งเป็นฐานการผลิตที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลกประสบปัญหาขาดแคลนแรงงาน และค่าจ้างที่เพิ่มสูงขึ้นทำให้ไทยซึ่งเป็นฐานการผลิตที่สำคัญของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ถูกมองว่าเป็นฐานการลงทุนสำหรับผลิตรถยนต์ที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่ง
3. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐปรับตัวลดลง
  • สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐ ณ เดือนมิถุนายน ได้ปรับลดลงสู่ระดับ 52.9 จากเดือนก่อนที่ระดับ 62.7 สาเหตุหลักมาจากอัตราการว่างงานอยู่ระดับสูงเกือบร้อยละ 10 ประกอบกับภาคอสังหาริมทรัพย์ยังมีสัญญาณการฟื้นตัวที่ไม่ชัดเจน
  • สศค. วิเคราะห์ว่า การปรับตัวลดลงของตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐในเดือน พ.ค. นั้นมีสาเหตุมาจากสัญญาณการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยเฉพาะตัวเลขการซื้อขายบ้านมือสอง ณ เดือน พ.ค. ได้ชะลอตัวลงที่ร้อยละ -2.2 จากเดือนก่อน ประกอบกับความเสี่ยงต่อตลาดการเงินของสหรัฐฯ จากวิกฤตหนี้สาธารณะในยุโรป ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาสที่ 1 ของปี 53 ได้ขยายตัวที่ร้อยละ 2.5 แต่พบว่าอัตราการว่างงาน ณ เดือน พ.ค. ยังคงอยู่ในระดับสูงที่ร้อยละ 9.7 ซึ่งมีผลต่อการปรับตัวลดลงของดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ณ เดือน มิ.ย.

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office

Tel 02-273-9020 Ext 3665: www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ