Executive Summary
- ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโดยรวมในเดือน มิ.ย. 53 อยู่ที่ระดับ 69.1 ปรับตัวสูงขึ้นจากเดือนก่อนที่ระดับ 67.6
- ปริมาณจำหน่ายรถจักรยานยนต์ในเดือน มิ.ย. 53 อยู่ที่ระดับ 1.95 แสนคัน หรือขยายตัวที่ร้อยละ 17.3 ต่อปี
Indicators Forecast Previous June: Unemployment 1.1 1.2 (%of total labor force)
- เนื่องจากคาดว่าจำนวนผู้ว่างงานจะลดลงเล็กน้อยจากเดือน เม.ย. ซึ่งเป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ อย่างไรก็ตามจากปัญหาการชุมนุมทางการเมืองที่เกิดความรุนแรงมากขึ้น ทำให้คาดว่าจำนวนผู้ว่างงานจะลดลงไม่มากนัก
June: Passenger Car Sales (%yoy) 40.0 60.2
- เนื่องจากกำลังซื้อของประชาชนเพิ่มขึ้น ตามทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และรายได้เกษตรกรที่ปรับตัวดีขึ้นตามทิศทางราคาสินค้าเกษตรในตลาดโลก และผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงความนิยมจากรถที่มีขนาดใหญ่ มาเป็นรถที่มีขนาดกลางและเล็กมากขึ้น
June: Commercial Car Sales(%yoy) 35.0 48.4
- เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดีทั้งด้านอุปสงค์และอุปทานในประเทศ สะท้อนได้จากการผลิตภาคอุตสาหกรรม และการส่งออกที่ขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโดยรวมในเดือน มิ.ย. 53 อยู่ที่ระดับ 69.1 จากเดือนก่อนที่ระดับ 67.6 ซึ่งเป็นการปรับตัวสูงขึ้นเป็นเดือนที่ 2 เนื่องจากผู้บริโภคมีความมั่นใจว่าภาวะเศรษฐกิจจะปรับตัวดีขึ้น โดยมีปัจจัยบวกจาก 1) สถานการณ์ทางการเมืองที่เริ่มคลี่คลายมากขึ้น 2) หน่วยงานเศรษฐกิจหลักมีการปรับคาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปี 53 เพิ่มขึ้น โดยสศค.ปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 53 เป็นขยายตัวร้อยละ 5.5 ต่อปี จากเดิมที่ร้อยละ 4.5 ต่อปี ในขณะที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)คาดว่าจะเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวที่ร้อยละ 7.0 ต่อปี จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 5.5 ต่อปี และ 3) แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งเริ่มมีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง
ปริมาณจำหน่ายรถจักรยานยนต์ในเดือน มิ.ย. 53 อยู่ที่ระดับ1.95 แสนคัน หรือขยายตัวที่ร้อยละ 17.3 ต่อปี เร่งขึ้นจากเดือนก่อนที่ขยายตัวร้อยละ 7.8 ต่อปีโดยได้รับปัจจัยบวกจาก 1) รายได้เกษตรกรที่ยังอยู่ในเกณฑ์ดีตามราคาสินค้าเกษตร โดยเฉพาะราคายางพารา และมันสำปะหลัง ที่ขยายตัวในอัตราเร่ง โดยในเดือนพ.ค. 53 รายได้เกษตรกรขยายตัวที่ร้อยละ 23.1 ต่อปี และ 2) สถานการณ์ทางการเมืองที่เริ่มคลี่คลายลง ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคของประชาชนดีขึ้น และเริ่มมีการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้นทั้งนี้ ในช่วงไตรมาสที่ 2 ปี 53 พบว่าปริมาณจำหน่ายรถจักรยานยนต์อยู่ที่ระดับ 4.74 แสนคัน หรือขยายตัวที่ร้อยละ 16.9 ต่อปี ชะลอลงจากไตรมาสแรกปี 53 ที่ขยายตัวร้อยละ 31.7 ต่อปี เนื่องจากปัจจัยทางการเมืองในช่วงต้นไตรมาสเป็นสำคัญ
อัตราการว่างงานเดือน พ.ค. 53 คาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 1.1 ของกำลังแรงงานรวม ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้า เนื่องจากคาดว่าจำนวนผู้ว่างงานจะลดลงเล็กน้อยจากเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ อย่างไรก็ตาม จากปัญหาการชุมนุมทางการเมืองที่เกิดความรุนแรงมากขึ้นในช่วงเดือน พ.ค. ทำให้คาดว่าจำนวนผู้ว่างงานจะยังคงลดลงไม่มากนัก โดยคาดว่าการจ้างงานในพื้นที่มีความรุนแรง เช่น กทม. และอีก 23 จังหวัดที่ประกาศเคอร์ฟิวโดยเฉพาะในภาคบริการ (สาขาค้า ปลีกค้าส่ง แ ละ โรงแรมภัตตาคาร) จะปรับตัวลดลง
ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์นั่งในเดือน มิ.ย. 53 คาดว่าจะขยายตัวที่ร้อยละ 40.0 ต่อปี จากเดือนก่อนที่ขยายตัวร้อยละ 60.2 ต่อปี โดยแม้ว่าจะขยายตัวในอัตราชะลอลงแต่ถือได้ว่ายังขยายตัวในระดับสูง จาก 1) กำลังซื้อของประชาชนเพิ่มขึ้น ตามทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และรายได้เกษตรกรที่ปรับตัวดีขึ้นเนื่องจากราคาสินค้าเกษตรที่ปรับตัวสูงขึ้น ตามทิศทางราคาสินค้าเกษตรในตลาดโลก และ 2) ผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงความนิยมจากรถที่มีขนาดใหญ่ มาเป็นรถที่มีขนาดกลางและเล็กมากขึ้น
ปริมาณจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ในเดือน มิ.ย. 53 คาดว่าจะขยายตัวที่ร้อยละ 35.0 ต่อปี ชะลอลงจากเดือนก่อนที่ขยายตัวร้อยละ 48.4 ต่อปี ซึ่ง ถือ ได้ว่ายังขยายตัวได้ดีเนื่องจากปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี ทั้งด้านอุปสงค์และอุปทานในประเทศ สะท้อนได้จากการผลิตภาคอุตสาหกรรม และการส่งออกที่ขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th