รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 2 สิงหาคม 2553

ข่าวเศรษฐกิจ Monday August 2, 2010 10:20 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 2 สิงหาคม 2553

Summary:

1. แก้เกมสหรัฐฯขึ้นบัญชีดำกุ้ง-สิ่งทอ

2. เงินลงทุนภาคการผลิต 7 เดือนแรกปี 53 ขยายตัวร้อยละ 68.0

3. ดัชนีคำสั่งซื้อภาคอุตสาหกรรมของจีนต่ำสุดในรอบ 17 เดือน

Highlight:
1. แก้เกมสหรัฐฯขึ้นบัญชีดำกุ้ง-สิ่งทอ
  • ปลัดกระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า มีแผนที่จะเชิญคณะเจ้าหน้าที่อาวุโสของรัฐสภาสหรัฐฯ มาเยือนไทย โดยจะใช้โอกาสนี้ยืนยันว่าไทยไม่ได้ผลิตสินค้ากุ้งและเครื่องนุ่งห่มจากแรงงานเด็กและแรงงานบังคับ สำหรับสินค้ากุ้งมีประเทศที่ถูกขึ้นบัญชี ได้แก่ บังกลาเทศ พม่า และกัมพูชา ซึ่งการถูกขึ้นบัญชีครั้งนี้ ไทยอาจเสียศักยภาพในการแข่งขันให้กับประเทศผู้ส่งออกกุ้งไปยังสหรัฐฯ ที่สำคัญ คือ อินโดนีเซีย เอกวาดอร์ จีน และเม็กซิโก เป็นต้น ขณะที่สินค้าเครื่องนุ่งห่ม นอกเหนือจากไทยมีประเทศอื่นๆที่ถูกขึ้นบัญชี ได้แก่ อาร์เจนตินา จีน อินเดีย จอร์แดน และมาเลเซีย ซึ่งการขึ้นบัญชีดำอาจส่งผลต่อเนื่อง ทำให้ประเทศอื่นนำข้อมูลดังกล่าวมาเป็นเครื่องมือในการกีดกันการนำเข้าสินค้ากุ้งและเครื่องนุ่งห่มเช่นเดียวกับสหรัฐฯ
  • สศค. วิเคราะห์ว่า ในช่วงครึ่งแรกของปี 53 การส่งออกกุ้งสดแช่แข็งของไทยขยายตัวร้อยละ 31.2 ต่อปี โดยในเดือน มิ.ย. 53 ขยายตัวร้อยละ 40.4 ต่อปี และขยายตัวร้อยละ 16.0 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า(ปรับผลทางฤดูกาลแล้ว) ทั้งนี้ เป็นผลจากการรั่วของน้ำมันในอ่าวเม็กซิโก ทำให้การส่งออกกุ้งแช่แข็งไปยังสหรัฐฯ ในเดือนมิ.ย. 53 ขยายตัวสูงถึงร้อยละ 35.6 ต่อปี โดยตลาดสหรัฐฯ คิดเป็นร้อยละ 40 ของการส่งออกกุ้งแช่แข็งของไทย ในส่วนของเครื่องนุ่งห่ม ไทยส่งออกเสื้อผ้าสำเร็จรูปไปยังสหรัฐฯ คิดเป็นร้อยละ 39 ของการส่งออกเสื้อผ้าสำเร็จรูปของไทย โดยการส่งออกเสื้อผ้าสำเร็จรูปไปยังสหรัฐฯในเดือนมิ.ย. 53 ขยายตัวร้อยละ 28.4 ต่อปี ทั้งนี้ หากไทยถูกขึ้นบัญชีดำเป็นระยะเวลานาน จะเป็นการเสียโอกาสในการส่งออกกุ้งและเครื่องนุ่มห่ม ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกสำคัญไปยังสหรัฐฯอย่างมาก
2. เงินลงทุนภาคการผลิต 7 เดือนแรกปี 53 ขยายตัวร้อยละ 68.0
  • รมว.อุตสาหกรรมเปิดเผยว่า การประกอบกิจการโรงงานเดือนมิ.ย.53 มีโรงงานขออนุญาตประกอบกิจการใหม่ 314 โรงงาน จำนวนแรงงานทั้งสิ้น 6,839 คน ใช้เงินลงทุนรวมกว่า 12,000 ล้านบาท หรือขยายตัวที่ร้อยละ 29.0 ต่อปี โดยอุตสาหกรรมที่มีการลงทุนมากที่สุดคือ อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน อุตสาหกรรมยางและผลิตภัณฑ์ยาง ทั้งนี้ จากประมาณการยอดการลงทุนในช่วง ม.ค.-ก.ค. 2553 เบื้องต้นพบว่า มีเม็ดเงินลงทุนรวมประมาณ 9.7หมื่นล้านบาท หรือขยายตัวจากปีก่อนที่ร้อยละ 68.0
  • สศค. วิเคราะห์ว่า สถานการณ์ด้านการผลิตล่าสุดพบว่า ยังขยายได้ดีต่อเนื่อง สะท้อนจากดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (สัดส่วนร้อยละ 39.8 ของ GDP) ในช่วง 6 เดือนแรกปี 53 ขยายตัวร้อยละ 24.2 ต่อปี โดยอุตสาหกรรมที่ขยายตัวได้ดีส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมการผลิตเพื่อการส่งออก ได้แก่ ยานยนต์ และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งสอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนมิ.ย. 53 ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ระดับ 103.3 จุด ซึ่งสูงกว่าระดับ 100 เนื่องจากการปรับตัวดีขึ้นของคำสั่งซื้อและยอดขายสินค้าอุตสาหกรรม จึงเป็นปัจจัยสนับสนุนให้มีการขยายโรงงานมากขึ้น
3. ดัชนีคำสั่งซื้อภาคอุตสาหกรรมของจีนต่ำสุดในรอบ 17 เดือน
  • สำนักงานสถิติของจีนแถลงตัวเลขดัชนีคำสั่งซื้อภาคอุตสาหกรรมของจีนเดือน ก.ค. 53 ว่า อยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 17 เดือนที่ระดับ 51.2 จากระดับ 52.1 ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ได้คาดไว้ บ่งชี้ถึงสัญญาณการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจจีน โดยส่วนหนึ่งเป็นผลจากมาตรการเข้มงวดการเก็งกำไรในภาคอสังหาริมทรัพย์ และการชะลอโครงการลงทุนของรัฐบาลจีน อย่างไรก็ตาม ดัชนีดังกล่าวยังคงอยู่เหนือระดับ 50.0 สะท้อนว่าภาคการผลิตของจีนยังคงขยายตัว
  • สศค. วิเคราะห์ว่า การลดลงของดัชนีคำสั่งซื้อภาคอุตสาหกรรมของจีนเป็นหนึ่งสัญญาณที่ทำให้คาดว่าเศรษฐกิจจีนในช่วงครึ่งหลังของปี 53 จะชะลอตัวลงจากช่วงครึ่งปีแรกที่ขยายตัวในระดับสูงที่ร้อยละ 11.1 ต่อปี ซึ่งการชะลอตัวในภาคการผลิตของจีนอาจส่งผลให้การส่งออกสินค้าของไทยลดลงได้ ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมาจีนเป็นประเทศคู่ค้าอันดับที่ 2 ของไทยรองจากสหรัฐฯ โดยไทยส่งออกสินค้าไปยังจีนคิดเป็นร้อยละ 10.6 ของการส่งออกทั้งหมด

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group:

Fiscal Policy Office Tel 02-273-9020 Ext 3665: www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ