Macro Morning Focus ประจำวันที่ 2 กันยายน 2553
Summary:
1. พาณิชย์ เผยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือน ส.ค. 53 อยู่ที่ร้อยละ 3.3 ต่อปี
2. ฟิทช์ฯ คาดเศรษฐกิจไทยโตเกิน 7% เล็งเพิ่มเรตติ้ง
3. ดัชนีเครื่องชี้เศรษฐกิจภาคอุสาหกรรมของจีนในเดือน ส.ค. 53 ดีขึ้นอยู่ที่ระดับ 51.7
Highlight:
1. พาณิชย์ เผยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือน ส.ค. 53 อยู่ที่ร้อยละ 3.3 ต่อปี
- พาณิชย์ เผยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือน ส.ค. 53 อยู่ที่ร้อยละ 3.3 ต่อปี จากการสูงขึ้นของหมวดอาหารและเครื่องดื่ม ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐาน เดือน ส.ค. 53 อยู่ที่ร้อยละ 1.2 ต่อปี แต่ยังคงอัตราเงินเฟ้อทั้งปี อยู่ที่ร้อยละ 3.0-3.5 ต่อปี แม้นโยบายการตรึงราคาสินค้าจะสิ้นสุดลงในสิ้นเดือนก.ย.นี้ หลังคาดว่าราคาสินค้าจะไม่ปรับเพิ่มขึ้น แม้จะมีการตรึงหรือไม่ตรึงราคาสินค้าหลังสิ้นเดือน ก.ย. เนื่องจากมีมาตรการดูแลเป็นอย่างดี ส่วนราคาสินค้าวัสดุก่อสร้างจะดูแลในเรื่องของการปรับขึ้นให้สมเหตุสมผลตามต้นทุนที่แท้จริง
- สศค. วิเคราะห์ว่า อัตราการเงินเฟ้อทั่วไปในเดือน ส.ค. ขยายตัวชะลอลงจากเดือนก่อนหน้าเล็กน้อย เนื่องจากฐานในการคำนวณในปีที่ผ่านมาเริ่มปรับตัวสูงขึ้นในเดือน ส.ค.52 ทั้งนี้สินค้าสำคัญที่เป็นแหล่งที่มาของอัตราเงินเฟ้อทั่วไป (Contribution to Headline Inflation) เดือน ส.ค.ประกอบไปด้วย 1)ผักและผลไม้สดขยายตัวที่ร้อยละ 40.0 ต่อปี เช่น ส้มเขียวหวาน กล้วยน้ำว้า เงาะ เนื่องจากได้รับความเสียหายจากฝนตกหนัก ประกอบกับเป็นช่วงเทศกาลสาร์ทจีน 2)ไฟฟ้า น้ำประปาฯขยายตัวร้อยละ 9.0 ต่อปี เนื่องจากหมดอายุมาตรการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายน้ำประปา ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานขยายตัวในระดับต่ำใกล้เคียงกับเดือนก่อนหน้า ทั้งนี้ สศค.คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 53 จะขยายตัวที่ร้อยละ3.5 ต่อปี (ช่วงคาดการณ์ร้อยละ 3.0-4.0 ต่อปี)
2. ฟิทช์ฯ คาดเศรษฐกิจไทยโตเกิน 7% เล็งเพิ่มเรตติ้ง
- บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ คาดว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะขยายตัวสูงกว่า 7% หรืออาจโตได้ราว 7.4% ส่วนในปี 54 คาดว่าจีดีพีจะขยายตัว 4-5 % โดยฟิทช์จะมีการติดตามการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยในระยะต่อไป หากมีการขยายตัวดีขึ้นกว่านี้ และการเมืองมีเสถียรภาพมากขึ้นก็อาจมีการพิจารณาปรับแนวโน้มเครดิตไทยในช่วง 12 — 18 เดือนข้างหน้า โดยเฉพาะเครดิตสกุลเงินบาท
- สศค. วิเคราะห์ว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยเดือน ก.ค.ยังคงเติบโต แม้ว่าตัวเลขการบริโภคภาคเอกชน ภาคการผลิต และการส่งออก จะมีสัญญาณชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้า อย่างก็ตาม การลงทุนภาคเอกชนยังเติบโตได้ดีอยู่ที่ร้อยละ 22.1 ต่อปี แม้จะชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้า ขณะที่เสถียรภาพเศรษฐกิจอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ เดือน ก.ค.อยู่ในระดับสูงที่ 151.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ประกอบกับอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานและอัตราการว่างงานที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งทำให้เศรษฐกิจไทยยังคงขยายตัวต่อไปได้ แม้จะมีความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีการฟื้นตัวที่ชะลอลงในช่วงครึ่งหลังของปี ทั้งนี้ สศค.จะได้นำปัจจัยต่างๆมาพิจารณาทบทวนประมาณการเศรษฐกิจไทยต่อไป
3. ดัชนีเครื่องชี้เศรษฐกิจภาคอุสาหกรรมของจีนในเดือน ส.ค. 53 ดีขึ้นอยู่ที่ระดับ 51.7
- ทางการจีนแถลง ดัชนีเครื่องชี้เศรษฐกิจภาคอุสาหกรรม หรือดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ในเดือน ส.ค. 53 ปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 51.7 หลังจากที่ปรับตัวลดลงต่ำสุดในรอบ 16 เดือนในเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 51.2 บ่งชี้ว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนนั้นไม่รุนแรงอย่างที่หลายฝ่ายคาดการณ์
- สศค. วิเคราะห์ว่า การปรับตัวดีขึ้นของดัชนีดังกล่าวสอดคล้องกับดัชนีผลผลิตภาคอุตสากรรมในเดือน ส.ค.53 ที่อยู่ที่ระดับ 53.1 ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่อยู่ที่ระดับ 52.7 นอกจากนี้คำสั่งซื้อใหม่ และคำสั่งซื้อสินค้าส่งออกนั้นก็ส่งสัญญาณดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 53.1 และ 52.2 ตามลำดับ ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคอุตสาหกรรมของจีนยังคงขยายตัวได้ดี แม้ว่าเศรษฐกิจจีนที่เริ่มส่งสัญญาณการชะลอลง โดยอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 2 อยู่ที่ร้อยละ 10.3 ต่อปี ชะลอลงจากไตรมาสก่อนหน้าที่อยู่ที่ร้อยละ 11.9 ต่อปี อย่างไรก็ตาม การส่งออกของจีนยังมีความเสี่ยงจากเศรษฐกิจสหรัฐและยุโรปซึ่งเป็นคู่ค้าสำคัญของจีน
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group:
Fiscal Policy Office Tel 02-273-9020 Ext 3665: www.fpo.go.th