รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 13 กันยายน 2553

ข่าวเศรษฐกิจ Monday September 13, 2010 10:42 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 13 กันยายน 2553

Summary:

1. การประชุมบอร์ด BOI จะพิจารณาเรื่องส่งเสริมการลงทุน 1,700 ล้าน และการใช้แรงงานต่างด้าว

2. บินไทยชี้นำเข้า 'รถหรู' ผ่านคาร์โก้พุ่ง 10 เท่า

3. เงินเยนอ่อนค่าลงภายหลังตัวเลขเศรษฐกิจจีนบ่งชี้การขยายตัวของอุปสงค์ในประเทศ

Highlight:
1. การประชุมบอร์ด BOI จะพิจารณาเรื่องส่งเสริมการลงทุน 1,700 ล้าน และการใช้แรงงานต่างด้าว
  • กระทรวงอุตสาหกรรมเผยว่านายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) โดยที่ประชุมจะพิจารณาส่งเสริมการลงทุน 10 โครงการ มูลค่า 17,700 ล้านบาท และจะพิจารณาหลักเกณฑ์การอนุญาตให้ใช้แรงงานต่างด้าว ส่วนขยายการลงทุนของบริษัทที่ได้รับส่งเสริมการลงทุน โดยบริษัทที่ขอใช้แรงงานต่างด้าวต้องหมดสิทธิรับยกเว้นภาษีเงินได้ ต้องเข้ามาลงทุนในไทย 20 ปีขึ้นไป มีมูลค่าการลงทุนไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท และใช้แรงงานต่างด้าวได้ไม่เกิน 15% ของแรงงานส่วนขยายทั้งหมด
  • สศค. วิเคราะห์ว่า จากข้อมูลเดือนก.ค. 2553พบว่า โครงการต่างชาติที่ได้รับการส่งเสริมจาก BOI ที่ยื่นขอส่งเสริมในรอบ 7 เดือนของปีนี้ (ม.ค.- ก.ค. 53) คาดว่าจะก่อให้เกิดการจ้างงานภายในประเทศ โดยแยกเป็นแรงงานไทย 59,521 คนและต่างชาติ 2,003 คน ขณะเดียวกันก็มีปัญหาการขาดแคลนแรงงานอย่างมากในบางอุตสาหกรรม ทั้งนี้ การพิจารณาให้มึการจ้างแรงงานต่างด้าวควรมีการพิจารณาถึงความจำเป็นของกิจการ และต้องเป็นประเภทงานที่หนักและคนไทยไม่นิยมต้องการทำ เช่น อาชีพการประมงในส่วนที่ต้องเป็นลูกเรือ หรืออุตสาหกรรมอาหารในส่วนห้องเย็นการตกแต่งชิ้นส่วนอาหาร เป็นต้น ทั้งนี้ ควรต้องมีการจำกัดจำนวนแรงงานต่างด้าว และตั้งกฎเกณฑ์บางอย่าง เช่น ห้ามการมีบุตรในช่วงระยะเวลาที่ทำงานในไทย เพื่อลดปัญหาการพึ่งพิงระยะยาว
2. บินไทยชี้นำเข้า 'รถหรู' ผ่านคาร์โก้พุ่ง 10 เท่า
  • การบินไทยเผยเงินบาทแข็งค่า ปอนด์และยูโรอ่อนค่าลง ส่งผลยอดการขนส่งรถยนต์ทางอากาศเพิ่มขึ้นกว่า 1,000% เฉลี่ยเดือนละ 140 คัน จากปีก่อนที่มีการส่งเพียงเดือนละ 12 คัน ชี้ส่วนใหญ่เป็นรถนำเข้าจากอังกฤษ "บีเอ็มดับเบิลยู" ระบุชี้บาทแข็งได้เปรียบระยะสั้นแต่ธุรกิจอยู่ที่การวางแผนมากกว่า ขณะที่ยอดจดทะเบียนรถหรูป้ายแดงเพิ่มขึ้นเกือบทุกยี่ห้อ หลังจากค่าเงินปอนด์และเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ในช่วงหลายๆเดือนที่ผ่านมา การอ่อนค่าของเงินทั้งสองสกุล ส่งผลให้ค่ายรถหรูหรือรถราคาแพงๆ หลายแห่งมีการนำเข้าเพิ่มขึ้น เนื่องจากราคารถถูกลง เช่นเดียวกับค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นในทุกวันนี้
  • สศค. วิเคราะห์ว่า การนำเข้ายานพาหนะและส่วนประกอบทั้งหมดในช่วง 7 เดือนแรกของปี 53 ขยายตัวร้อยละ 102.6 ต่อปี โดยรถยนต์นั่งขยายตัวร้อยละ 114.7 ต่อปี ขณะที่ส่วนประกอบขยายตัวร้อยละ 112.7 ต่อปี เช่นเดียวกับปริมาณการจำหน่ายรถยนต์นั่งในช่วงเวลาเดียวกัน ที่ขยายตัวถึงร้อยละ 60.3 ต่อปี ชี้ให้เห็นถึงอุตสาหกรรมยานยนต์ที่มีแนวโน้มสดใส รวมทั้งสะท้อนถึงการบริโภคภายในประเทศที่แข็งแกร่ง ทั้งนี้ ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดว่าอาจจะส่งผลให้มีการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศมากขึ้น โดยสศค.คาดว่าการนำเข้าสินค้าในปี 53 จะขยายตัวร้อยละ 36.6 ต่อปี ช่วงคาดการณ์ร้อยละ 35.0-38.2 ต่อปี (คาดการณ์ ณ เดือนมิ.ย.53)
3. เงินเยนอ่อนค่าลงภายหลังตัวเลขเศรษฐกิจจีนบ่งชี้การขยายตัวของอุปสงค์ในประเทศ
  • ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงเมื่อเปรียบเทียบกับค่าเงินสกุลอื่นๆ กว่า 16 สกุล ภายหลังจากที่ทางการจีนแถลงตัวเลขทางเศรษฐกิจในวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมและยอดค้าปลีกของจีนในเดือน ส.ค. 53 ขยายตัวที่ร้อยละ 13.9 ต่อปีและร้อยละ 18.4 ต่อปี ตามลำดับ ซึ่งบ่งชี้สัญญาณการขยายตัวของเศรษฐกิจจีน ส่งผลให้ความต้องการลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ (Safe Asset) ลดลงทั้งนี้ นักวิเคราะห์มองว่า จากสัญญาณที่ดีของเศรษฐกิจจีน จะส่งผลให้แรงกดดันต่อการแข็งค่าของเงินเยนและดอลลาร์สหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ผ่อนคลายลง
  • สศค. วิเคราะห์ว่า สัญญาณการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนในเดือน ส.ค. 53 ได้สร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียและเศรษฐกิจโลก และหากในสัปดาห์นี้เศรษฐกิจโลกมีสัญญาณที่ดีต่อเนื่อง ก็อาจจะส่งผลให้ค่าเงินในภูมิภาคเอเชียและค่าเงินบาทมีการแข็งค่าขึ้นอีก จากการที่นักลงทุนเข้าถือหลักทรัพย์ที่มีความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ ในวันศุกร์ที่ผ่านมา (11 ก.ย. 53) ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นมากที่สุดในรอบ 15 ปีมาอยู่ที่ระดับ 30.81 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group:

Fiscal Policy Office Tel 02-273-9020 Ext 3665: www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ