สำนักงานที่ปรึกษาเศรษฐกิจและการคลัง ประจำกรุงวอชิงตัน ขอรายงานยอดรายได้ การใช้จ่าย และการออมของสหรัฐฯ ประจำเดือนกรกฎาคม 2553 ซึ่งจัดทำโดยสำนักวิเคราะห์เศรษฐกิจสหรัฐฯ (Bureau of Economic Analysis - BEA) ภายใต้กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ดังนี้
1. รายได้ส่วนบุคคล (Personal Income) ของสหรัฐฯ ในเดือนกรกฎาคม 2553 ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 30.0 พันล้านเหรียญสรอ. หรือร้อยละ 0.2 หลังจากที่ปรับลดลง 2.7 พันล้านเหรียญสรอ. หรือต่ากว่าร้อยละ 0.1 ในเดือนมิถุนายน โดยระดับรายได้และเงินเดือนภาคเอกชนซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักของรายได้ส่วนบุคคล มีการขยายตัวเพิ่มขึ้น 23.3 พันล้านเหรียญสรอ. หรือร้อยละ 0.5 เปรียบเทียบกับที่ปรับลดลง 5.0 พันล้านเหรียญสรอ. หรือร้อยละ 0.1 ในเดือนก่อนหน้า
2. รายได้ส่วนบุคคลสุทธิ (Disposable Personal Income - DPI) หรือรายได้ที่ครัวเรือนได้รับหลังหักภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่สามารถนาไปใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคหรือการออมในเดือนกรกฎาคมปรับตัวเพิ่มขึ้น 17.6 พันล้านเหรียญสรอ. หรือร้อยละ 0.2 หลังจากปรับลดลง 0.2 พันล้านเหรียญสรอ. หรือต่ากว่าร้อยละ 0.1 ในเดือนมิถุนายน 2553
3. รายได้ส่วนบุคคลที่สามารถนาไปใช้จ่ายได้จริง (Real Disposable Personal Income — Real DPI) หรือรายได้สุทธิหลังหักภาษีและเงินเฟ้อที่สามารถนาไปใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคหรือการออมได้จริงไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนก่อนมากนัก โดยชะลอตัวที่อัตราร้อยละ 0.1 เปรียบเทียบกับที่ขยายตัวร้อยละ 0.1 ในเดือนก่อนหน้า
4. ยอดการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคอุปโภคส่วนบุคคลที่แท้จริง (Real Personal Consumption Expenditures — Real PCE) ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 เปรียบเทียบกับอัตราการขยายตัวร้อยละ 0.1 ในเดือนมิถุนายน ทั้งนี้ มูลค่าการใช้จ่ายด้านสินค้าคงทน (Durable Goods) ในเดือนกรกฎาคม 2553 ขยายตัวร้อยละ 1.2 หลังจากชะลอตัวร้อยละ 0.1 ในเดือนก่อนหน้า มูลค่าการใช้จ่ายด้านสินค้าไม่คงทน (Non-Durable Goods) ชะลอตัวร้อยละ 0.3 หลังจากขยายตัวร้อยละ 0.2 ในเดือนก่อนหน้า ส่วนปริมาณการใช้จ่ายด้านบริการขยายตัวร้อยละ 0.2 เพิ่มขึ้นจากขยายตัวร้อยละ 0.1 ในเดือนมิถุนายน
5. ระดับราคา (PCE Price Index) ซึ่งวัดโดยดัชนีราคาของการใช้จ่ายในการอุปโภคบริโภคส่วนบุคคลปรับตัวสูงขึ้นด้วยอัตราร้อยละ 0.2 ในเดือนกรกฎาคม 2553 หลังจากปรับลดลงด้วยอัตราร้อยละ 0.1 ในเดือนก่อนหน้า ส่วนดัชนีราคาของการใช้จ่ายในการอุปโภคบริโภคส่วนบุคคลที่ไม่รวมสินค้าอาหารและน้ามันปรับสูงขึ้นร้อยละ 0.1 และหลังจากที่เพิ่มขึ้นในอัตราที่ต่ากว่าร้อยละ 0.1 ในเดือนมิถุนายน
6. การออมส่วนบุคคล (Personal Saving) ที่คิดเป็นสัดส่วนจากรายได้ส่วนบุคคลที่สามารถนาไปใช้จ่าย
รายละเอียดข้างต้น สามารถสรุปได้ดังตารางต่อไปนี้
May June July
2010 2010 2010
Personal Income 0.3% 0.0% 0.2%
Real DPI 0.4% 0.0% -0.1%
Real PCE 0.2% 0.1% 0.2%
PCE Price -0.1% -0.1% 0.2%
Personal Saving Rate 6.1% 6.2% 5.9%
ที่มา: สำนักวิเคราะห์เศรษฐกิจสหรัฐฯ (www.bea.gov)
ภาพรวมด้านรายได้และการใช้จ่ายของประชากรสหรัฐฯ ในเดือนกรกฎาคม 2553 มีลักษณะคล้ายคลึงกับช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา โดยปริมาณการใช้จ่ายของผู้บริโภค มีการขยายตัวในระดับที่ต่า ทั้งนี้เป็นผลมาจากรายได้ส่วนบุคคลที่ขยายตัวในอัตราที่ต่าอย่างต่อเนื่อง รวมถึงอัตราการว่างงานที่อยู่ในระดับสูง ขณะที่ อัตราการออมส่วนบุคคลของสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในที่ระดับสูง ถึงแม้ว่าอัตราดังกล่าวจะปรับลดลงเล็กน้อยในเดือนกรกฎาคมเนื่องจากปริมาณการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ขยายตัวในอัตราที่สูงกว่าของรายได้ส่วนบุคคลก็ตาม โดย นายเบน เบอนันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับอัตราการออมที่สูงของสหรัฐฯ ว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยของการชะลอตัวสภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในไตรมาสที่ 2 ซึ่งมีอัตราการเติบโตต่ากว่าที่มีการคาดการณ์ไว้เบื้องต้น
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th