รายงานสรุปกฎหมายที่เกี่ยวกับการฟื้นฟูสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมสหรัฐฯ

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday October 5, 2010 11:52 —กระทรวงการคลัง

1. กฎหมาย American Recovery and Reinvestment Act of 2009 (Public Law No: 111-5) ผ่านเป็นกฎหมาย ณ วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2552 รัฐบาลสหรัฐฯ ได้จัดสรรงบประมาณมูลค่ารวม 787 พันล้านเหรียญ สรอ. เพื่อกระตุ้นสภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งประกอบด้วยโครงการต่างๆ ได้แก่ การลดหย่อนภาษีจากรัฐบาลส่วนกลาง การขยายเงินช่วยเหลือสาหรับผู้ว่างงาน กิจกรรมสังคมสงเคราะห์ และการขยายลงทุนอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาล เช่น การสร้างถนนและการลงทุนเกี่ยวกับพลังงานปลอดมลพิษ โดยกฎหมายดังกล่าวมีจุดประสงค์ที่จะลดปัญหาการว่างงาน ขยายการลงทุนภายในประเทศ รวมถึงเพิ่มการใช้จ่ายของประชาชนสหรัฐฯ หลังจากผลกระทบของสภาวะเศรษฐกิจตกต่าในปี 2551

2. กฎหมาย Worker, Homeowner, and Business Assistance Act of 2009 (Public Law No: 111-92) ผ่านเป็นกฎหมาย ณ วันที่ 6 พฤศจิกายน 2552 กฎหมายดังกล่าวได้ขยายเงินช่วยเหลือผู้ว่างงาน (Unemployment Benefit) เพิ่มเติมอีก 13 สัปดาห์ สาหรับมลรัฐที่มีอัตราการว่างงานมากกว่าร้อยละ 8.5 เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบของสภาวะเศรษฐกิจตกต่าและปัญหาการว่างงานของสหรัฐฯ อีกทั้ง กฎหมายดังกล่าว ได้ขยายเวลาของโครงการลดหย่อนภาษีสาหรับผู้ซื้อบ้านเป็นครั้งแรก (First-time Homebuyer Tax Credit) เพิ่มเติมไปจนถึงเดือนเมษายน 2553

3. กฎหมาย Hiring Incentives to Restore Employment Act (Public Law No: 111-147) ผ่านเป็นกฎหมาย ณ วันที่18 มีนาคม 2553 รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ออกกฎหมายดังกล่าวเพื่อลดหย่อนภาษีสาหรับธุรกิจที่มีการจ้างงานในช่วงระหว่างวันที่ 3 มีนาคม 2553 จนถึง 1 มกราคม 2554 เพื่อกระตุ้นการจ้างงานในสหรัฐฯ อีกทั้ง ได้ขยายโครงการสร้างอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาล เช่น ถนนและทางด่วน เพื่อสร้างงานเพิ่มเติมให้กับประชาชน

4. กฎหมาย Dodd-Frank Wall Street Reform and Consumer Protection Act (Public Law No: 111-203) ผ่านเป็นกฎหมาย ณ วันที่ 21 มิถุนายน 2553 ซึ่งกฎหมายดังกล่าวถือเป็นการปฎิรูประบบการเงินครั้งใหญ่ของสหรัฐฯ โดยได้รวบรวมการเปลี่ยนแปลงนโยบายต่างๆ เกี่ยวกับการธนาคารและตลาดสินเชื่อ เช่น มาตรการควบคุมขนาดองค์กรและสกัดกั้นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงของธนาคารขนาดใหญ่ ตลอดจนการปกป้องสิทธิประโยชน์ของผู้ลงทุนและการจัดลาดับความน่าเชื่อถือของการลงทุน ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อรักษาเสถียรภาพทางการเงินและป้องกันการเกิดวิกฤตทางการเงินที่อาจเกิดขึ้นในลักษณะเดียวกับปี 2551

5. ร่างกฎหมาย Small Business Jobs and Credit Act of 2010 (H.R.5297) ผ่านการพิจารณารับรองจากรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2553 ปัจจุบันรอการลงนามจากประธานาธิบดี โดยสหรัฐฯ จะจัดสรรงบประมาณจัดตั้งกองทุนกู้ยืมเพื่อธุรกิจขนาดย่อม มูลค่า 30 พันล้านเหรียญ สรอ. การผ่อนผันและลดหย่อนภาษีที่มีมูลค่าประมาณ 12 พันล้านเหรียญ สรอ. ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อขยายการลงทุนของธุรกิจขนาดย่อม และการสร้างงานให้กับประชากรสหรัฐฯ

6. ร่างกฎหมาย Currency Exchange Rate Oversight Reform Act of 2010 (S.3134) และ Currency Reform for Fair Trade Act (H.R.2378) อยู่ระหว่างการพิจารณาของรัฐสภา ซึ่งสหรัฐฯ ร่างกฎหมายฉบับนี้เพื่อที่จะปฏิรูปการตรวจสอบการแทรกแซงค่าเงินของประเทศคู่ค้าสหรัฐฯ โดยมีการมุ่งเน้นที่จะตอบโต้การแทรกแซงค่าเงินหยวนของประเทศจีน ทั้งนี้ สหรัฐฯ เห็นว่า อัตราการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่ไม่เป็นธรรมดังกล่าวส่งผลกระทบต่อธุรกิจส่งออกของสหรัฐฯ และถึงแม้จีนได้แถลงเมื่อช่วงกลางปีนี้ว่าจะปรับค่าเงินหยวนให้แข็งขึ้น แต่ในทางปฎิบัติแล้วพบว่าค่าเงินหยวนมีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย โดยแข็งขึ้นเพียงร้อยละ 1 เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งนี้ จีนยังคงเป็นประเทศคู่ค้าสาคัญที่นาเข้าสินค้าสู่สหรัฐฯ เป็นอันดับ 1 และสหรัฐฯ ขาดดุลการค้ากับจีนเป็นมูลค่าสูงถึง 25.9 พันล้านเหรียญ สรอ. จากรายงานล่าสุดในเดือนกรกฎาคม 2553

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office

Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ