ร่างกฎหมาย Small Business Jobs and Credit Act of 2010 (H.R.5297) ที่ผ่านการพิจารณารับรองจากรัฐสภา เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2553 ซึ่งกฎหมายดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อสนับสนุนการขยายการลงทุนของธุรกิจขนาดย่อม โดยได้มีการรวบรวมโครงการเพื่อสิทธิประโยชน์ต่างๆ จากรัฐบาลสหรัฐฯ เช่น กองทุนกู้ยืม โครงการส่งเสริมการส่งออก ตลอดจนการผ่อนผันและลดหย่อนภาษีสาหรับธุรกิจขนาดย่อม โดยมีสาระสาคัญสรุปได้ดังนี้
1. สหรัฐฯ จะจัดสรรงบประมาณจานวน 30 พันล้านเหรียญ สรอ. เพื่อจัดตั้งกองทุนกู้ยืมสาหรับธุรกิจขนาดย่อม (Small Business Lending Fund) ซึ่งจะอยู่ภายใต้การดูแลของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อกระตุ้นกิจกรรมการลงทุนของธุรกิจขนาดย่อม หลังจากที่มีการชะลอตัวของการฟื้นฟูสภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โดยกระทรวงการคลังสหรัฐฯ จะใช้เงินจากกองทุนดังกล่าว จัดซื้อหุ้นบุริมสิทธิ หรือเครื่องมือทางการเงินอื่นๆ จากสถาบันการเงินที่มีคุณสมบัติตามที่โครงการกาหนด เพื่อสถาบันการเงินเหล่านั้นจะได้ใช้เงินจากกองทุนขยายกิจกรรมการกู้ยืมเงินแก่ธุรกิจขนาดย่อมต่อไป
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวมีจุดประสงค์ที่จะเน้นการกระจายเงินจากกองทุนให้กับสถาบันการเงินขนาดเล็ก โดยได้กาหนดคุณสมบัติของสถาบันการเงินที่สามารถเข้าร่วมโครงการว่าต้องมีปริมาณสินทรัพย์ไม่เกิน 10 พันล้านเหรียญ สรอ. ตลอดจนมีข้อจากัดให้สถาบันการเงินที่มีปริมาณสินทรัพย์ไม่เกิน 1 พันล้านเหรียญ สรอ. สามารถกู้เงินจากกองทุนได้ไม่เกินร้อยละ 5 ของปริมาณสินทรัพย์ถ่วงน้าหนักความเสี่ยง (Risk-weighted Assets) ของสถาบันการเงินนั้นๆ ในขณะที่สถาบันการเงินที่มีปริมาณสินทรัพย์อยู่ระหว่าง 1 ถึง 10 พันล้านเหรียญ สรอ. สามารถกู้เงินจากกองทุนได้ไม่เกินร้อยละ 3 ของปริมาณสินทรัพย์ถ่วงน้าหนักความเสี่ยง
2. สหรัฐฯ จะปรับเปลี่ยนข้อกำหนดของโครงการให้กู้ยืมเงินต่างๆ จากสำนักงานบริหารธุรกิจขนาดย่อม (Small Business Administration: SBA) ที่ก่อตั้งตามกฎหมาย American Reinvestment and Recovery Act of 2009 เพื่อลดค่าใช้จ่ายและขยายกิจกรรมการลงทุนแก่ธุรกิจขนาดย่อม เช่น (1) การยกเว้นค่าธรรมเนียมของการกู้ยืมเงินหลักทรัพย์ค้าประกันทั่วไป หรือประเภท 7(a) และการกู้ระยะยาวด้วยอัตราดอกเบี้ยคงที่ หรือประเภท 504 (2) การเพิ่มเงินค้าประกันจากรัฐบาลของการกู้ 7(a) จากร้อยละ 75 เป็นร้อยละ 90 (3) การเพิ่มปริมาณเงินให้กู้ยืมประเภท 7(a) และ 504 จาก 2 ล้านเหรียญ สรอ. เป็น 5 ล้านเหรียญ สรอ. (4) การปรับเพิ่มปริมาณเงินให้กู้ยืมระยะสั้น หรือประเภท Microloan จากที่ระดับ 35,000 เหรียญ สรอ. เป็น 50,000 เหรียญ สรอ. (5) เช่นเดียวกับการกู้แบบเร่งด่วน หรือประเภท SBA Express ได้ปรับเพิ่มปริมาณเงินให้กู้ยืมจาก 250,000 เหรียญ สรอ. เป็น 1 ล้านเหรียญ สรอ. เป็นต้น
3. รัฐบาลสหรัฐฯ จะจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมจานวน 1.5 พันล้านเหรียญ สรอ. เพื่อสนับสนุนโครงการต่างๆ ของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ประสบความสาเร็จในการช่วยเหลือธุรกิจขนาดย่อม
4. สหรัฐฯ จะยกเว้นภาษีทั้งหมดของรายรับจากการซื้อขายหุ้นของธุรกิจขนาดย่อมจากเดิมที่ยกเว้นร้อยละ 50 ในช่วงระหว่างวันที่ 15 มีนาคม 2553 ถึงวันที่ 1 มกราคม 2555 เพื่อกระตุ้นให้นักลงทุนมาสนใจการลงทุนในหุ้นจากธุรกิจขนาดย่อมมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลทางบวกต่อการขยายเงินลงทุนของธุรกิจขนาดย่อม
5. กฎหมายจะปรับข้อกำหนดทางบัญชีให้ธุรกิจขนาดย่อมสามารถหักค่าใช้จ่ายได้ทันทีเป็นจานวนสูงถึง 500,000 เหรียญ สรอ. ของการลงทุนขยายกิจการในระหว่างปี 2553-2554 อีกทั้ง สามารถหักค่าใช่จ่ายจากการลงทุนซื้ออุปกรณ์หรือเครื่องจักรใหม่ได้ทันทีเป็นอัตราร้อยละ 50 ของการลงทุนดังกล่าวในปี 2553 โดยการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะช่วยให้ธุรกิจขนาดย่อมเหลือเงินสดเพื่อการหมุนเวียนในธุรกิจเพิ่มขึ้น
6. กฎหมายจะยกเว้นภาษีจำนวน 20,000 เหรียญสรอ. สำหรับผู้ประกอบธุรกิจที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจของตัวเองในระหว่างปี 2553-2554
7. การเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดทางบัญชีเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่สำหรับธุรกิจขนาดย่อม และค่าใช้จ่ายการประกันสุขภาพสาหรับเจ้าของกิจการ
8. สหรัฐฯ จะจัดตั้งโครงการต่างๆ จากความร่วมมือระหว่าง ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) สานักงานบริหารธุรกิจขนาดย่อม (SBA) และ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เพื่อสนับสนุนการส่งออกของธุรกิจขนาดย่อมให้สามารถขยายการเข้าถึงตลาดต่างประเทศ เช่นโครงการ State Export Promotion Grant Program ที่คาดการณ์ว่าจะมีมูลค่าการส่งออกกว่า 1 พันล้านเหรียญ สรอ.
9. รัฐบาลสหรัฐฯ จะจัดตั้งโครงการ Small Business Teaming Pilot Program เพื่อสนับสนุนธุรกิจขนาดย่อมในการประมูลโครงการจัดจ้างต่างๆ ของรัฐบาล ให้สามารถแข่งขันกับบริษัทขนาดใหญ่ได้อย่างเป็นธรรม โดยโครงการดังกล่าว จะมีระยะเวลาดาเนินการ 5 ปี
การออกกฎหมาย Small Business Jobs and Credit Act of 2010 มีจุดประสงค์หลักในการช่วยผ่อนคลายการตึงตัวของตลาดสินเชื่อสาหรับธุรกิจขนาดย่อม ซึ่งจะเป็นปัจจัยสาคัญที่สนับสนุนการสร้างงานให้กับประชากรสหรัฐฯ หลังจากอัตราการว่างงานอยู่ในระดับสูงมาเป็นเวลานาน เนื่องจากผลกระทบของสภาวะเศรษฐกิจตกต่าในปี 2551 โดยรัฐบาลสหรัฐฯ คาดการณ์ว่าโครงการต่างๆ ภายใต้กฎหมายฉบับนี้จะช่วยสร้างงานเป็นจานวน 500,000 งานให้กับประชากรสหรัฐฯ ในระหว่างปี 2553-2554
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th