* สาขาการก่อสร้าง ขยายตัวร้อยละ 3.3 ชะลอลงจาก ร้อยละ 5.4 ในปีก่อน เป็นผลมาจากการการก่อสร้างภาครัฐลดลงร้อยละ 6.7 ส่วนการก่อสร้างเอกชนขยายตัวร้อยละ 17.7 ชะลอลงจากปีก่อนหน้า เนื่องจากมาตรการกระตุ้นของรัฐบาล โดยลดค่าธรรมเนียมและการให้สิทธิพิเศษทางภาษีได้สิ้นสุด ในช่วงปลายปี ทำให้ผู้ประกอบการบางส่วนชะลอการลงทุนและรอดูทิศทางมาตรการรัฐบาลในปีต่อไป
* สาขาการขายส่งการขายปลีกการซ่อมแซมยานยนต์ จักรยานยนต์ ของใช้ส่วนบุคคล และของใช้ในครัวเรือน ขยายตัวร้อยละ 3.5 ปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยจาก ร้อยละ 1.9 ในปีที่ผ่านมา เป็นผลมาจากหมวดการขายส่งและการขายปลีกสินค้าอุตสาหกรรมขยายตัวตามภาวะการผลิตที่กล่าวถึงข้างต้น ส่วนการค้าสินค้าเกษตรลดลงจากปีที่แล้วส่วนการบริการซ่อมแซมฯ ในปีนี้ชะลอลงเหลือร้อยละ 1.7 เป็นผลมาจากบริการซ่อมแซมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และบริการล้างอัดฉีดชะลอตัวลง
* สาขาโรงแรมและภัตตาคาร หดตัวลงร้อยละ 3.7 จากที่ขยายตัวร้อยละ 4.5 ในปีที่ผ่านมา การลดลงเกิดขึ้นทั้งในส่วนภัตตาคารและโรงแรม จากการที่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางเข้ามาในประเทศลดลง ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากสงครามอิรัก และความวิตกกังวลต่อการแพร่ระบาดของโรคซาร์ส
* สาขาการขนส่งสถานที่เก็บสินค้าและการคมนาคม ชะลอลงร้อยละ 3.7 โดยหมวดการขนส่งทางอากาศปีนี้หดตัวลงร้อยละ 8.0 เนื่องจากภาวะการท่องเที่ยวซบเซา ดังกล่าวแล้วข้างต้น ส่วนการขนส่งทางน้ำและทางบกขยายตัวตามภาวะการผลิตสินค้าที่ดีขึ้นนอกจากนั้นการคมนาคมขยายตัวสูงถึงร้อยละ 9.6 มาจากกิจการ โทรคมนาคมของเอกชนมีผลประกอบการที่ดี
* สาขาตัวกลางทางการเงิน ขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็นปีที่ 3 หลังจากหดตัวลงอย่างมากในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ โดยขยายตัว ถึงร้อยละ 16.2 เนื่องจากสถาบันการเงินมีผลประกอบการดีขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ธุรกิจประกันภัย ธนาคารออมสิน และบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ มีรายได้จากดอกเบี้ยรับสุทธิเพิ่มขึ้น
* สาขาบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ การให้เช่า และบริการทางธุรกิจ สาขานี้โดยรวมขยายตัวร้อยละ 5.1 เนื่องจากมีการเร่งโอนที่ดินก่อนมาตรการการลดหย่อนภาษีจะสิ้นสุดลงในปีนี้ โดยบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ขยายตัวถึงร้อยละ 22.5 รายการที่อยู่อาศัยขยายตัวร้อยละ 3.9 ส่วนบริการทางธุรกิจขยายตัวร้อยละ 6.0 เนื่องมาจากธุรกิจโฆษณา รวมทั้งด้านบริการทางบัญชีและบริการทางสถาปัตยกรรมและวิศวกรรมขยายตัวเพิ่มขึ้น
* สาขาบริการอื่นๆ โดยรวมขยายตัวร้อยละ 3.8 ชะลอลงจากร้อยละ 5.2 ในปีที่ผ่านมา
* สาขาการบริหารราชการแผ่นดินและการป้องกันประเทศ รวมทั้ งการประกันสังคมภาคบังคับชะลอลงร้อยละ 3.8 เนื่องจากการเบิกจ่ายงบปกติของส่วนราชการลดลง และประกอบกับการเบิกจ่ายภายใต้นโยบายการใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 58,000 ล้านบาท ชะลอลง
o สาขาการศึกษา ชะลอลงร้อยละ 1.9 เนื่องจากการศึกษาภาครัฐมีการเบิกจ่ายค่าตอบแทนชะลอลง และการศึกษาภาคเอกชนก็ชะลอลงด้วย
o สาขาบริการด้านสุขภาพและงานสังคม สงเคราะห์ลดลงร้อยละ 3.3 เนื่องจากการบริการสุขภาพของรัฐ ลดลงร้อยละ 6.0 แต่ในส่วนของเอกชนขยายตัวร้อยละ 2.0
o สาขาการให้บริการชุมชน สังคม และบริการส่วนบุคคลอื่นๆ ขยายตัวร้อยละ 11.2 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 8.1 ในปีที่ผ่านมา โดยที่หมวดบริการบันเทิง วัฒ นธรรมและกิจกรรมด้ น การกีฬ ขยายตั วร้อยละ 13.3 เป็ นผลจากรายการสลากกินแบ่งรัฐบาลและสลากพิเศษขยายตัวสูงขึ้นและเนื่องจากปีนี้รัฐบาลได้ออกสลากรูปแบบใหม่ คือ เลขท้าย3 ตัวและ 2 ตัวซึ่งมีรายได้สุทธิกว่า 4,883 ล้านบาท นอกจากนี้ ในส่วนบริการวิทยุกระจายเสียง โทรทัศน์และเคเบิ้ลทีวี ขยายตัวร้อยละ 8.9 จากรายการค่าเช่าสื่อโทรทัศน์
และรายได้จากการโฆษณาที่สูงขึ้น ส่วนบริการอื่นๆ ชะลอลงเหลือร้อยละ 6.9
(ยังมีต่อ).../..2.เศรษฐกิจ