เมื่อวันที่ 11 และ 12 พฤษภาคม 2547 เป็นการนัดฟังคดีครั้งที่สองของคณะพิจารณาในเรื่องที่ไทย ออสเตรเลียและบราซิลได้ฟ้องต่อคณะพิจารณาว่าสหภาพยุโรป ให้การอุดหนุนการส่งออกน้ำตาลเกินกว่าที่ระบุไว้ในความตกลงว่าด้วยการเกษตรซึ่งระบอบน้ำตาลของสหภาพ ฯ ที่ว่านี้ถือเป็นมาตรการที่ขัดต่อพันธกรณีตามความตกลงว่าด้วยการเกษตรกับความตกลงด้วยการอุดหนุนและมาตรการตอบได้ ซึ่งคณะผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การการค้าโลกประจำองค์การการค้าโลก ได้เสนอข่าวของการนัดฟังคดีครั้งแรกไปแล้วตามข่าวเวทีเจรจาการค้าโลก ฉบับที่ 6/2547 ลงวันที่ 2 เมษายน 2547
ในการนัดฟังคดีครั้งนี้ สหภาพฯ ยังคงพยายามเบี่ยงเบนประเด็นของคดีว่าประเทศทั้งสามที่ฟ้องตนนั้นใช้สิทธิในการฟ้องคดีโดยไม่สุจริต และสหภาพฯ ยังคงพยายามตีความความตกลงดังกล่าวตามแนวทางของตน แม้ว่าหลายประเด็นที่สหภาพฯหยิบยกเป็นข้อต่อสู้ของตนนั้นเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่คณะพิจารณาบางคณะในคดีอื่นหรือองค์กรอุทธรณ์ได้เคยวินิจฉัยในลักษณะที่เป็นคุณต่อข้อต่อสู้ของไทยและอีกสองประเทศไว้แล้วก็ตาม ยิ่งไปกว่านั้น สหภาพฯ ยังกล่าวพาดพิงถึงระบอบน้ำตาลของประเทศอื่นรวมทั้งไทยด้วยซึ่งไม่ใช่ประเด็นที่เกี่ยวข้องของคดีนี้แต่อย่างใดเลย แต่สหภาพ ฯ ก็ทำมากล่าวย้ำแล้วย้ำอีกว่าระบอบน้ำตาลของไทยมีการส่งออกต่ำกว่าต้นทุนซึ่งถือเป็นการอุดหนุนส่งออก แต่ไทยกลับไม่เคยแจ้งว่ามีการอุดหนุนส่งออก
อย่างไรก็ดี คณะพิจารณา ได้ฟังถ้อยแถลงด้วยวาจาของคู่พิพาทและซักถามคู่กรณีในเชิงลึกทั้งด้านกฎหมายและข้อเท็จจริงโดยไทย ออสเตรเลียและบราซิลต่างได้กล่าวแย้งข้อสู้ของสหภาพฯทุกประเด็น ไม่ว่าจะเป็นประเด็นข้อเท็จจริงหรือประเด็นข้อกฎหมาย
เป็นที่น่าเสียดายที่ยังมีความเข้าใจผิดของบางประเทศโดยเฉพาะประเทศที่เป็นฝ่ายที่สามในคดีนี้ที่เข้าว่าการฟ้องคดีของไทยทำให้ตนสูญเสียสิทธิพิเศษที่ตนได้รับจากระบอบน้ำตาลของสหภาพฯซึ่งไทย ออสเตรเลียและบราซิลได้แถลงชัดเจนหลายครั้งว่า สิทธิพิเศษดังกล่าวที่ประเทศใดจะพึงมีพึงได้จากสหภาพฯ นั้นไม่ใช่ประเด็นของคดีนี้ กล่าวถือ หากสหภาพฯ แพ้คดีก็ยังคงให้สิทธิพิเศษดังกล่าวได้อย่างครบถ้วนต่อไปแต่จะต้องปรับระบอบน้ำตาลของตนเองซึ่งขัดต่อความตกลงขององค์การการค้าโลกให้ถูกต้องเท่านั้น
--สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ--
-ชพ/พห-
ในการนัดฟังคดีครั้งนี้ สหภาพฯ ยังคงพยายามเบี่ยงเบนประเด็นของคดีว่าประเทศทั้งสามที่ฟ้องตนนั้นใช้สิทธิในการฟ้องคดีโดยไม่สุจริต และสหภาพฯ ยังคงพยายามตีความความตกลงดังกล่าวตามแนวทางของตน แม้ว่าหลายประเด็นที่สหภาพฯหยิบยกเป็นข้อต่อสู้ของตนนั้นเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่คณะพิจารณาบางคณะในคดีอื่นหรือองค์กรอุทธรณ์ได้เคยวินิจฉัยในลักษณะที่เป็นคุณต่อข้อต่อสู้ของไทยและอีกสองประเทศไว้แล้วก็ตาม ยิ่งไปกว่านั้น สหภาพฯ ยังกล่าวพาดพิงถึงระบอบน้ำตาลของประเทศอื่นรวมทั้งไทยด้วยซึ่งไม่ใช่ประเด็นที่เกี่ยวข้องของคดีนี้แต่อย่างใดเลย แต่สหภาพ ฯ ก็ทำมากล่าวย้ำแล้วย้ำอีกว่าระบอบน้ำตาลของไทยมีการส่งออกต่ำกว่าต้นทุนซึ่งถือเป็นการอุดหนุนส่งออก แต่ไทยกลับไม่เคยแจ้งว่ามีการอุดหนุนส่งออก
อย่างไรก็ดี คณะพิจารณา ได้ฟังถ้อยแถลงด้วยวาจาของคู่พิพาทและซักถามคู่กรณีในเชิงลึกทั้งด้านกฎหมายและข้อเท็จจริงโดยไทย ออสเตรเลียและบราซิลต่างได้กล่าวแย้งข้อสู้ของสหภาพฯทุกประเด็น ไม่ว่าจะเป็นประเด็นข้อเท็จจริงหรือประเด็นข้อกฎหมาย
เป็นที่น่าเสียดายที่ยังมีความเข้าใจผิดของบางประเทศโดยเฉพาะประเทศที่เป็นฝ่ายที่สามในคดีนี้ที่เข้าว่าการฟ้องคดีของไทยทำให้ตนสูญเสียสิทธิพิเศษที่ตนได้รับจากระบอบน้ำตาลของสหภาพฯซึ่งไทย ออสเตรเลียและบราซิลได้แถลงชัดเจนหลายครั้งว่า สิทธิพิเศษดังกล่าวที่ประเทศใดจะพึงมีพึงได้จากสหภาพฯ นั้นไม่ใช่ประเด็นของคดีนี้ กล่าวถือ หากสหภาพฯ แพ้คดีก็ยังคงให้สิทธิพิเศษดังกล่าวได้อย่างครบถ้วนต่อไปแต่จะต้องปรับระบอบน้ำตาลของตนเองซึ่งขัดต่อความตกลงขององค์การการค้าโลกให้ถูกต้องเท่านั้น
--สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ--
-ชพ/พห-