(ต่อ4)ภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาสสอง ปี 2547 และแนวโน้มปี 2547-2548

ข่าวเศรษฐกิจ Friday September 10, 2004 16:28 —สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

        4. สมมติฐานประมาณการปี 2547
4.1 เศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจโลกขยายตัวร้อยละ 4.4 สูงกว่าร้อยละ 3.9 ในปี 2546 ไม่เปลี่ยนแปลงไปจากข้อสมมุติฐานในการประมาณการเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2547 แม้ว่าราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจะเพิ่มสูงขึ้นกว่าในการประเมินครั้งก่อน ทั้งนี้เนื่องจากมีการปรับข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดสำหรับไตรมาสแรกของหลายประเทศสูงขึ้น และข้อ มูลการขยายตัวไตรมาสที่สองสูงกว่าที่คาดไว้เดิม จากความแข็งแกร่งของความต้องการภายในประเทศ และการส่งออกที่เพิ่มขึ้นมากโดยเฉพาะในกรณีของประเทศญี่ปุ่น จีน และกลุ่มประเทศในเอเชีย โดยที่ผลกระทบราคาน้ำมันในปี 2547 นี้ยังมีไม่มาก โดยที่ยังคาดว่าการปรับตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และ จีนจะค่อยเป็นค่อยไป โดยไม่เกิดการชะลอตัวอย่างรุนแรง (Hard landing) เนื่องจากการสอบสวนการทุ่มตลาดกุ้งของสหรัฐฯ สำหรับประเทศส่งออกกุ้งสำคัญได้นำไปสู่การปรับเพิ่มภาษีนำเข้าที่ในอัตราร้อยละ 5.56 - 10.25 สำหรับประเทศไทยซึ่งสูงกว่าร้อยละ 6.08 - 9.35 สำหรับเอกวาดอร์ รวมทั้งการเรียกเก็บอากรย้อนหลังเป็นเวลา 90 วัน ที่ทำให้เร่งการส่งออกไปแล้วในช่วงต้นปี
สำหรับการส่งออกอาหารกระป๋อง ยังประสบปัญหาต้นทุนเหล็กที่ใช้ทำกระป๋องสูงขึ้นและขาดแคลน และการส่งออกปลากระป๋องทูน่ากระป๋องที่ยังมีปัญหาเรื่องสารไน-โตรฟูแรนตกค้าง รวมทั้งปัญหาการขาดแคลนปลาทูน่าที่เป็นวัตถุดิบ เป็นต้น
(1) ในกรณีของสหรัฐฯ แม้จะมีแนวโน้มที่จะขึ้นดอกเบี้ย แต่จะเป็นการขึ้นดอกเบี้ยที่ค่อยเป็นค่อยไปและจะเป็นการขึ้นดอกเบี้ยจากฐานที่ต่ำ ซึ่งต่างจากสถานการณ์ในปี 2538-2539 ซึ่งปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยขึ้นมากถึงประมาณ 300 จุดจากฐานอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าในปัจจุบัน จึงเกิดการปรับตัวของตลาดทุนที่รุนแรง
(2) การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนจะไม่รุนแรง แม้ว่าการลงทุนที่มากเกินไปแสดงถึงความร้อนแรงของเศรษฐกิจ แต่เมื่อพิจารณาในรายละเอียดจะเห็นว่า สาขาที่มีลงทุนมากและจะเกิดเป็นกำลังการผลิตส่วนเกิน ประกอบด้วย สาขาการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เหล็กกล้า อะลูมิเนียม และซีเมนต์ ซึ่งเป็นสาขาที่รัฐบาลเริ่มควบคุมด้านสินเชื่อมากขึ้น จึงเป็นการแก้ปัญหาเพื่อลดความร้อนแรงเฉพาะจุด และผลกระทบที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นต่อสินค้าทุนมากกว่าการจ้างงานที่จะมีผลต่อเนื่องต่อการใช้จ่ายครัวเรือน ที่จะไปสู่การปรับตัวชะลอลงอย่างรุนแรงของเศรษฐกิจ นอกจากนั้นจะเห็นการส่งออกของประเทศจีนยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องและแข่งขันได้มากขึ้นในกลุ่มสินค้าที่ใช้แรงงานเป็นหลัก ประกอบกับรายได้จากการเกษตรเพิ่มขึ้น ปัจจัยเหล่านี้จะช่วยพยุงให้การชะลอตัวของเศรษฐกิจไม่รุนแรง และที่สำคัญรัฐบาลจีนได้ยืนยันชัดเจนว่าจะไม่ดำเนินมาตรการที่แตกต่างไปจากที่ดำเนินการแล้วเรื่องการเพิ่มสัดส่วนสำรอง และการลดการขยายสินเชื่อแก่สาขาเศรษฐกิจที่มีความกังวลว่าจะร้อนแรงเกินไป เป็นต้น
4.2 ราคาน้ำมันดิบโอมาน ปรับเพิ่มข้อสมมุติฐานราคาน้ำมันดิบแหล่งโอมานจากบาเรลละ 32.0 ดอลลาร์ในการประมาณ ณ วันที่ 7 มิถุนายน เป็นบาเรลละ 34.0 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 25.32 จากราคาเฉลี่ยในปี 2546 ตามความเคลื่อนไหวราคาน้ำมันดิบล่าสุดที่เพิ่มสูงขึ้นกว่าที่คาดไว้เดิม โดยเฉพาะปัญหาด้านการผลิตในประเทศรัสเซียและเวเนซูเอลา และการเก็งกำไรราคาน้ำมันในตลาดซื้อขายล่วงหน้าที่ส่วนหนึ่งสะท้อนถึงปัจจัยด้านจิตวิทยาอันเนื่องมาจากสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศอิรัก อย่างไรก็ตามยังคงคาดการณ์ความเคลื่อนไหวราคาน้ำมันในทิศทางที่ลดลงในช่วงปลายปีตามการชะลอตัวของความต้องการใช้น้ำมันในช่วงเศรษฐกิจโลกชะลอตัวโดยที่ราคาน้ำมันดิบอ้างอิงจากแหล่งโอมานเฉลี่ยเท่ากับ 32.93 ใน 8 เดือนแรก และคาดว่าจะทรงอยู่ในระดับ 37.40 ดอลลาร์ต่อบาเรลในเดือนกันยายนเท่ากับในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และแนวโน้มปริมาณการผลิตที่จะเพิ่มขึ้นเร็วกว่าความต้องการที่เพิ่มขึ้นทำให้คาดว่าราคาเฉลี่ย ในไตรมาสสุดท้ายลดลงเป็น 35.5 ดอลลาร์ต่อบาเรลอย่างไรก็ตามเป็นการคาดการณ์ราคาที่ไม่ลดลงมากเนื่องจากยังมีปัญหาเรื่องความไม่สงบในประเทศอิรักที่เป็นอุปสรรคต่อการผลิต ประกอบกับเข้าสู่ช่วงหน้าหนาวในกลุ่มประเทศในทวีปอเมริกาและยุโรปที่จะทำให้ความต้องการใช้พลังงานเพื่อทำความอบอุ่นเพิ่มขึ้นอีก แม้ว่า การสะสมสะต็อคน้ำมันในเชิงพาณิชย์ของกลุ่มประเทศ OECD จะเริ่มเพิ่มขึ้นแล้วก็ตาม
4.3 รัฐบาลยังคงตรึงราคาดีเซล ณ ระดับปัจจุบันลิตรละ 14.59 บาทจนถึงสิ้นปีเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจ สำหรับราคาขายปลีกน้ำมันเบนซิน 91 และ 95 คงอยู่ในระดับปัจจุบันลิตรละ 20.78 และ 21.79 บาทไปอีก 2 เดือน ซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่าราคาที่แท้จริง และจะเริ่มมีการปรับลดราคาขายปลีกลงใกล้เคียงกับราคาที่แท้จริงมากขึ้นตามการลดลงของราคาน้ำมันดิบในช่วงปลายปี ดังนั้นราคาเฉลี่ยตลอดปี 2547 ของน้ำมันดีเซล เบนซิน 91 และ 95 จะเท่ากับ 14.59 18.30 และ 19.16 บาทตามลำดับ
4.4 ราคาสินค้าส่งออกในรูปเงินดอลลาร์ สรอ. เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.0 ปรับเพิ่มจากร้อยละ 14.0 ในการประเมินครั้งก่อน เนื่องจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นสูงทำให้ราคาส่งออกในช่วง 7 เดือนแรกทรงตัวอยูในระดับสูงรวมทั้งราคาสินค้าเกษตรที่ชะลอตัวเพียงช้า ๆ โดยที่ราคาสินค้าส่งออกในทุกหมวดทั้งราคาสินค้าเกษตร สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และสินค้าอุตสาหกรรมและเป็นการเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงกว่าในปี 2546 ราคาสินค้านำเข้าโดยเฉลี่ยทั้งปี 2547 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 14 สูงกว่าร้อยละ 11 จากการประมาณการเดิมจากแนวโน้มราคาสินค้าส่งออกและสินค้านำเข้าแสดงว่าประเทศไทยยังมีโอกาสได้เปรียบอัตราการค้า (term of trade) แต่เป็นการได้เปรียบอัตราการค้าที่ลดลงกว่าที่คาดไว้เดิมในเดือนมิถุนายนเนื่องจากราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นมาก
4.5 ไม่สามารถส่งออกไก่สดแช่แข็งได้จนถึงสิ้นปี 2547 ในขณะที่การส่งออกกุ้งไปยังสหรัฐฯ ได้รับผลกระทบจากการขึ้นภาษีนำเข้า ที่ทำให้ประเทศไทยแข่งขันกับผู้ผลิตภายในประเทศสหรัฐฯและประเทศผู้ส่งออกที่ถูกเรียกเก็บภาษีในอัตราที่ต่ำกว่า อาทิ เอกวาดอร์ ได้ลำบากขึ้น
(ยังมีต่อ).../5.แนวโน้ม..

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ