คณะอนุกรรมการโครงการศึกษา เพื่อการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ภายใต้คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการปัญหาน้ำท่วมในลุ่มน้ำเจ้าพระยาโดยได้ว่าจ้าง AIT เป็นบริษัทที่ปรึกษาในการศึกษาการจัดกาาน้ำท่วมภายใต้โครงการศึกษาเพื่อการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา
ม.ล.เชิงชาญ กำภู ประธานอนุกรรมการโครงการศึกษาเพื่อการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ชี้ว่า ตามข้อเท็จจริงภาวะน้ำท่วมเมื่อเกิดขึ้นแล้วจะสร้างความเสียหายกับเศรษฐกิจและสังคมของประเทศมากกว่าภาวะน้ำแล้ง ด้วยเหตุนี้ คณะอนุกรรมการฯ จึงเห็นว่าในการพิจารณาจัดระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ควรพิจารณาระบบการบริหารจัดการปัญหาน้ำท่วมควบคู่กันไป อย่างไรก็ดี เนื่องจากการบริหารจัดการปัญหาน้ำท่วมมีความแตกต่างจากการบริหารจัดการปัญหาน้ำขาดแคลนอย่างสิ้นเชิง ดังนั้นคณะอนุกรรมการฯ จึงได้ดำเนินการศึกษาเพื่อการจัดการน้ำท่วมในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นการเฉพาะโดยถือเป็นส่วนหนึ่งของโครงการการศึกษาเพื่อการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา
ในการศึกษาการจัดการน้ำท่วมภายใต้โครงการศึกษา เพื่อการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยานี้ คณะอนุกรรมการฯ ได้ว่าจ้งสถาบัน AIT เป็นบริษัทที่ปรึกษา โดยจะใช้เวลาในการศึกษา 3 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2539 เป็นต้นไป ทั้งนี้ธนาคารโลกได้ให้การสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการศึกษา โดยจัดสรรเงินส่วนหนึ่งจำนวน 125,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 3,128,000 บาท) จากจำนวนเงินที่ให้การสนับสนุนกับโครงการศึกษาเพื่อการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา
สำหรับขอบเขตการศึกษาการจัดการน้ำท่วม ภายใต้โครงการศึกษาเพื่อการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา จะเป็นการศึกษาการบริหารจัดการน้ำท่วมในภาพรวม โดยจะพิจารณาถึงลุ่มน้ำอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องและที่อาจจะเกิดขึ้นกับสภาวะแวดล้อม ทั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดยุทธศาสตร์ การบริหารจัดการน้ำท่วมในลุ่มน้ำเจ้าพระยาอย่างสมบูรณ์แบบ และเพื่อจัดลำดับแผนงานโครงการทั้งที่กำลังดำเนินการอยู่และที่วางแผนไว้เพื่อนำไปสู่การนำเสนอแผนปฏิบัติการที่สามารถนำไปปฎิบัติได้และเห็นผลอย่างแท้จริงต่อไป
--ข่าวการพัฒนา กองศึกษาและเผยแพร่การพัฒนา สนง.คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ปีที่ 13 ฉบับที่ 8 / สิงหาคม 2539--
ม.ล.เชิงชาญ กำภู ประธานอนุกรรมการโครงการศึกษาเพื่อการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ชี้ว่า ตามข้อเท็จจริงภาวะน้ำท่วมเมื่อเกิดขึ้นแล้วจะสร้างความเสียหายกับเศรษฐกิจและสังคมของประเทศมากกว่าภาวะน้ำแล้ง ด้วยเหตุนี้ คณะอนุกรรมการฯ จึงเห็นว่าในการพิจารณาจัดระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ควรพิจารณาระบบการบริหารจัดการปัญหาน้ำท่วมควบคู่กันไป อย่างไรก็ดี เนื่องจากการบริหารจัดการปัญหาน้ำท่วมมีความแตกต่างจากการบริหารจัดการปัญหาน้ำขาดแคลนอย่างสิ้นเชิง ดังนั้นคณะอนุกรรมการฯ จึงได้ดำเนินการศึกษาเพื่อการจัดการน้ำท่วมในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นการเฉพาะโดยถือเป็นส่วนหนึ่งของโครงการการศึกษาเพื่อการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา
ในการศึกษาการจัดการน้ำท่วมภายใต้โครงการศึกษา เพื่อการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยานี้ คณะอนุกรรมการฯ ได้ว่าจ้งสถาบัน AIT เป็นบริษัทที่ปรึกษา โดยจะใช้เวลาในการศึกษา 3 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2539 เป็นต้นไป ทั้งนี้ธนาคารโลกได้ให้การสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการศึกษา โดยจัดสรรเงินส่วนหนึ่งจำนวน 125,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 3,128,000 บาท) จากจำนวนเงินที่ให้การสนับสนุนกับโครงการศึกษาเพื่อการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา
สำหรับขอบเขตการศึกษาการจัดการน้ำท่วม ภายใต้โครงการศึกษาเพื่อการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา จะเป็นการศึกษาการบริหารจัดการน้ำท่วมในภาพรวม โดยจะพิจารณาถึงลุ่มน้ำอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องและที่อาจจะเกิดขึ้นกับสภาวะแวดล้อม ทั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดยุทธศาสตร์ การบริหารจัดการน้ำท่วมในลุ่มน้ำเจ้าพระยาอย่างสมบูรณ์แบบ และเพื่อจัดลำดับแผนงานโครงการทั้งที่กำลังดำเนินการอยู่และที่วางแผนไว้เพื่อนำไปสู่การนำเสนอแผนปฏิบัติการที่สามารถนำไปปฎิบัติได้และเห็นผลอย่างแท้จริงต่อไป
--ข่าวการพัฒนา กองศึกษาและเผยแพร่การพัฒนา สนง.คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ปีที่ 13 ฉบับที่ 8 / สิงหาคม 2539--