เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายพิชัย รัตตกุล รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดระบบศูนย์ราชการ ครั้งที่ 1/2542 ณ ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล
ผลการประชุมดังกล่าว ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการอำนวยการจัดระบบศูนย์ราชการได้สรุปมติที่ประชุมนำเสนอคณะรัฐมนตรีรับทราบ ทั้งนี้ มีมติที่สำคัญรวม 3 เรื่อง ดังนี้
1. โครงการก่อสร้างศูนย์ราชการจังหวัดนครปฐม
ที่ประชุมได้พิจารณาเปรียบเทียบความเหมาะสมด้านการลงทุนระหว่างพื้นที่ทัณฑสถานเปิดวังตะกูและบริษัทอาร์เค โปรเฟสชั่นนัล จำกัด แล้วปรากฎว่า การลงทุนในพื้นที่ทัณฑสถานเปิดวังตะกูสูงกว่าการลงทุนในพื้นที่ของ บริษัท อาร์เค โปรเฟสชั่นนัล จำกัด กล่าวคือ การลงทุนในพื้นที่ทัณฑสถานเปิดวังตะกู จะมีค่าใช้จ่ายในการรื้อย้ายค่าจัดซื้อที่ดินติดถนนใหญ่ด้านหน้า ค่าจัดซื้อที่ดินเพิ่มเติมด้านหลัง ค่าถมที่ดิน ค่าก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค น้ำประปา ไฟฟ้า โทรศัพท์ และค่าขนย้ายเรือนจำนครปฐมแห่งใหม่ เป็นวงเงินลงทุนทั้งสิ้น 1,358 ล้านบาท
ส่วนการลงทุนในพื้นที่ของบริษัท อาร์เค โปรเฟสชั่นนัล จำกัด นั้น ประกอบด้วย ค่าถมดินและพัฒนาพื้นที่ 120 ไร่ ค่าก่อสร้างสาธารณูปโภค น้ำประปา ไฟฟ้า โทรศัพท์ ค่าปรับปรุงขยายถนนด้านหน้าจากถนนเพชรเกษมถึงบริเวณที่จะเป็นศูนย์ราชการใหม่และค่าก่อสร้างอาคารศูนย์ราชการ รวมเป็นวงเงินลงทุนทั้งสิ้น 515.8 ล้านบาทเท่านั้น
ดังนั้น ที่ประชุมจึงมีมติเห็นชอบให้ใช้พื้นที่บริจาคของบริษัท อาร์เค โปรเฟสชั่นนัล จำกัด เป็นที่ตั้งศูนย์ราชการจังหวัดนครปฐมได้ และมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย โดยคณะอนุกรรมการจัดวางผังแม่บทศูนย์ราชการส่วนภูมิภาครับไปดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
2. ผังแม่บทศูนย์ราชการและแผนปฏิบัติตามผังแม่บทในเมือง : ขอนแก่น ที่ประชุมมีมติดังนี้
2.1 เห็นชอบในหลักการผังแม่บทศูนย์ราชการและแผนปฏิบัติการตามผังแม่บทเมืองหลักภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : ขอนแก่น
2.2 มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินงานให้เป็นไปตามผังแม่บทโดย
(1) ให้กรมการผังเมืองดำเนินการปรับปรุงผังเมืองรวมในบริเวณศูนย์ราชการและพื้นที่ต่อเนื่อง
(2) ให้กรมโยธาธิการออกแบบรายละเอียดให้เป็นไปตามผังแม่บท
(3) สำหรับศูนย์บ้านพักให้การเคหะแห่งชาติรับไปดำเนินการต่อไป
3. การปรับผังแม่บทศูนย์ราชการจังหวัดหนองบัวลำภู
ที่ประชุมเห็นชอบกับการปรับผังแม่บทศูนย์ราชการจังหวัดหนองบัวลำภูตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ โดยตามข้อกำหนดของรัฐธรรมนูญให้แยกศาลยุติธรรมออกจากกระทรวงยุติธรรม และผู้พิพากษาต้องนั่งพิจารณาครบองค์คณะทุกครั้ง ดังนั้น จึงมีมติให้ขยายอาคารศาลเพิ่มเป็น 3 หลัง และขยายพื้นที่ศูนย์บ้านพักข้าราชการตุลาการเป็น 33 ไร่ 32 ตารางวา
--ข่าวการพัฒนา กองศึกษาและเผยแพร่การพัฒนา สนง.คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ปีที่ 16 ฉบับที่ 5/พฤษภาคม 2542--
ผลการประชุมดังกล่าว ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการอำนวยการจัดระบบศูนย์ราชการได้สรุปมติที่ประชุมนำเสนอคณะรัฐมนตรีรับทราบ ทั้งนี้ มีมติที่สำคัญรวม 3 เรื่อง ดังนี้
1. โครงการก่อสร้างศูนย์ราชการจังหวัดนครปฐม
ที่ประชุมได้พิจารณาเปรียบเทียบความเหมาะสมด้านการลงทุนระหว่างพื้นที่ทัณฑสถานเปิดวังตะกูและบริษัทอาร์เค โปรเฟสชั่นนัล จำกัด แล้วปรากฎว่า การลงทุนในพื้นที่ทัณฑสถานเปิดวังตะกูสูงกว่าการลงทุนในพื้นที่ของ บริษัท อาร์เค โปรเฟสชั่นนัล จำกัด กล่าวคือ การลงทุนในพื้นที่ทัณฑสถานเปิดวังตะกู จะมีค่าใช้จ่ายในการรื้อย้ายค่าจัดซื้อที่ดินติดถนนใหญ่ด้านหน้า ค่าจัดซื้อที่ดินเพิ่มเติมด้านหลัง ค่าถมที่ดิน ค่าก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค น้ำประปา ไฟฟ้า โทรศัพท์ และค่าขนย้ายเรือนจำนครปฐมแห่งใหม่ เป็นวงเงินลงทุนทั้งสิ้น 1,358 ล้านบาท
ส่วนการลงทุนในพื้นที่ของบริษัท อาร์เค โปรเฟสชั่นนัล จำกัด นั้น ประกอบด้วย ค่าถมดินและพัฒนาพื้นที่ 120 ไร่ ค่าก่อสร้างสาธารณูปโภค น้ำประปา ไฟฟ้า โทรศัพท์ ค่าปรับปรุงขยายถนนด้านหน้าจากถนนเพชรเกษมถึงบริเวณที่จะเป็นศูนย์ราชการใหม่และค่าก่อสร้างอาคารศูนย์ราชการ รวมเป็นวงเงินลงทุนทั้งสิ้น 515.8 ล้านบาทเท่านั้น
ดังนั้น ที่ประชุมจึงมีมติเห็นชอบให้ใช้พื้นที่บริจาคของบริษัท อาร์เค โปรเฟสชั่นนัล จำกัด เป็นที่ตั้งศูนย์ราชการจังหวัดนครปฐมได้ และมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย โดยคณะอนุกรรมการจัดวางผังแม่บทศูนย์ราชการส่วนภูมิภาครับไปดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
2. ผังแม่บทศูนย์ราชการและแผนปฏิบัติตามผังแม่บทในเมือง : ขอนแก่น ที่ประชุมมีมติดังนี้
2.1 เห็นชอบในหลักการผังแม่บทศูนย์ราชการและแผนปฏิบัติการตามผังแม่บทเมืองหลักภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : ขอนแก่น
2.2 มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินงานให้เป็นไปตามผังแม่บทโดย
(1) ให้กรมการผังเมืองดำเนินการปรับปรุงผังเมืองรวมในบริเวณศูนย์ราชการและพื้นที่ต่อเนื่อง
(2) ให้กรมโยธาธิการออกแบบรายละเอียดให้เป็นไปตามผังแม่บท
(3) สำหรับศูนย์บ้านพักให้การเคหะแห่งชาติรับไปดำเนินการต่อไป
3. การปรับผังแม่บทศูนย์ราชการจังหวัดหนองบัวลำภู
ที่ประชุมเห็นชอบกับการปรับผังแม่บทศูนย์ราชการจังหวัดหนองบัวลำภูตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ โดยตามข้อกำหนดของรัฐธรรมนูญให้แยกศาลยุติธรรมออกจากกระทรวงยุติธรรม และผู้พิพากษาต้องนั่งพิจารณาครบองค์คณะทุกครั้ง ดังนั้น จึงมีมติให้ขยายอาคารศาลเพิ่มเป็น 3 หลัง และขยายพื้นที่ศูนย์บ้านพักข้าราชการตุลาการเป็น 33 ไร่ 32 ตารางวา
--ข่าวการพัฒนา กองศึกษาและเผยแพร่การพัฒนา สนง.คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ปีที่ 16 ฉบับที่ 5/พฤษภาคม 2542--