เมื่อเร็วๆนี้ฯพณฯ รองนายกรัฐมนตรี พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาคและท้องถิ่น (กนภ.) ครั้งที่ 5/2539 ณ ห้องประชุมเดชสนิทวงศ์ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)
ในการประชุมครั้งนี้ ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบในเรื่องสำคัญ 2 เรื่อง ดังนี้
1. เห็นชอบกับข้อเสนอแนวทางการดำเนินงานโครงการพัฒนาตำบล ปี 2540 ซึ่งเป็นข้อเสนอที่ได้จากผลการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานตามนโยบายกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาคของรัฐบาลในส่วนของการดำเนินโครงการพัฒนาตำบลโดย สศช. ในฐานะฝ่ายเลขานุการของ กนภ.ได้มอบหมายให้มหาวิทยาลัย4แห่ง ได้แก่ มหาวิทยาลัยเกษตร-ศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นผู้ดำเนินการรวมทั้งจากการที่สศช.ได้จัดสัมมนาระดมความคิดเห็นซึ่งผลที่ได้จากการดำเนินการทั้ง 2 แนวทางดังกล่าว สรุปได้ว่าโครงการพัฒนาตำบลเป็นโครงการที่มีประโยชน์ต่อนโยบายกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาค และยังสอดคล้องกับแนวนโยบายของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 8 ที่เน้นคนเป็นศูนย์กลางของการพัฒนา จึงเป็นโครงการที่ควรได้รับการสนับสนุนต่อไป โดยควรมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบและประเภทของโครงการให้สอดคล้องกับปัญหาและความต้องการของชุมชนในท้องถิ่นกล่าวคือกรอบประเภทของโครงการควรจะเปิดกว้างขึ้นโดยให้ความสำคัญในด้านต่างๆคือ ควรเป็นโครงการของชุมชนมากกว่าจะเป็นโครงการเล็กๆ เพียงจุดใดจุดหนึ่ง และเป็นโครงการที่มีส่วนในการพัฒนาองค์กรท้องถิ่นและพัฒนาบุคลากรหรือผู้นำท้องถิ่นรวมทั้งการหลีกเลี่ยงความซ้ำซ้อนกับโครงการของหน่วยงานอื่นด้วยสำหรับในส่วนของการจัดสรรงบประมาณเพื่อสนับสนุนโครงการพัฒนาตำบลนั้นควรพิจารณาถึงความจำเป็นของพื้นที่ตามสภาพเศรษฐกิจและสังคมเป็นเกณฑ์ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ของรัฐจะต้องปรับเปลี่ยนบทบาทจากผู้ควบคุมมาเป็นผู้แนะนำและให้คำปรึกษามากขึ้นและเข้าไปสนับสนุนในสิ่งที่สภาตำบลหรือองค์การบริหารส่วนตำบลไม่สามารถดำเนินการได้ ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมการอำนวยการโครงการพัฒนาตำบลรับข้อเสนอแนวทางการดำเนินงานโครงการพัฒนาตำบลดังกล่าว รวมทั้งข้อสังเกตจากที่ประชุมครั้งนี้ไปพิจารณาจัดทำแนวทางการดำเนินโครงการพัฒนาตำบล ตั้งแต่ปี 2540 เป็นต้นไป
2. เห็นชอบกับแนวทางการจัดสรรงบประมาณของศูนย์บริการเกษตรกรเคลื่อนที่ ตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการฯโดยเห็นควรให้นำงบประมาณรายจ่ายร้อยละ25 ของงานศูนย์บริการเกษตรกรเคลื่อนที่ไปใช้จ่ายได้ในกรณีฉุกเฉินหรือเพื่อแก้ไขปัญหาเร่งด่วนตามเดิม แต่ให้มีการกำหนดหลักเกณฑ์ในการจัดสรรงบประมาณร้อยละ25เสียใหม่โดยพิจารณาจากความเดือดร้อนของพื้นที่ที่ประสบภัยธรรมชาติสภาพความเหมาะสมของพื้นที่และการกระจายงบประมาณอย่างเป็นธรรม โดยเห็นควรจัดตั้งคณะกรรมการจัดสรรงบประมาณลงพื้นที่เพื่อทำหน้าที่พิจารณาตามหลักเกณฑ์ข้างต้นภายใต้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมี ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานและมีผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติสำนักงบประมาณ กรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นฝ่ายเลขานุการต่อไป
--ข่าวการพัฒนา กองศึกษาและเผยแพร่การพัฒนา สนง.คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ปีที่ 13 ฉบับที่ 10/ตุลาคม 2539--
ในการประชุมครั้งนี้ ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบในเรื่องสำคัญ 2 เรื่อง ดังนี้
1. เห็นชอบกับข้อเสนอแนวทางการดำเนินงานโครงการพัฒนาตำบล ปี 2540 ซึ่งเป็นข้อเสนอที่ได้จากผลการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานตามนโยบายกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาคของรัฐบาลในส่วนของการดำเนินโครงการพัฒนาตำบลโดย สศช. ในฐานะฝ่ายเลขานุการของ กนภ.ได้มอบหมายให้มหาวิทยาลัย4แห่ง ได้แก่ มหาวิทยาลัยเกษตร-ศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นผู้ดำเนินการรวมทั้งจากการที่สศช.ได้จัดสัมมนาระดมความคิดเห็นซึ่งผลที่ได้จากการดำเนินการทั้ง 2 แนวทางดังกล่าว สรุปได้ว่าโครงการพัฒนาตำบลเป็นโครงการที่มีประโยชน์ต่อนโยบายกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาค และยังสอดคล้องกับแนวนโยบายของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 8 ที่เน้นคนเป็นศูนย์กลางของการพัฒนา จึงเป็นโครงการที่ควรได้รับการสนับสนุนต่อไป โดยควรมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบและประเภทของโครงการให้สอดคล้องกับปัญหาและความต้องการของชุมชนในท้องถิ่นกล่าวคือกรอบประเภทของโครงการควรจะเปิดกว้างขึ้นโดยให้ความสำคัญในด้านต่างๆคือ ควรเป็นโครงการของชุมชนมากกว่าจะเป็นโครงการเล็กๆ เพียงจุดใดจุดหนึ่ง และเป็นโครงการที่มีส่วนในการพัฒนาองค์กรท้องถิ่นและพัฒนาบุคลากรหรือผู้นำท้องถิ่นรวมทั้งการหลีกเลี่ยงความซ้ำซ้อนกับโครงการของหน่วยงานอื่นด้วยสำหรับในส่วนของการจัดสรรงบประมาณเพื่อสนับสนุนโครงการพัฒนาตำบลนั้นควรพิจารณาถึงความจำเป็นของพื้นที่ตามสภาพเศรษฐกิจและสังคมเป็นเกณฑ์ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ของรัฐจะต้องปรับเปลี่ยนบทบาทจากผู้ควบคุมมาเป็นผู้แนะนำและให้คำปรึกษามากขึ้นและเข้าไปสนับสนุนในสิ่งที่สภาตำบลหรือองค์การบริหารส่วนตำบลไม่สามารถดำเนินการได้ ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมการอำนวยการโครงการพัฒนาตำบลรับข้อเสนอแนวทางการดำเนินงานโครงการพัฒนาตำบลดังกล่าว รวมทั้งข้อสังเกตจากที่ประชุมครั้งนี้ไปพิจารณาจัดทำแนวทางการดำเนินโครงการพัฒนาตำบล ตั้งแต่ปี 2540 เป็นต้นไป
2. เห็นชอบกับแนวทางการจัดสรรงบประมาณของศูนย์บริการเกษตรกรเคลื่อนที่ ตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการฯโดยเห็นควรให้นำงบประมาณรายจ่ายร้อยละ25 ของงานศูนย์บริการเกษตรกรเคลื่อนที่ไปใช้จ่ายได้ในกรณีฉุกเฉินหรือเพื่อแก้ไขปัญหาเร่งด่วนตามเดิม แต่ให้มีการกำหนดหลักเกณฑ์ในการจัดสรรงบประมาณร้อยละ25เสียใหม่โดยพิจารณาจากความเดือดร้อนของพื้นที่ที่ประสบภัยธรรมชาติสภาพความเหมาะสมของพื้นที่และการกระจายงบประมาณอย่างเป็นธรรม โดยเห็นควรจัดตั้งคณะกรรมการจัดสรรงบประมาณลงพื้นที่เพื่อทำหน้าที่พิจารณาตามหลักเกณฑ์ข้างต้นภายใต้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมี ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานและมีผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติสำนักงบประมาณ กรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นฝ่ายเลขานุการต่อไป
--ข่าวการพัฒนา กองศึกษาและเผยแพร่การพัฒนา สนง.คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ปีที่ 13 ฉบับที่ 10/ตุลาคม 2539--