นายอุทิศ ขาวเธียร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการอำนวยการการจัดระบบศูนย์ราชการ และผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมการอำนวยการจัดระบบศูนย์ราชการ เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดระบบศูนย์ราชการซึ่งมี นายพิชัย รัตตกุล รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานฯ เมื่อวันที่ 29 มีนาคม ศกนี้ว่า ที่ประชุมได้ให้ความเห็นชอบผังแม่บทศูนย์ราชการและแผนปฎิบัติการตามผังแม่บทของจังหวัดกระบี่ ที่ได้กำหนดให้พื้นที่บริเวณศาลากลางจังหวัดปัจจุบันซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 127 ไร่ เป็นศูนย์ราชการหลัก และพื้นที่บริเวณคลองจิหลาด ตำบลไสไทย อำเภอเมือง บริเวณด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ของศูนย์ราชการหลัก ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 650 ไร่ เป็นศูนย์ราชการรอง โดยแบ่งพื้นที่ใช้ประโยชน์ของอาคารและกลุ่มอาคารของส่วนราชการต่าง ๆ รวม 24 หน่วยงาน ประมาณ 200 ไร่ ส่วนพื้นที่ ๆ เหลือนำไปใช้ประโยชน์ในด้านอื่น
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มีข้อสังเกตเพิ่มเติมเห็นควรให้จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการด้านการบริการจัดการพื้นที่สงวนและฟื้นฟูระบบนิเวศป่าชายเลน และด้านมลภาวะบริเวณท่าเทียบเรือในเขตพื่นที่ศูนย์ราชการรองอย่างเข้มงวดจริงจัง ตลอดจนเห็นควรให้กรมป่าไม้ถอนสภาพป่าในส่วนที่ไม่ใช่เขตพื้นที่ป่าชายเลน เพื่อเป็นที่ตั้งของศูนย์ราชการ แล้วมอบให้กรมธนารักษ์ดำเนินการบริหารจัดการในพื้นที่ดังกล่าวต่อไป รวมทั้งให้มีการทบทวนปริมาณการสร้างบ้านพักของราชการ ให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงจำนวนข้าราชการที่จะมีอยู่จริงในอนาคตต่อไป
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังให้ความเห็นชอบแผนการดำเนินงานตามผังแม่บทศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ โดยมีระยะเวลาดำเนินการรวม 12 ปี ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2543-2544 โดยให้ดำเนินการก่อสร้างระยะแรกซึ่งมีหน่วยงานต่าง ๆ รวม 20 หน่วยงานและองค์กรที่เกิดขึ้นตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ก่อน ตลอดจนให้มีการก่อสร้างอาคารที่ส่งเสริมเอกลักษณ์ไทย มีเส้นทางรถจักรยานภายในศูนย์ราชการและระบบการเชื่อมโยงโครงข่ายกาาจราจรรวมทั้งให้สำนักงบประมาณพิจารณาเงินค่าชดเชยการโยกย้ายหน่วยงานของกรมทางหลวงออกจากพื้นที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะต่อไป
สำหรับการพิจารณาผังแม่บทศูนย์ราชการของจังหวัดระยองนั้น ที่ประชุมได้มีมติให้มีการศึกษาทบทวนทางเลือกสถานที่ตั้งของศูนย์ราชการเพิ่มเติม แล้วนำผลการศึกษาดังกล่าวเสนอให้คณะกรรมการอำนวยการจัดระบบศูนย์ราชการพิจารณาในการประชุมครั้งต่อไป
-ข่าวการพัฒนา กองศึกษาและเผยแพร่การพัฒนา สนง.คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ปีที่ 17 ฉบับที่ 4/เมษายน 2543--
-สส-
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มีข้อสังเกตเพิ่มเติมเห็นควรให้จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการด้านการบริการจัดการพื้นที่สงวนและฟื้นฟูระบบนิเวศป่าชายเลน และด้านมลภาวะบริเวณท่าเทียบเรือในเขตพื่นที่ศูนย์ราชการรองอย่างเข้มงวดจริงจัง ตลอดจนเห็นควรให้กรมป่าไม้ถอนสภาพป่าในส่วนที่ไม่ใช่เขตพื้นที่ป่าชายเลน เพื่อเป็นที่ตั้งของศูนย์ราชการ แล้วมอบให้กรมธนารักษ์ดำเนินการบริหารจัดการในพื้นที่ดังกล่าวต่อไป รวมทั้งให้มีการทบทวนปริมาณการสร้างบ้านพักของราชการ ให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงจำนวนข้าราชการที่จะมีอยู่จริงในอนาคตต่อไป
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังให้ความเห็นชอบแผนการดำเนินงานตามผังแม่บทศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ โดยมีระยะเวลาดำเนินการรวม 12 ปี ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2543-2544 โดยให้ดำเนินการก่อสร้างระยะแรกซึ่งมีหน่วยงานต่าง ๆ รวม 20 หน่วยงานและองค์กรที่เกิดขึ้นตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ก่อน ตลอดจนให้มีการก่อสร้างอาคารที่ส่งเสริมเอกลักษณ์ไทย มีเส้นทางรถจักรยานภายในศูนย์ราชการและระบบการเชื่อมโยงโครงข่ายกาาจราจรรวมทั้งให้สำนักงบประมาณพิจารณาเงินค่าชดเชยการโยกย้ายหน่วยงานของกรมทางหลวงออกจากพื้นที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะต่อไป
สำหรับการพิจารณาผังแม่บทศูนย์ราชการของจังหวัดระยองนั้น ที่ประชุมได้มีมติให้มีการศึกษาทบทวนทางเลือกสถานที่ตั้งของศูนย์ราชการเพิ่มเติม แล้วนำผลการศึกษาดังกล่าวเสนอให้คณะกรรมการอำนวยการจัดระบบศูนย์ราชการพิจารณาในการประชุมครั้งต่อไป
-ข่าวการพัฒนา กองศึกษาและเผยแพร่การพัฒนา สนง.คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ปีที่ 17 ฉบับที่ 4/เมษายน 2543--
-สส-