แท็ก
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เซ็นทรัลพลาซา
นายกรัฐมนตรี
ชวน หลีกภัย
วิสัยทัศน์
บางกอก
เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2543 นายชวน หลีกภัย ฯลฯ นายกรัฐมนตรีได้เป็นประธานเปิดการสัมมนาระดมความคิดระดับชาติ เรื่อง "กรอบวิสัยทัศน์และทิศทางแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 9" จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ณ ห้องประชุมบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา กรุงเทพมหานคร
ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี กล่าวในพิธีเปิดสัมมนาสรุปความสำคัญตอนหนึ่งได้ว่า แนวทางการพัฒนาหลัก ๆ ที่เราเคยคิดกันในอดีตยังคงเหมาะสม เช่น การพัฒนาหลัก ๆ ที่เราเคยคิดกันในอดีตยังคงเหมาะสม เช่น การพัฒนาโดยให้คนเป็นศูนย์กลางยังคงเป็นเรื่องที่ทันสมัยอยู่เสมอ เพราะการพัฒนาทั้งหมดก็เพื่อให้คนมีคุณภาพชีวิตที่ดี หรือเรื่องการให้ความสำคัญกับการศึกษาก็กับการศึกษาก็เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายสนับสนุน แม้ยามวิกฤตที่กระทบต่อรายได้ของประเทศอย่างมาก ทุกฝ่ายก็ยังคงให้การสนับสนุนในเรื่องนี้
สำหรับด้านสาธารณสุข ก็เป็นเรื่องความต้องการอย่างแท้จริงของความต้องการมีหลักประกันของชีวิต โดยเฉพาะในยามเจ็บไข้ได้ป่วย ดังนั้นคณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติอนุมัติระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการปฎิรูปสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่จะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน นอกจากนี้เรื่องการบริหารจัดการที่ดี คงเป็นเรื่องที่มีความสำคัญไม่เฉพาะแต่ภาครัฐ แต่มีความสำคัญไปถึงภาคเอกชนและอื่นๆ โดยเฉพาะเรื่องการกระจายอำนาจการปกครองสู่ท้องถิ่นซึ่งเราคงต้องกระจายอำนาจให้ประชาชนได้ประโยชน์มากขึ้น แนวทางนี้คงเป็นเรื่องที่เหมาะสมและต้องทำต่อไป แต่ทำอย่างไรที่จะให้มีประสิทธิภาพในการดำเนินการอย่างแท้จริง
นายสรรเสริญ วงศ์ชะอุ่ม เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้กล่าวรายงานถึงความเป็นมาและวัตถุประสงค์ของการจัดงานสัมมนาว่าสำนักงานฯ ได้จัดประชุมระดมความคิดจากคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และผู้ทรงคุณวุฒิร่วมกันวางกรอบความคิดเบื้องต้นของแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 9 และได้นำผลจากการประชุมครั้งนั้นใช้เป็นต้นร่างในการระดมความคิดในระดับจังหวัด โดยการจัดให้มีเวทีวิสัยทัศน์แผนฯ 9 ระดับจังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศ ในช่วงเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2543 ซึ่งมีผู้เข้าร่วมประชุมจากทุกภาคส่วนของสังคม ประมาณ 15,000 คน จากนั้นในเดือนมีนาคม พ.ศ.2543 ได้จัดให้มีวิสัยทัศน์ในระดับอนุภาครวม 9 อนุภาค ซึ่งเป็นกระบวนการที่ต่อเนื่องยากระดับจังหวัด มีผู้เข้าร่วมประชุมประมาณ 2,000 คน
สำหรับการจัดสัมมนาครั้งนี้เพื่อนำเสนอร่างวิสัยทัศน์และกรอบการพัฒนาของแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 9 ที่ประมวลมาจากการระดมความคิดเห็นจากระดับจังหวัด และระดับอนุภาคต่อผู้แทนประชาชนและเครือข่ายภาคีการพัฒนาจากทุกส่วนของสังคม เพื่อระดมความคิดเห็นและข้อเสนอแนะแนวทางการปรับปรุงร่างวิสัยทัศน์ และประมวลความคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่ได้รับมาประกอบการจัดทำเป็นวิสัยทัศน์และกรอบการพัฒนาของแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 9 เพื่อนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาในขั้นรายละเอียดต่อไป
-ข่าวการพัฒนา กองศึกษาและเผยแพร่การพัฒนา สนง.คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ปีที่ 17 ฉบับที่ 5/พฤษภาคม 2543--
-สส-
ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี กล่าวในพิธีเปิดสัมมนาสรุปความสำคัญตอนหนึ่งได้ว่า แนวทางการพัฒนาหลัก ๆ ที่เราเคยคิดกันในอดีตยังคงเหมาะสม เช่น การพัฒนาหลัก ๆ ที่เราเคยคิดกันในอดีตยังคงเหมาะสม เช่น การพัฒนาโดยให้คนเป็นศูนย์กลางยังคงเป็นเรื่องที่ทันสมัยอยู่เสมอ เพราะการพัฒนาทั้งหมดก็เพื่อให้คนมีคุณภาพชีวิตที่ดี หรือเรื่องการให้ความสำคัญกับการศึกษาก็กับการศึกษาก็เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายสนับสนุน แม้ยามวิกฤตที่กระทบต่อรายได้ของประเทศอย่างมาก ทุกฝ่ายก็ยังคงให้การสนับสนุนในเรื่องนี้
สำหรับด้านสาธารณสุข ก็เป็นเรื่องความต้องการอย่างแท้จริงของความต้องการมีหลักประกันของชีวิต โดยเฉพาะในยามเจ็บไข้ได้ป่วย ดังนั้นคณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติอนุมัติระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการปฎิรูปสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่จะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน นอกจากนี้เรื่องการบริหารจัดการที่ดี คงเป็นเรื่องที่มีความสำคัญไม่เฉพาะแต่ภาครัฐ แต่มีความสำคัญไปถึงภาคเอกชนและอื่นๆ โดยเฉพาะเรื่องการกระจายอำนาจการปกครองสู่ท้องถิ่นซึ่งเราคงต้องกระจายอำนาจให้ประชาชนได้ประโยชน์มากขึ้น แนวทางนี้คงเป็นเรื่องที่เหมาะสมและต้องทำต่อไป แต่ทำอย่างไรที่จะให้มีประสิทธิภาพในการดำเนินการอย่างแท้จริง
นายสรรเสริญ วงศ์ชะอุ่ม เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้กล่าวรายงานถึงความเป็นมาและวัตถุประสงค์ของการจัดงานสัมมนาว่าสำนักงานฯ ได้จัดประชุมระดมความคิดจากคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และผู้ทรงคุณวุฒิร่วมกันวางกรอบความคิดเบื้องต้นของแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 9 และได้นำผลจากการประชุมครั้งนั้นใช้เป็นต้นร่างในการระดมความคิดในระดับจังหวัด โดยการจัดให้มีเวทีวิสัยทัศน์แผนฯ 9 ระดับจังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศ ในช่วงเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2543 ซึ่งมีผู้เข้าร่วมประชุมจากทุกภาคส่วนของสังคม ประมาณ 15,000 คน จากนั้นในเดือนมีนาคม พ.ศ.2543 ได้จัดให้มีวิสัยทัศน์ในระดับอนุภาครวม 9 อนุภาค ซึ่งเป็นกระบวนการที่ต่อเนื่องยากระดับจังหวัด มีผู้เข้าร่วมประชุมประมาณ 2,000 คน
สำหรับการจัดสัมมนาครั้งนี้เพื่อนำเสนอร่างวิสัยทัศน์และกรอบการพัฒนาของแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 9 ที่ประมวลมาจากการระดมความคิดเห็นจากระดับจังหวัด และระดับอนุภาคต่อผู้แทนประชาชนและเครือข่ายภาคีการพัฒนาจากทุกส่วนของสังคม เพื่อระดมความคิดเห็นและข้อเสนอแนะแนวทางการปรับปรุงร่างวิสัยทัศน์ และประมวลความคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่ได้รับมาประกอบการจัดทำเป็นวิสัยทัศน์และกรอบการพัฒนาของแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 9 เพื่อนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาในขั้นรายละเอียดต่อไป
-ข่าวการพัฒนา กองศึกษาและเผยแพร่การพัฒนา สนง.คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ปีที่ 17 ฉบับที่ 5/พฤษภาคม 2543--
-สส-