รายงานพิเศษ การประเมิณสถานะการณ์เศรษฐกิจปัจจุบันและแนวโน้ม
คณะกรรมการัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจ ได้มีมติเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2543 มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นผู้รับผิดชอบประสานการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดเตรียมข้อมูลภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันและแนวโน้มที่มีความถูกต้อง ครบถ้วน และเป็นข้อมูลจริงเพื่อชี้แจงทำความเข้าใจต่อประชาชนทั่วไปนั้น
ในการนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้จัดการประชุมหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2543 และได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติสรุปผลการหารือเพื่อประเมิณสถานการณ์เศรษฐกิจและแนวโน้มดังกล่าว ซึ่งประกอบด้วยสาระสำคัญดังนี้
1. ภาวะฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและแนวโน้ม
เศรษฐกิจไทยได้มีสัญญาณที่เริ่มฟื้นตัวมาตั้งแต่ต้นปี 2542 โดยมีความชัดเจนมากขึ้นในครึ่งหลังของปี และต่เนื่องมาตลอดช่วง 4 เดือนแรกของปี 2543 ทั้งนี้การฟื้นตัวดังกล่าวเกิดจากากรใช้จ่ายภาครัฐ การขยายตัวของการส่งออก และการปรับตัวที่ดีขึ้นของการใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคภาคเอกชน ซึ่งปัจจัยเหล่านี้มีแนวโน้มว่าจะสนับสนุนการฟื้นตัวต่อไปอย่างต่อเนื่องรวมทั้งการลงทุนภาคเอกชนได้เริ่มปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างชัดเจนตามการขยายตัวของการส่งออกและการฟื้นตัวของการใช้จ่ายภาคเอกชน ตลอดจนความต้องการลงทุนเพื่อปรับปรุงเทคโนโลยีและประสิทธิภาภการผลิตให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ในระยะต่อไป
อย่างไรก็ดี ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2543 มีปัจจัยลบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ ราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐอเมริกา การปรับตัวลดลงของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ และหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ที่ยังอยู่ในระดับสูงและระบบสถาบันการเงินยังไม่สามารถดำเนินการได้เป็นปกติ รวมทั้งปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ แต่คาดว่าปัจจัยดังกล่าวจะไม่รุนแรงจนกระทั่งทำให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจขึ้นอีก ทั้งนี้คาดว่าในปี 2543 เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวต่อเนื่องจากปี 2542ในอัตราร้อยละ 4.4-5.0
--ข่าวการพัฒนา กองศึกษาและเผยแพร่การพัฒนา สนง.คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ปีที่ 17 ฉบับที่ 6/มิถุนายน 2543--
-สส-
คณะกรรมการัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจ ได้มีมติเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2543 มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นผู้รับผิดชอบประสานการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดเตรียมข้อมูลภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันและแนวโน้มที่มีความถูกต้อง ครบถ้วน และเป็นข้อมูลจริงเพื่อชี้แจงทำความเข้าใจต่อประชาชนทั่วไปนั้น
ในการนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้จัดการประชุมหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2543 และได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติสรุปผลการหารือเพื่อประเมิณสถานการณ์เศรษฐกิจและแนวโน้มดังกล่าว ซึ่งประกอบด้วยสาระสำคัญดังนี้
1. ภาวะฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและแนวโน้ม
เศรษฐกิจไทยได้มีสัญญาณที่เริ่มฟื้นตัวมาตั้งแต่ต้นปี 2542 โดยมีความชัดเจนมากขึ้นในครึ่งหลังของปี และต่เนื่องมาตลอดช่วง 4 เดือนแรกของปี 2543 ทั้งนี้การฟื้นตัวดังกล่าวเกิดจากากรใช้จ่ายภาครัฐ การขยายตัวของการส่งออก และการปรับตัวที่ดีขึ้นของการใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคภาคเอกชน ซึ่งปัจจัยเหล่านี้มีแนวโน้มว่าจะสนับสนุนการฟื้นตัวต่อไปอย่างต่อเนื่องรวมทั้งการลงทุนภาคเอกชนได้เริ่มปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างชัดเจนตามการขยายตัวของการส่งออกและการฟื้นตัวของการใช้จ่ายภาคเอกชน ตลอดจนความต้องการลงทุนเพื่อปรับปรุงเทคโนโลยีและประสิทธิภาภการผลิตให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ในระยะต่อไป
อย่างไรก็ดี ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2543 มีปัจจัยลบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ ราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐอเมริกา การปรับตัวลดลงของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ และหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ที่ยังอยู่ในระดับสูงและระบบสถาบันการเงินยังไม่สามารถดำเนินการได้เป็นปกติ รวมทั้งปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ แต่คาดว่าปัจจัยดังกล่าวจะไม่รุนแรงจนกระทั่งทำให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจขึ้นอีก ทั้งนี้คาดว่าในปี 2543 เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวต่อเนื่องจากปี 2542ในอัตราร้อยละ 4.4-5.0
--ข่าวการพัฒนา กองศึกษาและเผยแพร่การพัฒนา สนง.คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ปีที่ 17 ฉบับที่ 6/มิถุนายน 2543--
-สส-