ดร.อำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) จะจัดสัมมนาระดมความคิดเห็นเรื่อง “แนวคิดและยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศในระยะแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 10” ระดับภาคทั้ง 4 ภาค ช่วงระหว่างกลางเดือน-ปลายเดือนธันวาคม 2548 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนในแต่ละพื้นที่ได้มีโอกาสร่วมระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับการประเมินสถานการณ์ทุนของประเทศ ทั้งทุนทางเศรษฐกิจ ทุนทางสังคม และทุนทางทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งแนวทางการเสริมสร้างทุนดังกล่าวและบทบาทการมีส่วนร่วมของภาคีการพัฒนาต่างๆ ซึ่งจะนำไปสู่การกำหนดกรอบและยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศในระยะแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 10 ต่อไป
ทั้งนี้ จะเริ่มจัดสัมมนาฯ ที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นภาคแรก ในระหว่างวันที่ 16-17 ธันวาคม 2548 ณ โรงแรมโซฟิเทลราชาออร์คิด อ.เมือง จ. ขอนแก่น ต่อจากนั้นจะจัดที่ภาคกลาง ในระหว่างวันที่ 19-20 ธ.ค. 48 ณ โรงแรมสตาร์ อ.เมือง จ. ระยอง ตามด้วยภาคเหนือ ในระหว่างวันที่ 22-23 ธ.ค. 48 ณ โรงแรมปางสวนแก้ว อ.เมือง จ.เชียงใหม่ และปิดท้ายด้วยภาคใต้ ในระหว่างวันที่ 26-27 ธ.ค. 48 ณ โรงแรมแกรนไดมอนด์ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี
สำหรับการสัมมนาในภาคเช้า จะเป็นการบรรยายพิเศษเรื่อง “แนวคิดและทิศทางการพัฒนาประเทศในระยะแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 10” โดย ดร.อำพน กิตติอำพน เลขาธิการฯ ต่อจากนั้นจะเป็นการนำเสนอรายละเอียดทุนแต่ละด้านในประเด็น กรอบแนวคิด ความเชื่อมโยงกับทุนอื่น ข้อเสนอแนวทางการพัฒนา และบทบาทของภาคีการพัฒนา ซึ่งประกอบด้วย ทุนทางเศรษฐกิจ นำเสนอโดย นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รองเลขาธิการฯ ทุนทางสังคม นำเสนอโดย นายกิติศักดิ์ สินธุวนิช รองเลขาธิการฯ และทุนทางทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำเสนอโดย นายสันติ บางอ้อ รองเลขาธิการฯ จากนั้นจะแบ่งกลุ่มย่อยระดมความคิดเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อเสนอรายละเอียดทุนแต่ละด้าน เพื่อนำข้อคิดเห็นจากที่ประชุมกลุ่มย่อยมาสรุปเสนอผลการประชุมในวันรุ่งขึ้น และเปิดโอกาสให้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างกว้างขวางต่อไป
การจัดทำแผนฯ 10 นั้น เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2547 ที่ได้มอบให้ สศช. เตรียมการจัดทำแผนฯ 10 โดย สศช. ได้เริ่มกระบวนการนับตั้งแต่ปลายปี 2547 เป็นต้นมา ซึ่งมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมในทุกระดับ โดยได้จัดเวทีระดมความคิดเห็นจากหน่วยงานภาครัฐ เพื่อระดมความเห็นเกี่ยวกับกรอบทิศทางและยุทธศาสตร์ของแผนฯ 10 จากนั้นได้จัดการสัมมนาระดับภาคเพื่อระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับทิศทางการพัฒนาภาคในระยะแผนฯ 10 ใน 4 ภูมิภาค และจัดเวทีระดมความคิดเห็นระดับประเทศ ในการประชุมประจำปี 2548 ของ สศช. เพื่อระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับกรอบทิศทางและยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศในระยะ 5 ปี ของแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 10 ใน 5 ด้าน ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงของบริบทการพัฒนาต่อทิศทางการพัฒนาประเทศไทย การสร้างฐานเศรษฐกิจที่มั่นคงและยั่งยืน การเพิ่มมูลค่าผลผลิตด้วยฐานความรู้ การพัฒนาสังคมเชิงรุก และการเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจโลกและภูมิภาค
ผลที่ได้จากการระดมความคิดเห็นในระดับต่างๆ ดังกล่าว และผลจากการติดตามประเมินผลแผนฯ 9 สศช. ได้นำมาประมวลยกร่างเป็นเอกสาร “แนวคิดและยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศในระยะแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 10 (พ.ศ.2550-2554)” เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการระดมความคิดเห็นเพิ่มเติมในระดับภาคทั้ง 4 ภาค ทั้งนี้ แผนการดำเนินงานขั้นต่อไป สศช. จะยกร่างรายละเอียดยุทธศาสตร์ของแผนฯ โดยจัดตั้งคณะอนุกรรมการยกร่างแผนในแต่ละยุทธศาสตร์ รวมทั้งจัดประชุมเชิงปฏิบัติการ เพื่อระดมการมีส่วนร่วมของผู้ที่เกี่ยวข้องจากทุกภาคส่วนของสังคม ในการสังเคราะห์เป็นแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศที่ได้รับการยอมรับร่วมกัน หลังจากนั้นจะจัดประชุมระดับชาติ เพื่อระดมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนเกี่ยวกับ “ร่างแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 10” ในการประชุมประจำปี 2549 ของ สศช. ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาภายในเดือนสิงหาคม 2549 และกราบบังคมทูลฯ เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธยประกาศใช้ภายในวันที่ 1 ตุลาคม 2549
--สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ--
-พห-
ทั้งนี้ จะเริ่มจัดสัมมนาฯ ที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นภาคแรก ในระหว่างวันที่ 16-17 ธันวาคม 2548 ณ โรงแรมโซฟิเทลราชาออร์คิด อ.เมือง จ. ขอนแก่น ต่อจากนั้นจะจัดที่ภาคกลาง ในระหว่างวันที่ 19-20 ธ.ค. 48 ณ โรงแรมสตาร์ อ.เมือง จ. ระยอง ตามด้วยภาคเหนือ ในระหว่างวันที่ 22-23 ธ.ค. 48 ณ โรงแรมปางสวนแก้ว อ.เมือง จ.เชียงใหม่ และปิดท้ายด้วยภาคใต้ ในระหว่างวันที่ 26-27 ธ.ค. 48 ณ โรงแรมแกรนไดมอนด์ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี
สำหรับการสัมมนาในภาคเช้า จะเป็นการบรรยายพิเศษเรื่อง “แนวคิดและทิศทางการพัฒนาประเทศในระยะแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 10” โดย ดร.อำพน กิตติอำพน เลขาธิการฯ ต่อจากนั้นจะเป็นการนำเสนอรายละเอียดทุนแต่ละด้านในประเด็น กรอบแนวคิด ความเชื่อมโยงกับทุนอื่น ข้อเสนอแนวทางการพัฒนา และบทบาทของภาคีการพัฒนา ซึ่งประกอบด้วย ทุนทางเศรษฐกิจ นำเสนอโดย นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รองเลขาธิการฯ ทุนทางสังคม นำเสนอโดย นายกิติศักดิ์ สินธุวนิช รองเลขาธิการฯ และทุนทางทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำเสนอโดย นายสันติ บางอ้อ รองเลขาธิการฯ จากนั้นจะแบ่งกลุ่มย่อยระดมความคิดเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อเสนอรายละเอียดทุนแต่ละด้าน เพื่อนำข้อคิดเห็นจากที่ประชุมกลุ่มย่อยมาสรุปเสนอผลการประชุมในวันรุ่งขึ้น และเปิดโอกาสให้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างกว้างขวางต่อไป
การจัดทำแผนฯ 10 นั้น เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2547 ที่ได้มอบให้ สศช. เตรียมการจัดทำแผนฯ 10 โดย สศช. ได้เริ่มกระบวนการนับตั้งแต่ปลายปี 2547 เป็นต้นมา ซึ่งมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมในทุกระดับ โดยได้จัดเวทีระดมความคิดเห็นจากหน่วยงานภาครัฐ เพื่อระดมความเห็นเกี่ยวกับกรอบทิศทางและยุทธศาสตร์ของแผนฯ 10 จากนั้นได้จัดการสัมมนาระดับภาคเพื่อระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับทิศทางการพัฒนาภาคในระยะแผนฯ 10 ใน 4 ภูมิภาค และจัดเวทีระดมความคิดเห็นระดับประเทศ ในการประชุมประจำปี 2548 ของ สศช. เพื่อระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับกรอบทิศทางและยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศในระยะ 5 ปี ของแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 10 ใน 5 ด้าน ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงของบริบทการพัฒนาต่อทิศทางการพัฒนาประเทศไทย การสร้างฐานเศรษฐกิจที่มั่นคงและยั่งยืน การเพิ่มมูลค่าผลผลิตด้วยฐานความรู้ การพัฒนาสังคมเชิงรุก และการเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจโลกและภูมิภาค
ผลที่ได้จากการระดมความคิดเห็นในระดับต่างๆ ดังกล่าว และผลจากการติดตามประเมินผลแผนฯ 9 สศช. ได้นำมาประมวลยกร่างเป็นเอกสาร “แนวคิดและยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศในระยะแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 10 (พ.ศ.2550-2554)” เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการระดมความคิดเห็นเพิ่มเติมในระดับภาคทั้ง 4 ภาค ทั้งนี้ แผนการดำเนินงานขั้นต่อไป สศช. จะยกร่างรายละเอียดยุทธศาสตร์ของแผนฯ โดยจัดตั้งคณะอนุกรรมการยกร่างแผนในแต่ละยุทธศาสตร์ รวมทั้งจัดประชุมเชิงปฏิบัติการ เพื่อระดมการมีส่วนร่วมของผู้ที่เกี่ยวข้องจากทุกภาคส่วนของสังคม ในการสังเคราะห์เป็นแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศที่ได้รับการยอมรับร่วมกัน หลังจากนั้นจะจัดประชุมระดับชาติ เพื่อระดมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนเกี่ยวกับ “ร่างแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 10” ในการประชุมประจำปี 2549 ของ สศช. ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาภายในเดือนสิงหาคม 2549 และกราบบังคมทูลฯ เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธยประกาศใช้ภายในวันที่ 1 ตุลาคม 2549
--สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ--
-พห-