2.2 สมมุติฐานการประมาณการเศรษฐกิจปี 2549: ราคาน้ำมันดิบดูไบบาเรลละ 62-65 ดอลลาร์ สรอ.สูงกว่าเฉลี่ยบาเรลละ49.30 ดอลลาร์ในปี 2548 การขยายตัวเศรษฐกิจโลกเท่ากับร้อยละ 4.4
(1) เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มขยายตัวร้อยละ 4.6 ใน ปี 2549 สูงกว่าร้อยละ 4.4 ในปี 2548 และเป็นการปรับเพิ่มจาสมมุติฐานการขยายตัวร้อยละ 4.4 ในเดือนมีนาคม จากการปรับเพิ่มการขยายตัวของ สหรัฐฯ จีน กลุ่มยูโร เกาหลีใต้ และฟิลิปปินส์ ซึ่งการปรับเพิ่มโดยรวมแล้วมากกว่าการปรับลดการขยายตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่นลงจากร้อยละ 3.3 ในการประมาณการครั้งก่อนเป็นร้อยละ 2.8 ในการประมาณการครั้งนี้
เศรษฐกิจของประเทศญี่ปุ่นขยายตัวดีขึ้นจากร้อยละ 2.6 ในปี 2548 เป็นร้อยละ 2.8 ในปี 2549 ตามภาวะการลงทุนและการบริโภคที่ปรับตัวดีขึ้น และแรงกดดันปัญหาเงินฝืดบรรเทาลงมาก และราคาสินค้าโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ทั้งนี้จากผลการสำรวจความเชื่อมั่นภาวะธุรกิจ Tankan ล่าสุด พบว่าความเชื่อมั่นภาคธุรกิจ โดยเฉพาะของผู้ผลิตขนาดใหญ่ปรับตัวดีขึ้นเศรษฐกิจกลุ่มยูโรขยายตัวได้ดีขึ้นร้อยละ 2.1 สูงกว่าร้อยละ 1.9 ในปีที่ผ่านมาจากการฟื้นตัวได้ดีขึ้นของเศรษฐกิจเยอรมัน ฝรั่งเศส และอิตาลี ที่การส่งออกดีขึ้น ตามและการลงทุนโดยรวมที่ฟื้นตัวตามกำไรภาคธุรกิจที่เพิ่มขึ้น เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาชะลอตัวลงเล็กน้อยจากร้อยละ 3.5 เป็นร้อยละ 3.4 ตามภาวะการใช้จ่ายในประเทศและตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ชะลอตัวลง เศรษฐกิจจีนชะลอตัวลงจากการขยายตัวร้อยละ 9.9 ในปี 2548 เป็นร้อยละ 9.6 ในปี 2549 นี้
เนื่องจากการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรที่ชะลอตัวลงและค่าเงินหยวนที่มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นและเริ่มส่งผลกระทบต่อการส่งออกโดยเฉพาะการส่งออกไปยังตลาดสหรัฐฯ ซึ่งในขณะเดียวกันก็ได้รับแรงกดดันจากภาคเอกชนสหรัฐฯให้กีดกันการค้าจากประเทศจีนมากขึ้น ซึ่งทำให้มีความเสี่ยงจากความขัดแย้งทางการค้ากับประเทศสหรัฐฯ มากขึ้น สำหรับกลุ่มเอเชียที่ไม่รวมญี่ปุ่นและจีนค่อนข้างทรงตัว โดยที่ขยายตัวได้ดีในครึ่งแรกของปีแต่มีแนวโน้มชะลอตัวในครึ่งหลังตามการส่งออกที่มีแนวโน้มชะลอตัวลงในช่วงที่วัฏจักรอิเล็กทรอนิกส์เริ่มชลอตัว นอกจากนั้น ราคาน้ำมันดิบที่ยังมีแนวโน้มสูงขึ้นและผลของการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้นโดยประเทศส่วนใหญ่ได้ปรับเพิ่มอัตรา ดอกเบี้ย ทั้งสหรัฐฯ จีน ยุโรป เกาหลีใต้ ไต้หวัน รวมทั้งญี่ปุ่นที่คาดว่าจะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายในครึ่งหลังของปี จะส่งผลให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงในครึ่งหลังของปี 2549
(2) ราคาน้ำมัน: ปรับสมมุติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบเพิ่มขึ้นเป็นเฉลี่ยบาเรลละ 63 ดอลลาร์ สรอ. จากสมมุติฐานเดิมบาเรลละ 57 ดอลลาร์ สรอ.
* ราคาน้ำมันยังมีแนวโน้มทรงตัวอยู่ในระดับสูง คาดว่าราคาเฉลี่ยทั้งปี 2549 จะอยู่ในช่วง 62-65 ดอลลาร์ สรอ. โดยราคาเฉลี่ยที่เป็นไปได้มากที่สุด คือ 63 ดอลลาร์ สรอ. สูงกว่าบาเรลละ 49.30 ดอลลาร์ สรอ.ในปี 2548 ร้อยละ 27.8 และเป็นการปรับเพิ่มจากสมมุติฐานเดิมที่เฉลี่ยบาเรลละ 57 ดอลลาร์ สรอ.(ของช่วงประมาณการ 55-58 ดอลลาร์ สรอ.) สำหรับความเคลื่อนไหวราคาน้ำมันตลอดปี 2549 นั้น ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2549 ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นมากอยู่ที่ระดับเฉลี่ย 60.67 ดอลลาร์ สรอ. และคาดว่า
* ราคาเฉลี่ยไตรมาสที่สองจะอยู่ทรงตัวอยู่สูงที่บาเรลละ 64 ดอลลาร์เนื่องจากเป็นช่วงเริ่มต้นของฤดูร้อนมีการเดินทางโดยรถยนต์มากในทวีปยุโรปและอเมริกา ก่อนที่ลดลงเป็นเฉลี่ยบาเรลละ 62 ในช่วงฤดูใบไม้ผลิตและปรับเพิ่มเป็นบาเรลละ 65 ดอลลาร์ ในช่วงฤดูหนาวของซีกโลกตะวันตก
* ณ วันที่ 9 พฤษภาคม 2549 กรมสารนิเทศการพลังงาน กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ (EIA) คาดว่าราคาน้ำมันดิบอ้างอิง West Texas Intermediate (WTI) ในปี 2549 จะอยู่ที่บาเรลละ 68 ดอลลาร์ สรอ. ซึ่งโดยปกติราคาอ้างอิงจะสูงกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบประมาณบาเรลละ 5-8 ดอลลาร์ สรอ.
* ในปัจจุบันราคาอ้างอิงโดยเฉลี่ยสำหรับน้ำมันดิบ เบรนท์ในตลาดล่วงหน้าของสหรัฐฯ ตลอดปี 2549 เท่ากับบาเรลละ 69 ดอลลาร์ และโดยเฉลี่ยราคาน้ำมันดิบเบรนท์จะสูงกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบประมาณบาเรลละ 5-8 ดอลลาร์ สรอ.(C)
****************************************************************************************************
(C) อ้างอิงจาก Global Weekly Economic Monitor โดย Lehman Brother ฉบับประจำวันที่ 2 มิถุนายน 2549
(ยังมีต่อ).../(3) ราคาส่ง..