เศรษฐกิจไตรมาสแรกปี 2549 ขยายตัวร้อยละ 6.0 สูงกว่าการขยายตัวร้อยละ 4.7 ในไตรมาสสุดท้าย แต่อย่างไรก็ตามเมื่อปรับปัจจัยฤดูกาลออกแล้วจะเห็นว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัวต่อเนื่องตั้งแต่ครึ่งหลังของปี 2548
ปัจจัยสนับสนุนสำคัญสำหรับการขยายตัวของเศรษฐกิจในไตรมาสแรกของปี 2549 คือ ปริมาณการส่งออกสินค้าและบริการที่เพิ่มขึ้นมากจากฐานที่ต่ำในช่วงเดียวกันของปี 2548 ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากการฟื้นตัวของวัฏจักรอิเล็กทรอนิกส์ตั้งแต่ครึ่งหลังของปีที่แล้ว ในขณะที่ปริมาณการนำเข้าชะลอลงมากจากฐานการนำเข้าที่สูงมากในปีที่แล้ว จึงทำให้ปริมาณการส่งออกสุทธิเพิ่มขึ้นมากและช่วยชดเชยภาวะการชะลอตัวของการใช้จ่ายและการลงทุนภายในประเทศ
ผลกระทบของราคาน้ำมันที่สูงขึ้น อัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้นตาม และการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในตลาดเงิน ต่อเศรษฐกิจชัดเจนมากขึ้น เห็นได้จากการใช้จ่ายครัวเรือนและการลงทุนภาคเอกชนที่มีแนวโน้มชะลอตัวต่อเนื่อง โดยที่สินเชื่อธนาคารพาณิชย์โดยรวมขยายตัวช้าลง เช่นเดียวกับสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภคที่ขยายตัวช้าลง
เสถียรภาพทางเศรษฐกิจโดยรวมยังมั่นคงแต่แรงกดดันเงินเฟ้อสูง ใน 5 เดือน แรก อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเท่ากับร้อยละ 5.9 แต่การดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้น ในขณะที่ยังรักษาเป้าหมายการคลังสมดุล จะช่วยแรงกดดันต่อภาวะเงินเฟ้อ ดุลบัญชีเดินสะพัดกลับมาเกินดุล 1.4 พันล้านดอลลาร์ สรอ. ใน 4 เดือนแรก อัตราการว่างงานเฉลี่ยเท่ากับร้อยละ 1.9 และทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศเท่ากับ 57.2 พันล้านดอลลาร์ สรอ. ณ สิ้นเดือนเมษายน 2549 คิดเป็นประมาณ 3 เท่าของหนี้สินต่างประเทศระยะสั้น
คาดว่าในปี 2549 เศรษฐกิจจะขยายตัวร้อยละ 4.2-4.9 โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากการส่งออกสินค้าและบริการ ซึ่งจะสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจได้มากกว่าในปี 2548 เนื่องจากการท่องเที่ยวฟื้นตัวเต็มที่มากขึ้นและการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ และหมวดอาหารยังขยายตัวต่อเนื่อง แต่การนำเข้าชะลอตัว ในขณะที่อุปสงค์ภายในประเทศชะลอตัวลงและสนับสนุนการขยายตัวได้น้อยลงกว่าในปี 2548
ความเสี่ยงและข้อจำกัดของการขยายตัวทางเศรษฐกิจในช่วงครึ่งหลังของปี ประกอบด้วย ราคาน้ำมันที่สูง ภาวะเงินเฟ้อ การปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย และภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว รวมทั้งไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศ
(ยังมีต่อ)../1.ภาพรวมเศรษฐกิจ..